กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--สำนักงานอุทยานการเรียนรู้
พบกันอีกครั้ง กับโครงการ “ลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 6” โครงการประกวดเล่านิทานสุดน่ารักแห่งปี เพื่อเฟ้นหาหนูน้อยยอดนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ
สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ ร่วมกับ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และนิตยสาร Mother&Care จัดงานแถลงข่าวโครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 6 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานการเปิดงาน ซึ่งวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้เพื่อกระตุ้น และส่งเสริมให้เด็ก ครอบครัว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน ส่งเสริมความรักความผูกพันภายในครอบครัวจากการทำกิจกรรมร่วมกัน รวมทั้งสร้างพื้นที่ให้เด็กไทยมีเวทีแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเด็กปฐมวัย
ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ซึ่งเป็นประธานในพิธีแถลงข่าว เคยกล่าวไว้ว่า “ต้องมีกระบวนการที่ทำให้แม่หรือพี่เลี้ยงถ่ายทอดสู่เด็กตั้งแต่เล็ก เพราะเป็นกระบวนการเรียนรู้และสร้างเซลล์สมองของเด็ก ที่สำคัญ คือ ต้องสื่อให้เด็กได้รับรู้ถึงอรรถรสของภาษา แล้วเรื่องคุณงามความดีก็อยู่ในนิทาน ในหนังสือทั้งหมด อยากให้เด็กได้รับรู้เรื่องอะไรก็ใส่ไว้ในนั้น...”
สอดคล้องกับคำกล่าวของ ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ หนึ่งในภาคีเครือข่ายผู้จัดโครงการ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการที่เน้นการปูพื้นฐานและสร้างนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กไว้ว่า
“การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็กๆ นั้น ผู้ปกครองมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง การเล่านิทานให้เด็กฟังเป็นประจำจะช่วยสร้างความรักความอบอุ่นให้เกิดในครอบครัว รวมถึงช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการเรียนรู้สำหรับเด็ก ในวันนี้เราอ่านหนังสือให้ลูกของเราฟัง พรุ่งนี้เขาก็จะอ่านหนังสือให้ลูกเขาฟังเช่นกัน สังคมไทยกำลังสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่เรียกว่า “วัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยหนังสือ” ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ต่อไปในอนาคต”
ทางด้าน คุณเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก องค์กรที่ทำงานด้านการส่งเสริมการอ่านมาอย่างยาวนาน และเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายผู้ร่วมจัดโครงการมาตั้งแต่ครั้งแรก กล่าวถึงการใช้หนังสือเด็กไว้อย่างน่าสนใจว่า ”หนังสือหรือนิทานเป็นการเล่าขานผ่านชีวิตคน พ่อแม่เล่าขานผ่านถึงลูก ปู่ย่าตายายเล่าขานผ่านถึงหลาน หนังสือและนิทานนอกจากจะเป็นสะพานแห่งความรู้ให้เด็ก ๆ ซึมซับรับความรู้จากเรื่องราวและเรื่องเล่า แล้วยังเป็นสะพานแห่งความรักที่ทำให้เด็กได้รับความรัก ความอบอุ่น ทำให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นว่าตนนั้นเป็นที่รักและจะทำตัวน่ารักเพราะรู้ว่าจะได้รับความสนุกสนานจากเรื่องเล่าใหม่ ๆ ไม่จบสิ้น”
ในส่วนของ คุณสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Mother&Care ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการและเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายผู้จัดมาตั้งแต่ครั้งแรก กล่าวถึงสิ่งที่เด็กได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ อันเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก ก็คือ
“สิ่งที่เด็กได้จากโครงการนี้ และเห็นได้ชัดคือ ความเป็นธรรมชาติ ความกล้าแสดงออกในสิ่งที่เหมาะสม และความมั่นใจในตัวเอง เด็กหลายคนที่ผ่านเวทีนี้ไปแล้ว มักจะต่อยอดงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการอ่าน บางคนก็ไปเป็นพิธีกร บางคนก็ไปเป็นหนูน้อยนักเล่านิทานประจำโรงเรียน ประจำจังหวัดก็มี ที่น่าชื่นใจที่สุด เด็กๆ เหล่านี้ไม่ทิ้งเรื่องการอ่าน และมักจะกลับมาพบกันทุกครั้งเมื่อมีโอกาส”
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน พยายามดำเนินโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์การจัดงาน โดยเป็นการเปิดเวทีให้เด็กได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ผ่านการเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ สดใส สมวัย อันเป็นการต่อยอดจากการที่พ่อแม่เล่านิทานอ่านหนังสือให้ลูกฟังที่บ้าน เด็กๆ และคุณครูได้ร่วมกันเล่านิทานอ่านหนังสือที่โรงเรียน แล้วต่อยอดเป็นกระบวนการสร้างสังคมรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
โครงการลับสมอง ประลองปัญญา สรรหาหนูน้อยนักเล่านิทาน ครั้งที่ 6 แบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทเดี่ยว ระดับอายุ 4-6 ปี กับ ระดับอายุ 6-9 ปี และประเภททีมครอบครัว โดยจัดการประกวดรอบคัดเลือก ในส่วนกลาง คือ กรุงเทพฯ และระดับภูมิภาค คือ ระยอง ลำปาง ขอนแก่น และหาดใหญ่ และรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพฯ
ขอเชิญชวนเด็กๆ ที่รักการอ่านทั่วประเทศ มาร่วมประกวดแสดงความสามารถผ่านการเล่านิทานที่สดใส สมวัย เพื่อเฟ้นหายอดหนูน้อยนักเล่านิทานอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมชิงถ้วยรางวัลและทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท เปิดรับสมัครรอบคัดเลือกทั่วประเทศ วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2554 โดยมีช่องทางการสมัคร ดังนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2241-8000 ต่อ 322, 324 , 326 หรือติดตามข่าวสารทาง www.motherandcare.in.th, www.tkpark.or.th, www.facebook.com/motherandcare, www.twitter.com/motherandcare
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit