พัฒนาห้องสมุดเพื่อหนูน้อยรักการอ่าน แบ็กซ์เตอร์ สานต่อโครงการ “ชีวิตสดใส สังคมไทยยั่งยืน” ปี 2

20 Jun 2011

กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์

จากข้อมูลการอ่านหนังสือของคนไทย ของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2554 พบว่าเด็กไทยมีสถิติการอ่านหนังสือลดลงจนน่าตกใจ เฉลี่ยอยู่ที่ 2-5 เล่มต่อปี ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น สิงคโปร์มีสถิติการอ่านหนังสือสูงถึง 50-60 เล่มต่อปี ส่วนเวียตนามซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งที่สำคัญของไทยมีสถิติการอ่านหนังสือสูงถึง 60 เล่มต่อปี สถานการณ์การอ่านหนังสือของคนไทยจึงอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ อยู่มาก

ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ชั้นนำ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ เพื่อช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศไทย จึงได้สานต่อโครงการ “ชีวิตสดใส สังคมไทยยั่งยืน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมอบทุน จำนวน 100,000 บาท เพื่อพัฒนาห้องสมุด โรงเรียนวัดบ้านตะเภาหนุน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา และกล่าวว่า “การส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน นับเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาของเด็กไทย บริษัทฯยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการรักการอ่าน และร่วมพัฒนาห้องสมุดของโรงเรียน เพื่อเป็นแหล่งในการค้นคว้าหาความรู้ เพิ่มเติม การเพิ่มหนังสือใหม่ๆ ให้หลากหลาย ทั้งที่ให้ความรู้ และให้ความเพลิดเพลิน จะช่วยให้ห้องสมุดกลายเป็นแหล่งความรู้ที่จะช่วย เสริมปัญญา และสร้างจินตนาการของเด็ก ช่วยให้เด็กนักเรียนได้รับประสบการณ์ทางการอ่านที่ดี สนุกสนานกับการอ่านหนังสือ และรู้ถึงคุณค่าของหนังสือ ทำให้อยากที่จะอ่านหนังสือต่อไป”

นายทองรวม สถิตพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบ้านตะเภาหนุน กล่าวด้วยความยินดีว่า “นับเป็นเรื่องที่ดี ที่ภาคเอกชนเล็งเห็นความสำคัญในด้านการศึกษา ทำให้โรงเรียนของเรามีห้องสมุดที่ทันสมัยขึ้น นักเรียนสามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้มากกว่าแต่ก่อน จากหนังสือใหม่ๆ นิทาน การ์ตูนต่างๆ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้นักเรียนได้สนุกสนานในการหาความรู้เพิ่มเติม สร้างเด็กนักเรียนที่มีคุณภาพในอนาคต" เมื่อก่อนโรงเรียนเรามีหนังสือค่อนข้างน้อย ทำให้การอ่านหนังสือไม่ได้รับความสนใจ ตอนนี้ห้องสมุดมีหนังสือเยอะแล้ว นักเรียนให้ความสนใจกับการอ่านมากขึ้น อีกทั้งยังมีคอมพิวเตอร์ที่สามารถต่ออินเตอร์เน็ตได้มาเพิ่มสีสันในการเรียนรู้ ทางโรงเรียนจึงได้จัดกิจกรรมรักการอ่านขึ้น หลังจากช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน และระหว่างเวลา 15.00 - 15.30 น. เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ค้นคว้าหาข้อมูลและสนุกกับการอ่านหนังสือ

“น้องต่าย” ปิยฉัตร ภาริส เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมรักการอ่านเป็นประจำ เล่าให้เราฟังว่า การที่ห้องสมุดมีเครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตได้ และมีหนังสือใหม่ๆ ทั้งหนังสือสาระความรู้รอบตัวทั่วไป เรื่องสั้น นวนิยาย รวมถึงหนังสือนิทาน และหนังสือการ์ตูน ที่น้องต่ายยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้น้องต่ายอยากเข้ามาใช้ห้องสมุดมากขึ้น

โดยน้องต่าย ได้ยกหนังสือเรื่อง “แม่มดน้อยทิตซี่” ที่ตัวเองชอบ มาเล่าให้เพื่อนๆ ว่า “ทิตซี่ เป็นแม่มดน้อยแสนซน อยู่ในครอบครัวอบอุ่น มีแมวพี่เลี้ยง “เจ้าเหมียวโบกัส” คอยช่วยเธอแก้ปัญหาจากการร่วมผจญภัยไปกับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่เธอเลี้ยงไว้ ไปเจอกับเหตุการณ์สนุกสนาน ตามประสาเด็กๆ ที่มีทั้งตื่นเต้น และเร้าใจ” จากหนังสือเล่มเล็กๆ ที่มีเนื้อหาเรียบง่าย ถ่ายทอดผ่านมุมมองและพฤติกรรมในวัยเด็ก ทำให้น้องๆ สามารถสร้างจินตนาการจากเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างสร้างสรรค์

ขณะที่ น้อง “รัชนีกร ภูกลาง” เลือก “เกมพัฒนาไอคิว” มาแนะนำกับเพื่อนๆ ว่า “เกมพัฒนาไอคิวเล่มนี้มี เกมคำนวณเลข เกมซุโดกุ เกมจับคู่คำ เกมจับผิดภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เราได้เพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้ พัฒนาทั้งด้านความคิด และการใช้สายตา จากการเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน”

ก่อนกลับบ้าน พี่ๆ จากแบ็กซ์เตอร์ฯ ถามน้องๆ ว่า “โตขึ้นเด็กๆ อยากทำอะไรกัน” ”น้องเขต” ณัฐกานต์ แสงมาตร ยกมือขึ้นและบอกว่า “ผมอยากขับเบนซ์ครับ” ทำให้เพื่อนๆ หันมาให้ความสนใจกันยกใหญ่ ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ จึงได้ถ่ายทอดประสบการณ์หนังสือในดวงใจ เพื่อ“เพาะต้นกล้าแห่งการออม” พร้อมฝากเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวิธีการออมให้กับน้องๆ ได้นำไปใช้ และแจกสมุดบันทึกการออม ให้น้องๆ จดบันทึกรายรับ-รายจ่ายต่างๆ ของตัวเอง จะช่วยให้เราสามารถใช้เงิน และเก็บเงินได้อย่างเป็นระบบ เพื่อเรียนรู้แนวทางการประหยัดและอดออม พร้อมแนะเก็บเงินทุกวันตั้งแต่วันนี้ จะได้รวยๆ ในอนาคต และมีเงินทุนสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็นด้วย

งานนี้นอกจากน้องๆ เป็นปลื้มกับห้องสมุดใหม่ และหนังสือใหม่แล้ว ยังได้เคล็ดไม่ลับในการออมเงิน เพื่อเป็นเศรษฐีน้อยในอนาคตอีกด้วย จากความสนุกสนานเพลิดเพลินที่ได้จากในหนังสือ มาเพิ่มเติมความรู้ในการพัฒนาทักษะต่างๆ เสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ ทำให้การอ่านหนังสือไม่เป็นเรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ : บุษบา (บุษ) / ชลียา (กิ๊ฟ) Tel. 02-718-3800-5 ต่อ 141 / 144 หรือ 085 803 6222

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net