กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) [สนช.] กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดพิธีเปิดตัว “โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” ขึ้น เพื่อสร้างระบบการพัฒนาโครงการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย และสร้างระบบผู้ให้บริการงานนวัตกรรม ที่จะช่วยผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวคิดด้านนวัตกรรมไปปรับใช้ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เกียรติเป็นประธาน
ดร. วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “จากนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ต้องการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการผลักดันนโยบายการสนับสนุนภาคเอกชนในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่ง “โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ” นี้ นับเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ช่วยเร่งพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันด้านนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์สู่มิติใหม่ของสังคมไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มและแปรรายได้ให้กับสินค้า บริการ และอุตสาหกรรมผ่านกระบวนการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการ ดังนั้น การจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของโครงการความร่วมมือ โดยมี สนช. เป็นผู้ริเริ่มและเป็นแกนกลางในการผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการของหน่วยงานที่เป็น “ผู้สร้างองค์ความรู้” และ “ภาคการผลิตที่แท้จริง” ของประเทศ อันจะส่งผลให้เกิดกระบวนการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของภาคเอกชนที่แท้จริงต่อไป”
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “โลกธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงเช่นในปัจจุบันส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ “การสร้างความแตกต่าง" และ "การสร้างตราสินค้า" เพื่อนำไปสู่ความอยู่รอดทางธุรกิจ โดยอาจต้องนำเทคนิคและวิธีต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกัน คำว่า “นวัตกรรม” จึงได้ถูกหยิบยกมากล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางเพื่อนำมาเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ แต่จะเห็นได้ว่าการทำ “นวัตกรรม” นั้นถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก สนช. และ ส.อ.ท. จึงได้ริเริ่ม “โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ” ขึ้น โดย ส.อ.ท. ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สนช. จำนวน 120 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ในการเริ่มต้นพัฒนาโครงการนวัตกรรม โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ 1) การศึกษาความเป็นไปได้ของนวัตกรรม และ 2) การต่อยอด/พัฒนา ผลิตภัณฑ์ หรือปรับปรุงกระบวนการใหม่
ทั้งนี้ ส.อ.ท. จะเป็นผู้บริหารจัดการโครงการดังกล่าวตั้งแต่ขั้นตอนการแสวงหาและคัดเลือกผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการงานนวัตกรรม (Innovation Service Provider; ISP) พร้อมทั้งจัดการอบรมสำหรับการยื่นข้อเสนอโครงการนวัตกรรม ตลอดจนพิจารณาสนับสนุนและประเมินผลความสำเร็จของโครงการที่เข้ามาขอรับการสนับสนุน โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือต่างๆ ทั้งระดับจังหวัด ภูมิภาค และประเทศ”
นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ ถือเป็นแนวคิดใหม่ที่จะช่วยผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำแนวคิดด้านนวัตกรรมไปปรับใช้ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งจากการดำเนินการสนับสนุนให้เกิดธุรกิจนวัตกรรมของ สนช. ภายใต้กลไกการสนับสนุนด้านวิชาการและการเงินนั้นพบว่า มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่มีความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงของการดำเนินโครงการนวัตกรรมด้วยตัวเอง ทำให้การพัฒนาโครงการนวัตกรรมของผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีอยู่ในวงจำกัด ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดแนวคิดการพัฒนานวัตกรรมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกจังหวัด สนช. จึงได้ริเริ่มและแสวงหาแนวคิดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ให้กับผู้ประกอบการ โดยการจัดทำ “โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ” ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการร่วมรังสรรค์และการทำงานเป็นทีมของ “ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี” และ “ผู้ให้บริการงานนวัตกรรม” ทำให้เกิดการพัฒนาโครงการนวัตกรรมจากแนวคิดที่มีความพร้อมทั้งในแง่เทคโนโลยี และการตลาด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตัดสินใจในการลงทุนธุรกิจนวัตกรรมของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อไปในอนาคต”
“โครงการคูปองนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ” – เงินทุนสนับสนุนในรูปแบบของคูปอง วงเงิน 1- 4 แสนบาท คิดเป็นร้อยละ 90 ของมูลค่าโครงการที่ขอรับการสนับสนุน เพื่อพัฒนาโครงการนวัตกรรมในช่วงเริ่มต้นจากความต้องการของเอสเอ็มอี แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1) การศึกษาความเป็นไปได้ของนวัตกรรม (Feasibility) วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อโครงการ จำนวน 400 โครงการ และ 2) การต่อยอด/พัฒนา ผลิตภัณฑ์ หรือปรับปรุงกระบวนการใหม่ (Implementation) วงเงินไม่เกิน 400,000 บาทต่อโครงการ จำนวน 150 โครงการ
ทั้งนี้ สนช. คาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาให้เกิดโครงการนวัตกรรมจากผู้ประกอบการทั่วประเทศ จำนวนไม่ต่ำกว่า 550 โครงการ และสามารถนำมาขยายผลสู่โครงการนวัตกรรมที่ สนช. ให้การสนับสนุนเพื่อขยายสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 โครงการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
โทร. 0-2345-1013 โทรสาร 0-2345-1296-8
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit