บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้ม “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เข้าเป้า ชี้เทคนิคจับจังหวะลงทุนหุ้นหนุน ใช้เวลา 2 เดือน 11 วัน

29 Apr 2011

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์

บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้ม “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เข้าเป้าชี้เทคนิคจับจังหวะลงทุนหุ้นหนุน ใช้เวลา 2 เดือน 11 วันเชื่อมองจังหวะการลงทุนแม่นยำ ดัน “เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” ฉลุย

บลจ.ไอเอ็นจี เผย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” ผลงานเข้าเป้า หลังเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้า ดันดัชนีราคาหุ้นพุ่งต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลตอบแทนกองทุนถึงเป้าหมาย 11.20 บาทต่อหน่วย ในเวลา 2 เดือน 11 วัน มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.2048 บาท เผยรับซื้อคืนอัตโนมัติหน่วยลงทุนวันที่ 29 เมษายน 2554 ชี้ผลสำเร็จจากกองแรกถึงกองที่ 2 ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จของการบริหารแบบ Active Management ผสมผสานกับเทคนิคด้านจับจังหวะการลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพอย่างแท้จริง มั่นใจช่วยหนุน “เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%’ ฉลุย เชื่อมองตลาดแม่นยำ จังหวะการลงทุนเหมาะสม สร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้นักลงทุนต่อเนื่อง

นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เสนอขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุนมีการกำหนดผลตอบแทนเป้าหมายคือ มูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท ไปอยู่ที่ 11.20 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุนภายใน 2 วันทำการ

ล่าสุด มูลค่าหน่วยลงทุนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” สามารถเข้าถึงเป้าหมาย 11.20 บาทต่อหน่วยได้ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2554 ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 11.2048 บาทต่อหน่วย ดังนั้น บลจ.ไอเอ็นจี จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจากผู้ถือหน่วยทุกราย ในวันที่ 29 เมษายน 2554 และจะนำเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปลงทุนในกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลตอบแทนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2)” เข้าสู่เป้าหมายได้นั้น มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ไทยที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังเชื่อมั่นในการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และการขยายตัวของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2554 ที่คาดว่าจะดีขึ้น รวมถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงเป็นภูมิภาคเด่นของการลงทุน ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า การบริหารการลงทุนแบบ Active ซึ่งเป็นการบริหารจัดการด้วยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพในลักษณะการวิเคราะห์และคาดการณ์ภาวะตลาดในอนาคต รวมถึงการจับจังหวะการลงทุนที่ถูกต้องเหมาะสม เป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้กองทุนสามารถเข้าสู่ผลตอบแทนเป้าหมาย

“เราต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจในการบริหารงานของ บลจ.ไอเอ็นจี จากความเชื่อมั่นการบริหารกองทุนหุ้นที่เราสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ และการบริหารกองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ที่เราใช้กลยุทธ์การจับจังหวะการลงทุนและ Stock Selection ทำให้เราประสบความสำเร็จในการบริหารกองแรก คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% ที่สามารถถึงเป้าหมายภายในระยะเวลา 4 เดือน 15 วัน ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น จนมาถึงกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (2) ที่เราใช้ระยะเวลาเพียง 2 เดือน 11 วันเท่านั้น ซึ่งเราเชื่อว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% (3) ซึ่งปัจจุบันมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ล่าสุดอยู่ที่ 10.9287 บาทต่อหน่วย (27 เมษายน 2554) ก็จะประสบความสำเร็จในเวลาอีกไม่นานเช่นเดียวกัน” นายต่อกล่าว

หลังจากที่กองทุนนี้ประสบความสำเร็จไปแล้ว ในการออกเสนอขายกองทุนอีควิตี้ ทริกเกอร์กองต่อไปที่จะลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น คงจะต้องพิจารณาโอกาสและจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและมาตรการเสริมสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่สำหรับตลาดหุ้นจีน ซึ่งมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง กลับมีการปรับตัวขึ้นน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เพราะในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนมีความกังวลเรื่องมาตรการของรัฐบาลที่จะชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ตลาดหุ้นจีน รวมทั้งไต้หวันและฮ่องกง จึงยังคงมี Upside อยู่อีกมาก จึงทำให้ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มองเห็นโอกาสการลงทุนในกลุ่มประเทศเกรทเทอร์ ไชน่า ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ศักยภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และราคาหุ้นยังถูกอยู่

ดังนั้น บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จึงได้ออกเสนอขาย “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” ให้กับนักลงทุนที่ต้องการตั้งเป้าหมายของผลตอบแทนจากการลงทุน รวมทั้งการมีนโยบายป้องกันความเสี่ยง (Currency Hedging) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งยอดจองในช่วงแรกของการเปิดเสนอขาย IPO ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากความเชื่อมั่นในจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมและมีโอกาสสูงที่จะสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่ง “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” นับได้ว่าเป็นกองทุนในกลุ่ม “ทริกเกอร์” ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี กองล่าสุดที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเหมือนเช่นทุกกองทุนในกลุ่มทริกเกอร์ที่ผ่านมา

“กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” ของ บลจ.ไอเอ็นจี จะเสนอขายระหว่างวันที่ 26 เมษายนถึง 4 พฤษภาคมนี้ โดยกำหนดอัตราจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท โดยผู้สนใจสามารถขอรายละเอียดได้ที่ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) โทร. 02-688-7777 กด 2 หรือ www.ingfunds.co.th

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% และกองทุนต่างประเทศ (Master Fund) อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตามความเหมาะสมและสภาวการณ์ในแต่ละขณะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่ผู้จัดการกองทุนเห็นว่าเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อหยวน หรือดอลลาร์ฮ่องกง หรือดอลลาร์ไต้หวัน ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนของกองทุนนี้ขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย คุณพรพรรณ ไพบูลย์วัฒนชัย บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด T-0-2248-7967-8 ต่อ 117 T- 0-2688-7785 F- 0-2688-7707 E- [email protected] [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net