กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค
นายกิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวอร์ค จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Audi ในประเทศไทยกล่าวว่า “ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 นี้ ทาง Audi ได้นำเทคโนโลยี TFSI ซึ่งเป็น 1 ในเทคโนโลยีสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Audi ประสบผล สำเร็จในด้านยอดขายทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขสูงสุดถึง 1,092,400 คัน และทำให้ Audi ครองตำแหน่งรถพรีเมียมที่มียอดขายรถดีที่สุดในยุโรป ดังนั้นในงานนี้ทางบริษัทฯ จึงได้นำรถยนต์ 3 รุ่นหลักของ Audi ได้แก่รถซาลูน Audi A4 1.8 TFSI , รถสปอร์ตคูเป้ Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro และรถเอสยูวี Audi Q5 2.0 TFSI quattro ซึ่งทั้ง 3 รุ่นนี้เน้นใช้เทคโนโลยี TFSI(Turbo Fuel Stratified Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเครื่องยนต์ เบนซินระบบฉีดจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์โดยตรง ที่ให้ทั้งสมรรถนะยอดเยี่ยม ให้ความสนุกเร้าใจในการขับขี่ และให้ความประหยัดน้ำมัน มากกว่าเครื่องยนต์ระดับเดียวกันถึง 15% ซึ่งแนวคิดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นนโยบายสำคัญที่ทาง Audi ให้ความใส่ใจมาโดยตลอด นอกจากเทคโนโลยี TFSI แล้ว Audi ยังมีเทคโนโลยี quattro ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตลอดเวลาที่ Audi เป็นผู้บุกเบิกในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์โลกเป็นรายแรก พัฒนาขึ้นมานานถึง 30 ปี โดย quattro รุ่นปัจจุบันนี้สามารถตอบสนองการทำงานได้ดีและรวดเร็ว ให้การทรงตัวที่ดีมาก ทำให้สนุกกับการขับขี่อย่างเต็ม ที่ในทุกสภาพถนน ด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด”
Audi A4 1.8 TFSI เป็นรถซาลูนที่สปอร์ตที่สุดในเซกเมนต์ ทั้งด้วยรูปลักษณ์ สปอร์ตโฉบเฉี่ยว โดดเด่นเหนือใคร ไฟหน้าซีนอนพลัสใหม่ พร้อม ไฟ LED14 ดวง มีโอเวอร์แฮงค์ด้านหน้าสั้น ฝากระโปรงและฐานล้อที่ยาวขึ้นอย่างเด่นชัด จึงทำให้ Audi A4 เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ใหญ่ที่สุด ดู สปอร์ตที่สุดเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC พร้อมระบบฉีดจ่ายน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์โดยตรง จึงให้ทั้งสมรรถนะความแรงเกิน พิกัด แต่ช่วยประหยัดน้ำมันมากถึง15 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 4500-6200 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1500-4500 รอบต่อนาที จึงทำให้สามารถเร่งแซงได้รวดเร็วทันใจ คล่องแคล่ว ปราดเปรียว แต่คงความประหยัดน้ำมันได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 13.51 กิโลเมตร ต่อ ลิตร
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro รถสปอร์ตพรีเมียมคูเป้ 2 ประตู รุ่นใหม่ ดุลยภาพแห่งความสปอร์ตและความงามสง่า ดีไซน์สวยงามหมดจดตั้งแต่ ด้านหน้าจรดด้านท้าย ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวทรงพลัง เจ้าของรางวัลชนะเลิศรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมแห่งประเทศเยอรมนีประจำปี Design Oscar ซึ่งถือ เป็นรางวัลออสการ์ด้านดีไซน์ของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ จัดขึ้นโดยสถาบันอันทรงเกียรติของเยอรมนี “The German Design Council” ด้านมิติตัวรถมีความ ยาว 4,625 มม. ความกว้าง 1,854 มม. และความสูง 1,372 มม.
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro เป็นรถคูเป้เพียงยี่ห้อเดียว ที่โดดเด่นและแตกต่างเหนือรถยนต์คูเป้พรีเมี่ยม ยี่ห้ออื่น ด้วย quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Audi จึงทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเหนือกว่าระบบขับเคลื่อน แบบ 4 ล้อทั่วไป ให้ทั้งความสนุกแรงเร้าใจแบบเกินพิกัด ที่มาพร้อมกับความปลอดภัยสูงสุดและมั่นใจในทุกสภาพถนน สำหรับเครื่องยนต์ เป็นเบนซิน 4 สูบ แถวเรียง DOCH ขนาด 1,984 ซีซี ใช้เทคโนโลยี TFSI และ Audi valvelift system ที่ให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันถึง 15% เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาทีให้แรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาที ระบบ เกียร์ S tronic 7 สปีด ทำความเร็วสูงสุด 245 กม./ชม. มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.5 วินาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 13.33 กม./ลิตร
Audi Q5 2.0 TFSI quattro ได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัย สวยงาม สปอร์ต ปราดเปรียว แตกต่างจาก SUV ทั่วไปที่เป็นรูปทรงเหลี่ยม เหนือกว่า คู่แข่งด้วยมิติตัวรถมีความยาวรถถึง 4,629 มม. มีความกว้างตัวรถ 1,880 มม. มีความสูง 1,653 มม. มีฐานล้อยาว 2,807 มม. ที่สำคัญมีค่าสัมประสิทธิ์ แรงต้านอากาศต่ำที่สุดเพียง 0.33 ซึ่งถือว่าดีที่สุดในบรรดารถคู่แข่งระดับเดียวกัน Audi Q5 2.0 TFSI quattro ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2 ลิตร พร้อม TFSI ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้รับรางวัลเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก (Engine of The Year) ติดต่อกัน 5 ปี (พ.ศ.2548-2552)ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้าที่ 4,300 – 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดถึง 350 นิวตันเมตรที่ 1,500 – 4,200 รอบต่อนาที มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยเพียง 11.76 ก.ม./ลิตร เท่านั้นและสามารถวิ่งทางไกลได้ถึง 13.70 ก.ม./ลิตร
ความโดดเด่นทางเทคโนโลยีของ Audi Q5 ที่สำคัญอีกด้านคือ quattro ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ตลอดเวลาที่มีการทรงตัวดีมาก จากการ สมดุลของการกระจายแรงขับเคลื่อน จึงรู้สึกได้ถึงความแตกต่างในการขับขี่ คุณสามารถสนุกกับการขับขี่อย่างเต็มที่ในทุกสภาพถนน ด้วยความมั่นใจในความ ปลอดภัยสูงสุด แม้การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง หรือการขับขี่บนพื้นถนนลื่น หรือ บนเส้นทางออฟโรด
สำหรับแคมเปญพิเศษในงานนี้
Audi
กำลังสูงสุด/แรงม้า/รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด/นิวตันเมตร/รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย ก.ม./ลิตร
Audi A4 1.8 TFSI
160/4500-6200
250/1500-4500
13.51
Audi A5 Coupe 2.0 TFSI quattro 211/4300-6000
350/1500-4200
13.33
Audi Q5 2.0 TFSI quattro
211/4300-6000
350/1500-4200
11.76
Audi Group ขายรถ Audi ได้ทั้งหมด 1,092,400 คันในปี 2553 บริษัทฯมีรายได้ 29.8 พันล้านยูโรและมีกำไร 1.6 พันล้านยูโร รถยนต์ Audi ผลิต ที่เมืองอิงโกลสตัดช์ และ เนคกาซูลม (เยอรมนี), เกเยอร์ (ฮังการี), ชางชุน (จีน) และ บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) ที่เมืองอารางบัด ประเทศอินเดีย มีการ ผลิต Audi A6 ในช่วงปลายปี 2550 และ Audi A4 ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2551สำหรับ Audi A1 เริ่มทำการผลิตที่โรงงานบรัสเซลส์ในเดือนพฤษภาคม 2553 บริษัททำการตลาดเติบโตขึ้น 100 ประเทศทั่วโลก บริษัท Audi AG ถือหุ้นบริษัททั้งหมด รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทลูกในเครือ ได้แก่ บริษัท AUDI HUNGARIA MOTOR Kft. บริษัท Automobili Lamborghini Holding S.p.A ในเมือง Sant’Agata Bolognese อิตาลี และบริษัท quattro GmbH เมือง Neckarsulm Audi มีพนักงานประมาณ 58,000 คน ทั่วโลก รวมพนักงาน 45,500 คนในเยอรมนี ในช่วงปี 2553 ถึง 2555 Audi วางแผนจะลงทุนประมาณ 5.5 พันล้าน ยูโรในเรื่องของผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีให้สมกับสโลแกนของบริษัทว่า “Vorsprung durch Technik” Audi วางแผนที่จะ ผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 42 รุ่นภายในปี 2558
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit