กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--ไบโอคอนซูเมอร์
“ไบโอคอนซูเมอร์” แตกไลน์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กดีนี่ ประกาศเพิ่มงบการตลาดเพิ่ม 100% รุกตลาดแป้งเด็ก เปิดตัว “ดีนี่ เพียว แป้งเด็ก” สำหรับเด็กแรกเกิด -3 ปี และ “ดีนี่ คิดส์” แป้งเด็กสำหรับเด็กวัยอนุบาลตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ได้ตั้งเป้าผลิตภัณฑ์แป้งเด็กขึ้นแท่นที่ 4 ของตลาดแป้งเด็กด้วยมาร์เก็ตแชร์ 8% จากมูลค่ตลาดรวม 2,400 ล้านบาทในปีแรก พร้อมขยับขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของตลาดได้ภายใน 3 ปี
นางศิริสุภา อาจสัญจร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอคอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดีนี่ (D-nee) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์เด็กดีนี่เป็นแบรนด์ที่ได้รับการตอบรับดีอย่างต่อเนื่องจากคุณแม่ ทั้งในกลุ่มคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ที่มีลูกแรกเกิด จนถึงคุณแม่ที่มีลูกในวัยอนุบาล เนื่องจากผลิตภัณฑ์เด็กดีนี่มีสินค้าที่หลากหลายตอบสนองความต้องการของกลุ่มคุณแม่ได้ครบครัน มีกลิ่นหอม และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ใช้แล้วไม่แพ้ และไม่ระคายเคือง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้พัฒนาขึ้นด้วยความเข้าใจธรรมชาติของกลุ่มคุณแม่และความพิถีพิถันในขั้นตอนการผลิต และมีการทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการทำกิจกรรมทางการตลาดโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ผลิตภัณฑ์เด็กดีนี่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึงปีละ 40% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
จากการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์เด็กดีนี่ (D-nee) ปีนี้บริษัทจึงมีแผนแตกไลน์สินค้าไปยังตลาดแป้งเด็ก เนื่องจากแป้งเป็นตลาดที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก โดยมีมูลค่ารวมสูงถึงประมาณ 2,400 ล้านบาท และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งยังเป็นการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้แป้งเด็กดีนี่ และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ดีดี่อีกแนวทางหนึ่งด้วย
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว ประกอบด้วย ดีนี่ เพียว แป้งเด็ก สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี มีทั้งหมด 4 กลิ่นด้วยกัน คือสีฟ้า (แองเจิล บลู), สีชมพู (พิงค์ เบอร์รี่), สีขาว (นิว บอร์น) และสีม่วง (แฮปปี้ ฟรุ๊ตตี้) มีจำนวน 4 ขนาดคือ 50 กรัม ราคา 12 บาท, 200 กรัม ราคา 30 บาท, 500 กรัม ราคา 60 บาท และ 500 กรัมแบบแพคคู่ ราคา 110 บาท และ ดีนี่ คิดส์ แป้งเด็ก สำหรับวัยอนุบาล อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป มีทั้งหมด 4 กลิ่นคือสีฟ้า (เกรปส์ แอนด์ บลูเบอร์รี่ ไอศครีม), สีชมพู (สตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ต แคนดี้), สีเขียว (แอปเปิ้ล กีวี เจลลี่) และสีส้ม (ฟันนี่ ซันนี่) มี 2 ขนาด คือ 50 กรัม ราคา 12 บาท และ 200 กรัม ราคา 30 บาท
ทั้งนี้ บริษัทได้วางจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมา ส่วนร้านค้าโมเดิร์นเทรด หรือในศูนย์การค้าต่างๆ จะมีจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการต้อนรับจากผู้บริโภคกันเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ดีนี่ เนื่องจากแป้งเด็กดีนี่มีเนื้อเนียนละเอียด ไม่ระคายเคือง ช่วยไม่ให้เกิดผดผื่นคัน และมีส่วนผสมของสารสกัดผลไม้ ที่ช่วยบำรุงผิวของลูกน้อยให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ พร้อมทั้งยังช่วยป้องกันการอับชื่น และมีสูตรที่แป้งฟุ้งกระจายน้อยด้วย ขณะที่บรรจุภัณฑ์และกลิ่นแนวผลไม้ยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของดีนี่อีกด้วย
สำหรับปีนี้เราใช้งบประมาณทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 100% เพื่อส่งแป้งเด็กทั้ง 2 สูตรเข้าสู่ตลาดในครั้งนี้ และยังเป็นครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ดีนี่ที่ใช้กลยุทธ์ เซเลบบิตี้ (celebrity) โดยใช้ครอบครัวของคุณซินดี้ในการโฆษณา เพื่อช่วยให้เกิดการจดจำในสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และเกิดภาพพจน์ที่ดีในใจของคุณแม่และบุคคลทั่วไป โดยทำการเปิดตัวในงานรักลูก เฟสติวัล 2011 ระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคมศกนี้ ที่อิมแพคเมืองทองธานี นอกจากนี้ยังได้ทำกิจกรรมกับดีนี่คลับ และมีเป้าหมายเป็นคลับออนไลน์ ด้วยการเปิดตัว เฟสบุ๊ค (Facebook) ของดีนี่ด้วย” นางสาวศิริสุภากล่าว
นางศิริสุภา กล่าวต่อไปว่า จากแผนดังกล่าวนี้บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า ในปีแรกที่เปิดตลาดผลิตภัณฑ์แป้งเด็กดีนี่จะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 8% อยู่ในอันดับ 4 ของตลาดแป้งเด็ก ซึ่งปัจจุบันมีแป้งเด็กแคร์เป็นผู้นำตลาด ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 40% และผลิตภัณฑ์แป้งเด็กเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยผลักดันให้สัดส่วนของยอดขายรวมของผลิตภัณฑ์ดีนี่เพิ่มขึ้นเป็น 20% ของบริษัทไอโอคอนซูเมอร์ จากปัจจุบันที่สัดส่วนยอดขายอยู่ประมาณ 13% และขยับขึ้นเบอร์ 3 ของตลาดแป้งเด็กได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20-25%
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit