มหกรรมโฆษณาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค 2011 (แอดเฟส ครั้งที่ 14)

17 Mar 2011

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--อาร์ค เวิลด์ไวด์ ประเทศไทย

มหกรรมโฆษณาภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค 2011 (ADFEST) ครั้งที่ 14 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2554 ที่โรงแรมเมอเวนพิค รีสอร์ท แอนด์ สปา หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต มาพร้อมกับธีมที่มีชื่อว่า “จัมพ์ สตาร์ท” หรือ ก้าวกระโดด เพื่อต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของวงการโฆษณา ที่เป็นจุดศูนย์รวมของบรรดานักคิดและนักสร้างสรรค์ และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนในวงการรุ่นใหม่ๆ ได้เรียนรู้จากผู้มีคุณวุฒิในวงการอีกด้วย ซึ่งการจัดงานครั้งนี้คาดหวังจะเป็นแรงขับเคลื่อน รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจ ในการเริ่มต้น ความคิด สร้างสรรค์เพื่อให้เกิดผลงานดีๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้คนในวงการโฆษณา และผู้ที่สนใจได้เปิดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ จากผลงานโฆษณาจากทั่วทวีปเอเชียแปซิฟิค นายวินิจ สุรพงษ์ชัย ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ADFEST 2011 กล่าวว่าปีนี้แอดเฟสได้รับเสียงตอบรับมากขึ้น โดยมีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้นกว่า 2,800 ชิ้นงาน ใน 15 ประเภท และคาดว่าจะมีคนในวงการโฆษณาจากทวีปเอเชียและทวีปอื่นๆ เข้าร่วมด้วยถึง 1,000 คน ทั้งนี้งาน และงานนี้ก็ยังคงให้ความสำคัญกับเหล่านักคิดและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ๆ โดยสะท้อนออกมาในงานเวิร์คช้อป “Young Lotus “ และ “ The Fabulous Four New Directors” ซึ่งเป็นกิจกรรมเสริมที่สำคัญ ที่ถูกสอดแทรกอยู่ในกำหนดการจัดงาน ทั้งสองรายการล้วนแล้วแต่เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถทั้งสิ้น นอกจากการประกวดที่มีอยู่เดิม 13 ประเภทแล้ว ปีนี้แอดเฟสก็ยังได้เพิ่มการประกวดขึ้นอีก 2 ประเภท นั่นก็คือ “Promo Lotus” ซึ่งเป็นการให้รางวัลกับผลงานหรือกิจกรรมโปรโมชั่นที่มีทั้งความคิดสร้างสรรค์อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายอีกด้วย อาทิ เช่น การลดราคาสินค้า การแจกสินค้าขนาดทดลอง ข้อเสนอที่มีจำนวนจำกัด เป็นต้น และอีกประเภทหนึ่งก็คือ “Lotus Roots” ซึ่งเป็นประเภทของการประกวดที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Tag line ซึ่งก็คือ “Made In Asia “ เพราะการประกวดประเภทนี้เป็นการให้รางวัลกับผลงานที่นำเสนอเนื้อหาหรือเรื่องราวที่สะท้อนความเป็นเอเซีย โดยทั้งสองประเภทนี้มีผลงานส่งเข้าประกวดแล้วทั้งสิ้นกว่า 275 ชิ้นงาน เพื่อให้งานครั้งนี้มีทั้งความสนุกและเข้มข้น แอดเฟสได้เตรียมหัวข้อบรรยายที่น่าสนใจและตื่นเต้น เพื่อเป็นการอัพเดทรูปแบบความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ใหม่ๆ ในวงการ โดยหวังว่าการบรรยายจะช่วยต่อยอดให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานได้นำไปสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในงานยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลก และทรงอิทธิพลต่อวงการโฆษณาในสาขาต่างๆ อาทิเช่น Washington Olivetto : WMcCann Sao Paulo จะมาบรรยายเรื่อง “Advertising and Pop Culture” Simon Sankarayya : President ของ D&AD บรรยายเรื่อง The Chocolate Room Doug Scott : Jury President ของ One Show Entertainment มาบรรยายเรื่อง The Elusive Art of Branded Entertainment

Francois Chilot : President ของ YDA มาบรรยายเรื่อง “Similarities & Differences of Young Directors in America, Europe, and Asia” ซึ่งเป็นเรื่องราวของความเหมือนและความต่างของเหล่าผู้กำกับรุ่นใหม่ในทวีปต่างๆ และที่สำคัญคือ “แอดเฟส” ในปีนี้ ได้รับความสนใจและการสนับสนุนด้วยดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะจากหน่วยงานภาครัฐคือ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ (DEP) ซึ่งนายมาตยวงศ์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมธุรกิจบริการกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวในงานแถลงข่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ซึ่งรัฐบาลได้ริเริ่มขึ้นในปี 2552 ถือว่าเป็น Economic model ใหม่ของประเทศ ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นแกนยุทธศาสตร์ในการผลักดันและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าและใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้กับสินค้าและบริการ ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออกตระหนักดีอย่างมากถึงความสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาโดยตลอด โดยอุตสาหกรรมโฆษณาของไทยนั้นมีมูลค่าทางเศรษฐกิจในปี ๒๕๕๓ มากกว่า ๙๗,๐๐๐ ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ ๑๑ – ๑๒ และมีมูลค่าของอุตสาหกรรมโดยรวมมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท อีกทั้งอุตสาหกรรมนี้ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็ง มี competitive edge สูง เนื่องจากบุคคลากรของไทยมีความสามารถในเชิงสร้างสรรค์และประณีตสูงจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ปีนี้กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมโฆษณาเอเชียแปซิฟิกจัดงานมหกรรมโฆษณาเอเชียแปซิฟิก หรือ ADFEST 2011 ขึ้นเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการในธุรกิจโฆษณาในเชิงสร้างสรรค์และยั่งยืน จึงได้จัด ซึ่งการจัดงานมหกรรมโฆษณา ADFEST 2011 ในครั้งนี้ไม่เยงแต่จะเป็นการสร้างเวทีให้กับอุตสาหกรรมโฆษณาของไทยก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน แต่ยังจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย

อีกหน่วยงานหนึ่งที่ให้การสนับสนุนการจัดงานแอดเฟสก็คือสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สสปน นางวิชญา สุนทรศารทูล กล่าวในงานแถลงข่าวว่า ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการจัดการประชุมมากที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปเอเชียแปซิฟิค ตลอดเวลาที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ หรือสสปน. ได้ทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อให้เราได้เป็นจุดหมายในการจัดการประชุมนานาชาติ งานมหกรรมโฆษณาเอเชียแปซิฟิค หรือแอดเฟส ไม่เพียงแต่สามารถสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามนโยบายของรัฐบาลและนำเงินตราเข้าประเทศได้เท่านั้น แต่ยังสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในเรื่องความสามารถในการเป็นประเทศที่รองรับการจัดการประชุมระดับนานาชาติได้อย่างดี ศักยภาพนี้จะสร้างความประทับใจและความมั่นใจแก่ทุกประเทศที่มาร่วมงาน ซึ่งนั่นคือจุดประสงค์หลักที่สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการต้องการจะสื่อออกไปให้ทุกคนได้รับรู้ ซึ่งนายรติ พันธุ์ทวี อุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยได้เสริมว่า จุดประสงค์ของมหกรรมโฆษณาเอเชียแปซิฟิค หรือแอดเฟสที่เปรียบเสมือนเวทีส่งเสริมและยกระดับคุณภาพความคิดสร้างสรรค์ และเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดสร้างสรรค์ในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคนั้นตรงกับสิ่งที่สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยอยากจะผลักดันมาตลอด นั่นก็คือ การให้พื้นที่สำหรับการพัฒนาและส่งเสริมความรู้ในด้านโฆษณาและความคิดสร้างสรรค์ให้กับคนในวงการและคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงเหล่านักเรียน นักศึกษา อีกทั้งการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างคนในวงการโฆษณาและต่อเนื่องไปถึงภาครัฐอีกด้วย จึงทำให้แอดเฟสเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจอย่างมหาศาล ซึ่งนั่นมีความหมายอย่างมากในวงการของเหล่านักคิดและนักสร้างสรรค์ จึงนับว่างานนี้ไม่เพียงแต่เป็นงานอันทรงเกียรติที่มีมาตรฐานสูง แต่ยังเป็นงานที่มีประโยชน์มากมายกับสังคมโดยรวมอีกด้วย

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net