PLUS มาตามนัด ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น EPCO เริ่ม 21 มี.ค.-21 เม.ย.นี้ พันธมิตร ตปท.สนับสนุนเงินทุนทำเทนเดอร์ฯ 600 ลบ.

21 Mar 2011

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--IR Network

บมจ.พี พลัส พี หรือ PLUS ทำตามคำสัญญาประกาศตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น EPCO ระหว่างวันที่ 21 มี.ค.-21 เม.ย.นี้ ในราคาหุ้นละ 1.94 บาท เผยปัจจุบันทั้งกลุ่มถือหุ้นรวมร้อยละ 36.81 และจะทำคำเสนอซื้อส่วนที่เหลือทั้งหมด 299.625 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 63.19 ซึ่งต้องใช้เงินทั้งหมด 581.27 ล้านบาท ผู้บริหารยันไม่มีปัญหาด้านเงินทุน เพราะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรต่างประเทศ อนุมัติวงเงินให้ถึง 600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ สะท้อนภาพเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งและได้รับความเชื่อถือจากต่างชาติ เผยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับ PLUS เป็น บจ.น้ำดีของตลาดหลักทรัพย์ มีฐานะมั่นคงพร้อมจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต

นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS เปิดเผยว่าตามที่ บริษัท พี พลัส พี จำกัด (มหาชน) และบุคคลตามมาตรา 258 คือ บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด และ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มาซึ่งหุ้น ของบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO จนทำให้ ณ วันที่ 17 มี.ค.2554 มีการถือหุ้นรวมกันจำนวนทั้งสิ้น 174,551,734 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 36.81 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการหักด้วยหุ้นซื้อคืน (Treasury Stock) ซึ่งข้ามจุดร้อยละ 25 ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยมีนางโฉมพิศ บุนนาค เป็นผู้ร่วมสนับสนุนทางการเงินในการได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าว

ด้วยเหตุนี้ จึงได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ ที่มิได้ถือโดยผู้ทำคำเสนอซื้อจำนวน 299,625,667 หุ้น (ไม่รวมหุ้นซื้อคืนของกิจการจานวน 41,232,800 หุ้น) หรือคิดเป็นร้อยละ 63.19 ของจำนวนหุ้นที่ออกชำระแล้วหักด้วยหุ้นซื้อคืน

ในการนี้ PLUS ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนในการดำเนินการรับซื้อหลักทรัพย์ของกิจการในครั้งนี้ และหากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในครั้งนี้เป็นเหตุให้ PLUS ได้หุ้นสามัญของกิจการเพิ่มขึ้น MANTRA AQUA และนางโฉมพิศ บุนนาค ไม่ประสงค์ที่จะซื้อหรือรับโอนหุ้นสามัญของกิจการที่ได้รับจากการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้จาก PLUS

“วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ เพราะมีนโยบายการลงทุนในบริษัทที่มีฐานะมั่น คง ผลประกอบการที่ดี และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยจะเน้นการลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสื่อโฆษณา และเป็นธุรกิจหลักของ AQUA ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รวมทั้งเป็นรายได้หลักของ PLUS โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้ PLUS เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณา และสิ่งพิมพ์ที่ครบวงจร”

ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อหุ้น EPCO เท่ากับหุ้นละ 1.94 บาท (โดยผู้ทำคำเสนอซื้อจะชำระค่าตอบแทนในรูปของเงินสด ทั้งนี้ผู้แสดงเจตนาขายจะมีภาระค่าธรรมเนียมในการเสนอขายหุ้นสามัญร้อยละ 0.25 ของราคาเสนอซื้อและภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ของค่าธรรมเนียมในการเสนอขายดังนั้น ราคาสุทธิที่ผู้แสดงเจตนาขายจะได้รับจะเท่ากับหุ้นละ 1.9348 บาท ซึ่งราคาดังกล่าว เป็นราคาเสนอซื้อสุดท้ายที่จะไม่เปลี่ยนแปลงอีก) โดยมีระยะเวลารับซื้อตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.30 น. ของวันที่ 21 มีนาคม 2554 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2554

นางชวนพิศกล่าวต่อว่า แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเสนอซื้อ EPCO ครั้งนี้ ประกอบด้วยหุ้นสามัญ จำนวน 299,625,667 หุ้น คิดเป็นมูลค่าในการทำคำเสนอซื้อทั้งสิ้น 581,273,793.98 บาท โดยผู้ทำคำเสนอซื้อจะใช้แหล่งเงินทุนจากพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่จากประเทศฮ่องกง โดยได้รับอนุมัติวงเงินกู้ยืมจำนวน 600,000,000 บาท ซึ่งการได้รับวงเงินจำนวนมากถึงขนาดนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของ PLUS อย่างยิ่ง เพราะหมายความว่า PLUS เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และปัจจัยพื้นฐานที่ดี จึงทำให้ได้รับการยอมรับและอนุมัติวงเงินดังกล่าว

สำหรับตัวแทนในการรับซื้อหุ้น EPCO คือ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด ผู้ที่สนใจสามารถ ยื่นแบบตอบรับคำเสนอซื้อได้ที่ฝ่ายปฏิบัติการหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด ที่อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้น 18 ออลซีซั่นส์เพลส

“สำหรับแนวนโยบายการดำเนินธุรกิจของ EPCO ในอนาคตที่วางเอา ในเบื้องต้นคือมีแผนที่จะขยายตลาด และฐานลูกค้าของกิจการ โดยจะให้กิจการดำเนินแผนการตลาดร่วมกับ AQUA และพันธมิตร

ทางธุรกิจของ PLUS ซึ่งอยู่ในธุรกิจสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการจะใช้สื่อโฆษณาที่หลากหลายอยู่แล้ว จึงทำให้ AQUA และ EPCO สามารถเสนอบริการด้านสื่อสิ่งพิมพ์เพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าได้ นอกจากนี้ PLUS มีนโยบายที่จะสนับสนุนให้กิจการหาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการพิมพ์ เพื่อเป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิมของ EPCO ที่เป็นการรับจ้างพิมพ์อย่างเดียว และจะสนับสนุนให้มีการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก่อน อย่างไรก็ตามอาจมีการพิจารณาขยายกำลังการผลิตในอนาคตหากกำลังการผลิตที่มีอยู่ไม่เพียงพอโดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของกิจการ และผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ”นางชวนพิศ กล่าวในที่สุด

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :IR network

คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail : [email protected]

คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit