กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายสมบัติ คุรุพันธ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ป.กก.) เป็นประธานในพิธีเปิดสถานีตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยมี นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว รวมถึง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย เมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ สถานีตำรวจท่องเที่ยว ๒ (ภูเก็ต) กองบังคับการ ๕ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เลขที่ ๓๒๗ ถนนเยาวราช ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายสมบัติ เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานที่สำคัญภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีภารกิจหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่ผ่านมาตำรวจท่องเที่ยวได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมจนเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ และนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สถานีตำรวจท่องเที่ยว ๒ กองกำกับการ ๕ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างที่ทำการ จากกรมการท่องเที่ยว (สำนักพัฒนาการท่องเที่ยวเดิม) กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นที่ทำการที่ตั้งอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากอยู่ในตัวเมือง มีการคมนาคมที่สะดวก รวดเร็ว พร้อมที่จะให้บริการ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้มีความรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยที่ได้เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงในประเทศไทย
จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ปีละประมาณ ๔ – ๖ ล้านคน สร้างรายได้ให้จังหวัดภูเก็ต และประเทศไทยปีละประมาณ ๙๐,๐๐๐ - ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ประชากรจังหวัดภูเก็ตมีรายได้เฉลี่ยจากการท่องเที่ยวประมาณ ๒.๐๖ หมื่นบาทต่อคนต่อปี อันเป็นการสร้างรายได้ที่สำคัญให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อสนับสนุนในการก่อสร้างอาคารที่ทำการถาวรของสถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต แห่งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและ์ห่งนี้ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจในการให้การบริการดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้ดียิ่งขึ้น อันเป็นการส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่มั่นหมายจังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก (World Tourism Destination) จะต้องมีการสร้างความเชื่อมั่นวามปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก
ป.กก. กล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มท่องเที่ยวอันดามันโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต เป็นกลุ่มที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศไทย เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีมาโดยตลอด จากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มยุโรป รัสเซีย จีน กลุ่มเอเชียตะวันออก มาเลเซีย และสิงคโปร์ คาดว่า จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ๗ – ๑๐% สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะมาเที่ยวจังหวัดภูเก็ต อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยจะมาเที่ยวกลุ่มอันดามันเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า ๕% เนื่องจากปัจจัยด้านแหล่งท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีการเดินทางที่สะดวกสบาย มีที่พักที่ได้มาตรฐานระดับโลก และที่สำคัญ มีความปลอดภัยที่เป็นเลิศจากทางจังหวัด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ที่มีความพร้อม ทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและทีมงาน อีกทั้งมีตำรวจท่องเที่ยว คอยช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว ตลอด ๒๔ ชั่วโมงด้วย
จึงเป็นการเสริมแรงที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความมั่นใจอย่างยิ่ง ซึ่งจากที่ประชุมองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ได้กล่าวชื่นชมตำรวจท่องเที่ยวไทย ที่มีเบอร์ฮอตไลน์ โทร. ๑๑๕๕ ให้บริการข้อมูล และช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยได้เป็นอย่างดี อันจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้นานาชาติและอีกหลายประเทศนำไปปฏิบัติ ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่อไป
อีกทั้งในอนาคต กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและรัฐบาลไทย เตรียมส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวและการกีฬาของจังหวัดภูเก็ต ในระดับนานาชาติ/ระดับโลก ทั้งการวางแผนจัดสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติจังหวัดภูเก็ต และการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ในปี ๒๐๑๔ ด้วยปัจจัยเหล่านี้นับว่า การสร้างสรรค์ความเชื่อมั่น ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวและแข่งขันกีฬา จึงต้องเป็นอันดับแรกของ “ไข่มุกแห่งอันดามัน” ไปโดยปริยายและต้องดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในเชิงบูรณาการต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit