บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแส “เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” แรง นักลงทุนเชื่อมั่น ดันยอดจองทะลุเป้าเกิน 2,000 ล้านบาท

09 May 2011

กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์

บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกระแส “เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” แรงนักลงทุนเชื่อมั่น ดันยอดจองทะลุเป้าเกิน 2,000 ล้านบาทมั่นใจหุ้น ‘จีน-ฮ่องกง-ไต้หวัน’ ราคาต่ำ ลุ้น NAV แตะเป้าหมาย 11.25 บาท

บลจ.ไอเอ็นจี เผยกระแสตอบรับ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” คึกคัก จนยอดจองเกินกว่า 2,000 ล้านบาท ชี้นักลงทุนมั่นใจในไอเอ็นจีที่มองจังหวะการลงทุนแม่นยำ และผลงานการบริหารทริกเกอร์เข้าเป้ามาแล้วสองกอง บวกกับเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของกลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ราคาหุ้นถูก โอกาสที่ NAV ของกองทุนจะเข้าถึงผลตอบแทนเป้าหมายที่ระดับ 11.25 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง เป็นไปได้โดยใช้เวลาไม่นาน

นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก บลจ.ไอเอ็นจี ได้เสนอขายหน่วยลงทุนของ “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10%” ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า กองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จนส่งผลให้ยอดจองมีมูลค่าเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายที่ 2,000 ล้านบาท และเข้าสู่ยอดในส่วนกรีนชู 15% ทำให้มียอดเงินลงทุนรวมประมาณกว่า 2,170 ล้านบาท

“เราต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้ความไว้วางใจในการบริหารงานของ บลจ.ไอเอ็นจี จากความเชื่อมั่นการบริหารกองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ที่เราประสบความสำเร็จในการบริหารกองแรก คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 12.70% ภายในระยะเวลา 4 เดือน 15 วัน และกอง (2) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 12.19% ภายในระยะเวลา 2 เดือน 11 วัน และกอง (3) ที่ใกล้ถึงเป้าหมายแล้วเช่นกัน บวกกับความมั่นใจในการมองจังหวะการลงทุนที่แม่นยำของไอเอ็นจีที่จะทำให้นักลงทุนมีโอกาสการลงทุนด้วยต้นทุนที่เหมาะสมและมีโอกาสสูงที่จะได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

จากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้มียอดจองซื้อใน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% เข้ามาอย่างล้นหลาม ตลอดช่วงการเปิดเสนอขาย 26 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2554 มียอดจองสูงเกิน 2,000 ล้านบาท และเข้าสู่ยอดกรีนชู 15% ซึ่งทางเราต้องขอขอบคุณกับความเชื่อมั่นในการบริหารงานของเรา และขอขอบคุณผู้สนับสนุนการขายทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีมาโดยตลอด” นายต่อกล่าว

สำหรับปัจจัยสนับสนุนความน่าสนใจของกองทุนดังกล่าว นอกจากจะมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า ซึ่งประกอบด้วยจีน ไต้หวันและฮ่องกง จะยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งแล้ว บวกกับมุมมองของนักวิเคราะห์หลายแห่งที่คาดว่าตลาดหุ้นของทั้ง 3 แห่งยังคงมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น (Upside) ในช่วงประมาณ 27%-28% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า รวมถึงการมีนโยบายป้องกันความเสี่ยง (Currency Hedging) เพื่อลดความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้เราคาดว่าสามารถบริหารผลตอบแทนได้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ได้

“ทั้งนี้ การเตรียมแผนที่จะออกกองทุนในกลุ่ม “อีควิตี้ ทริกเกอร์” ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศ และการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ เช่น กลุ่มเกรทเทอร์ ไชน่า นั้น เราจะยังคงทำหน้าที่ในการมองหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม สอดรับกับปัจจัยสนับสนุนการลงทุนที่พร้อม รวมถึงมุมมองการลงทุนจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศของกลุ่มไอเอ็นจี ซึ่งเราถือเป็นข้อได้เปรียบคู่แข่ง คือ เราไปลงทุนในกองปลายทางที่เป็นของไอเอ็นจีด้วยกันในต่างประเทศ จึงทำให้เราสามารถทำงานร่วมกับผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศได้อย่างใกล้ชิด หากปัจจัยสนับสนุนพร้อมและสัญญาณการลงทุนดี ทางเราก็จะนำเสนอกองทุนให้กับนักลงทุนอีกครั้งอย่างแน่นอน”

“อย่างไรก็ตาม การออกผลิตภัณฑ์นี้สอดคล้องกับแผนการออกกองทุน (Product Strategy) ของ บลจ.ไอเอ็นจี โดยที่เราแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตราสารทุนเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก (Core Product) ได้แก่ กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทยอีควิตี้ฟันด์ และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นที่นักลงทุนสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวัน และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริม (Satellite Product) ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ ทริกเกอร์ 10% และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามเงินลงทุน สามารถลงทุนได้ระยะยาว และคาดหวังเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน เราคาดหวังว่าทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราได้” นายต่อ กล่าว

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า ทริกเกอร์ 10% และกองทุนต่างประเทศ (Master Fund) อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตามความเหมาะสมและสภาวการณ์ในแต่ละขณะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่ผู้จัดการกองทุนเห็นว่าเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อหยวน หรือดอลลาร์ฮ่องกง หรือดอลลาร์ไต้หวัน ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนของกองทุนนี้ขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย คุณพรพรรณ ไพบูลย์วัฒนชัย บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด T-0-2248-7967-8 ต่อ 117 T- 0-2688-7785 F- 0-2688-7707 E- [email protected] [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net