กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
รายงานฉบับใหม่บ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่การเป็นประเทศแห่งความหลากหลายทางเศรษฐกิจ
อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (โอบีจี) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เผยแพร่รายงาน The Report: Thailand 2011 โดยชี้ถึงความสำเร็จของประเทศไทยที่สามารถผลักดันการส่งออก ให้ขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ภายหลังจากที่เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งและประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่ จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้ต่อไป
นอกจากนี้การจัดทำ The Report: Thailand 2011 ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ จำกัด (มหาชน), บริษัทติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัทบี ดี โอ จำกัด, กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
The Report: Thailand 2011 ระบุถึงการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยที่ต้องการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยลดการพึ่งพาภาคการค้าต่างประเทศและหาทางรับมือกับภาวะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาราคาน้ำมัน ที่ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะเดียวกันจะต้องเร่งเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
ทั้งนี้รายงานดังกล่าวนับเป็นคู่มือการทำธุรกิจฉบับเข้มข้น ที่ได้บรรจุบทวิเคราะห์ที่สำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและโอกาสในการลงทุน อีกทั้งยังชี้ให้เห็นแนวโน้มที่สดใสในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยอีกด้วย การจัดทำรายงานฉบับดังกล่าวได้วิเคราะห์ลงลึกในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นแรงขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ เช่น ภาคชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่มีโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการได้รับการอนุญาตเรียบร้อยแล้ว
The Report: Thailand 2011ได้รวบรวมรายละเอียดโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่เพื่อเป็นคู่มือสำหรับนักลงทุน และครอบคลุมถึงบทสัมภาษณ์บุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงโดดเด่นของประเทศไทย ตลอดจนนักเศรษฐศาสตร์ และผู้นำธุรกิจ อาทิ ฯพณฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี, ฯพณฯกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, ฯพณฯกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และฯพณฯประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์จากบุคคลผู้ทรงเกียรติในระดับนานาชาติ อาทิ มร.เหวียน เติ๋น ยวุ๋ง นายกรัฐมนตรีประเทศเวียดนาม , มร.บัน คีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และศาสตราจารย์พอล คุกแมน อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพรินช์ตัน และเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2551 โดยบุคคลเหล่านี้ได้ให้มุมมองต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
ทั้งนี้ในรายงานฉบับนี้ได้ให้ความสำคัญในประเด็นความพยายามของประเทศไทยที่จะเพิ่มระดับการสำรวจแหล่งน้ำมัน โดยรายงานได้วิเคราะห์ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมปลายน้ำ และการจัดเตรียมแผนที่จะยกระดับโครงสร้าง เพื่อเอื้อให้ประเทศสามารถใช้เอทานอลในกระบวนการผลิตพลังงานชีวภาพที่มีความสะดวกมากขึ้น
ในรายงานยังระบุถึงการปฏิรูปตลาดทุนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยสะท้อนให้เห็นจากจำนวนนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนได้กลับมาลงทุนในตลาดอีกครั้งเพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย และยังพิจารณาได้จากปริมาณการขายพันธบัตรที่มีปริมาณสูงมากในปีที่ผ่านมา รวมไปถึงจำนวนนักลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต
อีกทั้งโอบีจียังสะท้อนในบทวิเคราะห์ถึงการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยจากการสำรวจข้อมูล พบว่าในปี 2553 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศเกือบ 1.6 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งที่เพิ่มขึ้นจากการที่รัฐบาลพยายามผลักดันแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ หรือที่เรียกกันว่า อุตสาหกรรมไมซ์ ในช่วงที่ผ่านมาอย่างจริงจัง
มิส แอน เดลาร์ลู ผู้อำนวยการบริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย ชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2553 ที่ขณะนั้นประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาทั้งภายในประเทศและความท้าทายจากภายนอก
“ถึงแม้จะเกิดปัญหาความวุ่นวายในกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงต้นปี 2553 และยังต้องรับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่ประเทศไทยกลับยังสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้ด้วยตนเองซึ่งเป็นเพราะความหลากหลายในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย” มิส แอน เดลาร์ลู กล่าวต่อว่า “คณะนักวิเคราะห์ของโอบีจีมีชื่อเสียงในกลุ่มนักธุรกิจระหว่างประเทศสำหรับการติดตามข้อมูลและการพัฒนาในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจไทยตลอดจนการจัดทำบันทึกเอกสารตามสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งดิฉันมั่นใจว่า ด้วยองค์ประกอบที่ครอบคลุมในหลายปัจจัยที่เรานำมาประกอบการวิเคราะห์ได้ช่วยยกมาตรฐานการทำรายงานของเราขึ้นอีกขั้นหนึ่ง”
มิส แอน เดลาร์ลู กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ความร่วมมือของพันธมิตรมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการทำวิจัยนับตั้งแต่ขั้นตอนการวางรากฐานของการจัดทำรายงาน The report: Thailand 2011 “ไม่มีข้อกังขาเลยว่าการทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การจัดทำรายงานเศรษฐกิจไทยฉบับนี้ประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้น และยังช่วยให้รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาที่สมบูรณ์และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง”
มร. แอนดรู แจ็คโคมอส พันธมิตรอาวุโสของบี ดี โอ กล่าวว่า การจัดทำรายงานเกี่ยวกับประเทศไทยของออกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป ในครั้งนี้ได้รับการยอมรับจากนักธุรกิจชั้นนำระดับโลกให้เป็นคู่มือสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการ เข้ามาลงทุนโดยตรงในประเทศไทย “ผมมั่นใจว่ารายงานฉบับใหม่นี้ที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจรายภาคอุตสาหกรรมในประเทศไว้อย่างครบถ้วน ตลอดจนได้บรรจุข้อมูลเชิงลึกและเข้มข้นจึงเหมาะสมที่จะเป็นคู่มือสำหรับการตัดสินใจที่มีค่าสำหรับผู้นำทางธุรกิจ”
มร.เดวิด ไลแมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ กล่าวว่า รายงานฉบับใหม่ของบริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ประบุไว้อย่างชัดเจนว่าการตัดสินใจลงทุนของทั้งนักลงทุนไทยและต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2553 ขยายตัวได้เกือบ 8 เปอร์เซ็นต์
“เป็นที่ทราบกันว่า นักลงทุนระยะยาวเป็นองค์องค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถสามารถในการแข่งขันของประเทศ” มร.เดวิด กล่าวเพิ่มเติม “รายงานประจำปีของอ็อกฟอร์ด บิสสิเนสกรุ๊ปเกี่ยวกับประเทศไทยที่สะท้อนให้เห็นมุมมองและ บทวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งของผู้นำธุรกิจที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจไทย นับเป็นแหล่งอ้างอิงสำคัญสำหรับนักลงทุนและ ยังเปรียบเสมือนโรดแมปให้กับนักธุรกิจรายใหม่ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งบริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมกับพันธมิตรจัดทำรายงานที่สมบูรณ์แบบฉบับนี้ขึ้นมา”
The Report: Thailand 2011 เป็นรายงานที่ใช้เวลาดำเนินการศึกษาวิจัยโดยคณะนักวิเคราะห์จากบริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป เป็นเวลากว่า 6 เดือน เพื่อประเมินแนวโน้มและทิศทางการพัฒนาทุกภาคส่วนที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ รวมไปถึง พลังงาน อุตสาหกรรม การเงิน การธนาคาร การท่องเที่ยว การคมนาคม และภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้รายงานได้ถูกเผยแพร่ทั้งในลักษณะรูปแบสื่อสิ่งพิมพ์และผ่านระบบออนไลน์
มร.เพาเลียส คุนซินาส บรรณาธิการระดับภูมิภาคเอเชีย บริษัทอ๊อดฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป(คนที่ 2 จากซ้าย) ร่วมกับ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(คนที่ 3 จากซ้าย) และ มร.เดวิด ไลแมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทติลลิกีแอนด์กิบบินส์(คนที่ 1 จากซ้าย) และมร.พอล แอชเบอร์น หุ้นส่วนอาวุโส บริษัทบีดีโอ (คนที่ 4 จากซ้าย) แถลงเปิดตัว รายงานเศรษฐกิจไทย ปี 2554 โดยเนื้อหาได้วิเคราะห์ถึงปัจจัยต่างๆที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปอย่างรายละเอียด
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป, ดูไบ, PO Box 502 659, ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คุณเคท เทเล่อร์ , ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ : +971 44 264 642 อีเมล์: [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit