เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์ เผยผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2554

06 May 2011

เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์ (Kraton Performance Polymers, Inc.) (NYSE: KRA) ผู้ผลิต styrenic block copolymers (SBCs) ชั้นนำของโลก เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554


ข้อมูลสำคัญประจำไตรมาสแรกของปี 2554


- ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 81 กิโลตัน

- รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 345 ล้านดอลลาร์

- กำไรสุทธิอยู่ที่ 22 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับ 20 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2553

- กำไรที่คำนวณตามหลักบัญชีทั่วไป (GAAP earnings) อยู่ที่ 0.68 ดอลลาร์/หุ้นปรับลด (fully-diluted share) ในไตรมาสแรกของปี 2554

- การปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายกิจการ ต้นทุนเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์หนี้ และต้นทุนเกี่ยวกับการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรอง (secondary offering) อยู่ที่ราว 10 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.30 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสแรก

- กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA)(1)(2) อยู่ที่ 56 ล้านดอลลาร์ หรือ 16% ของรายได้จากการขาย

- ส่วนต่างระหว่างการคำนวณด้วยหลักการบัญชี LIFO กับ FIFO (LIFO to FIFO income)(3) อยู่ที่ 21 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับ 7 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2553


“เครตันยังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกของปี 2554 ด้วยปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปี และรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553 บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเพราะมีการขึ้นราคาสินค้าในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2553 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553” เควิน เอ็ม โฟการ์ตี (Kevin M. Fogarty) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเครตัน กล่าว “วัตถุดิบสำคัญๆที่เราใช้ยังคงมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดไตรมาสแรกของปีนี้ ดังนั้นเราจึงประกาศขึ้นราคาสินค้าเพิ่มเติมอีก ซึ่งสินค้าหลายรายการมีการขึ้นราคาแล้วในไตรมาส 2 ของปีนี้” เขากล่าว “ในไตรมาสดังกล่าว เรายังคงให้ความสำคัญกับการขยายนวัตกรรมและดำเนินโครงการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อการพาณิชย์ เราได้รับการสนับสนุนจากความก้าวหน้าของนวัตกรรมเหล่านี้ และในปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 เรามีดัชนี Vitality Index อยู่ที่ 14% นอกจากนั้นเรายังประสบความสำเร็จอย่างสูงในการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรองช่วงสิ้นสุดไตรมาส โดยสามารถขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดซึ่งถือโดย ทีพีจี แคปิตอล แอลพี (TPG Capital, L.P.) และ เจพี มอร์แกน พาร์ทเนอร์ส แอลแอลซี (J.P. Morgan Partners, LLC) ทั้งหมดนี้ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบริษัท”


ไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม

2011 2010

รายได้จากการขาย 344,828,000 ดอลลาร์ 272,732,000 ดอลลาร์

กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา(1)(2) 56,018,000 ดอลลาร์ 42,622,000 ดอลลาร์

กำไรสุทธิ 21,877,000 ดอลลาร์ 19,795,000 ดอลลาร์

กำไรต่อหุ้นปรับลด(4) 0.68 ดอลลาร์ 0.64 ดอลลาร์

เงินสดสุทธิที่ใช้ในกิจกรรมการดำเนินงาน 44,137,000 ดอลลาร์ 72,836,000 ดอลลาร์


(1) การยืนยันความถูกต้องของกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA) ต่อกำไรสุทธิรวมอยู่ในตารางผลประกอบการดังกล่าว


(2) กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA) คือ EBITDA ที่ไม่นับรวมการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสด และค่าเสียหายจากการล้างบัญชีหนี้สิน


(3) ส่วนต่างระหว่างการคำนวณด้วยหลักการบัญชี first-in, first-out (FIFO) และ last-in, first-out (LIFO) ส่งผลให้ต้นทุนขายสินค้าลดลงราว 21.0 ล้านดอลลาร์ และ 7.3 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 และ 2553 ตามลำดับ


(4) กำไรสุทธิของไตรมาสแรกปี 2554 นับรวมการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายกิจการ ต้นทุนเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์หนี้ และต้นทุนเกี่ยวกับการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรอง อยู่ที่ราว 10 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.30 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาสแรกของปี 2554 และอยู่ที่ราว 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.02 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาสแรกของปี 2553


ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2554 เทียบกับไตรมาสแรกปี 2553

รายได้จากการขายในไตรมาสแรกปี 2554 อยู่ที่ 345 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553 สาเหตุหลักเป็นเพราะปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัจจัยอื่นๆ โดยปริมาณการขายในไตรมาสแรกของปี 2554 อยู่ที่ 81 กิโลตัน เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสแรกของปี 2553

สำหรับกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA) ในไตรมาสแรกของปี 2554 อยู่ที่ 56 ล้านดอลลาร์ หรือ 16% ของรายได้จากการขาย เทียบกับ 43 ล้านดอลลาร์ หรือ 16% ของรายได้จากการขายในไตรมาสแรกของปี 2553 ขณะที่ส่วนต่างระหว่างการคำนวณด้วยหลักการบัญชี LIFO และ FIFO ส่งผลเชิงบวกต่อกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (Adjusted EBITDA) ในไตรมาสแรกของปี 2554 ที่ 21 ล้านดอลลาร์ และ 7 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2553

กำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 2554 อยู่ที่ 22 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.68 ดอลลาร์/หุ้นปรับลด (diluted share) เทียบกับ 20 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.64 ดอลลาร์/หุ้นปรับลด ในไตรมาสแรกของปี 2553 ส่วนกำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกของปี 2554 ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทำธุรกรรมซื้อขายกิจการ ต้นทุนเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์หนี้ และต้นทุนเกี่ยวกับการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรอง ซึ่งมีมูลค่าราว 0.30 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนของไตรมาสแรกปี 2553 อยู่ที่ราว 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.02 ดอลลาร์/หุ้น


กระแสเงินสด

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 เงินสดสุทธิที่ใช้ในกิจกรรมการดำเนินงานต่างๆอยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 73 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2553 ส่วนรายจ่ายฝ่ายทุนสุทธิ (net capital expenditures) ในไตรมาสแรกของปี 2554 อยู่ที่ 17 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2553


ข้อมูลตลาดการใช้งาน

รายได้จากตลาดการใช้งานวัสดุเชิงก้าวหน้า (Advanced Materials) เพิ่มขึ้น 19 ล้านดอลลาร์ หรือราว 21% แตะที่ 111 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553

“รายได้จากการใช้งานวัสดุเชิงก้าวหน้าเพิ่มขึ้นในทุกตลาด ซึ่งรวมถึงบรรดาตลาดเกิดใหม่ที่มีเอชเอสบีซี (HSBC) เป็นแกนนำในการขยายตัว” โฟการ์ตี กล่าว “เราเห็นว่ายอดขายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมยังมีแนวโน้มสดใส ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวรวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลอย่างผ้าอ้อมเด็กและผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รวมถึงผลิตภัณฑ์สายไฟและสายเคเบิลปลอดพีวีซีอย่างสายเชื่อมต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์และสายไฟ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์อย่างถุงใส่ของเหลวให้ทางหลอดเลือดและท่อหรือหลอดต่างๆ”

รายได้จากตลาดการใช้งานผลิตภัณฑ์ยึดติด ผนึก และเคลือบ (Adhesives, Sealants and Coatings) เพิ่มขึ้น 18 ล้านดอลลาร์ หรือราว 19% แตะที่ 110 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553

“รายได้จากตลาดการใช้งานผลิตภัณฑ์ยึดติด ผนึก และเคลือบ ปรับตัวสูงขึ้นโดยการนำของตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ และสาเหตุหลักเป็นเพราะราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น” โฟการ์ตี กล่าว “ยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้นเพราะผลิตภัณฑ์เชิงอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ (non-woven) รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ส่วนยอดขายในอเมริกาเหนือได้รับแรงหนุนจากผลิตภัณฑ์เทปกาวพิเศษและแม่พิมพ์”

รายได้จากตลาดการใช้งานผลิตภัณฑ์ปูพื้นและมุงหลังคา (Paving and Roofing) เพิ่มขึ้น 33 ล้านดอลลาร์ หรือราว 53% แตะที่ 94 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553

“ยอดขายเพิ่มขึ้นโดยการนำของตลาดยุโรป ซึ่งมีการปรับเพิ่มราคาสินค้าและมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดผลิตภัณฑ์ปูพื้นและมุงหลังคา สำหรับในอเมริกาเหนือ ยอดขายเพิ่มขึ้นเพราะการขึ้นราคาสินค้าทั้งในตลาดผลิตภัณฑ์ปูพื้นและมุงหลังคา และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดผลิตภัณฑ์ปูพื้น นอกจากนั้นในไตรมาสดังกล่าวเรายังมียอดขายเพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดียและรัสเซีย” โฟการ์ตี กล่าว “เราประมาณการว่าปริมาณการขายในอเมริกาเหนือและยุโรปในไตรมาสแรกอยู่ที่ราว 7 กิโลตัน อันเป็นผลมาจากการซื้อที่มากขึ้น ซึ่งสูงกว่าปกติสำหรับช่วงก่อนฤดูสำรองสินค้า เนื่องจากลูกค้าสำรองสินค้าล่วงหน้าเพราะคาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นอีก”

รายได้จากตลาดการใช้งานในธุรกิจเกิดใหม่ (Emerging Businesses) เพิ่มขึ้น 6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 47% แตะที่ 20 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2554 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2553

“รายได้จากตลาดการใช้งานในธุรกิจเกิดใหม่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในธุรกิจน้ำยางไอโซพรีน Cariflex(TM) ซึ่งใช้ในการผลิตถุงมือผ่าตัดและถุงยางอนามัย รวมถึงธุรกิจยางไอโซพรีนแข็ง Cariflex ซึ่งใช้ในการเคลือบและทางการแพทย์” โฟการ์ตี กล่าว “นอกจากนั้นเรายังยินดีที่จะประกาศว่า เราประสบความสำเร็จในการขยายโครงการพัฒนาน้ำยางไอโซพรีนที่โรงงานในเมืองเปาลิเนีย ประเทศบราซิล”


ความก้าวหน้าในไตรมาสแรกปี 2554

ในวันที่ 6 เมษายน 2554 เครตันประกาศปิดการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรอง ซึ่งเป็นการขายหุ้นสามัญของเครตันจำนวน 9,988,072 หุ้นที่ถือครองโดยบริษัทในเครืออย่าง ทีพีจี แคปิตอล แอลพี และ เจพี มอร์แกน พาร์ทเนอร์ส แอลแอลซี ซึ่งเป็นหุ้นสามัญของเครตันทั้งหมดที่สองบริษัทครอบครองอยู่ ต่อสาธารณะในราคา 37.75 ดอลลาร์/หุ้น ก่อนการขายหุ้นครั้งนี้ ทีพีจี ครองหุ้นสามัญราว 18.80% ของทั้งหมด และเจพี มอร์แกน พาร์ทเนอร์ส ถือหุ้นราว 12.53% ทั้งนี้ เครตันไม่ได้รับผลกำไรใดๆจากการออกหุ้นเพิ่มทุนในตลาดรองครั้งนี้

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 เครตันออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน (senior unsecured note) หมดอายุปี 2562 จำนวน 6.75% มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ พร้อมทำข้อตกลงสินเชื่อไม่ด้อยสิทธิ์มีประกัน (senior secured credit facility) กับกลุ่มธนาคารหลายแห่ง ซึ่งประกอบด้วยข้อตกลงการกู้ยืมในรูปแบบของสัญญา (term Loan ) มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ และข้อตกลงสินเชื่อหมุนเวียน (revolving credit) มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ผลกำไรจากการออกหุ้นกู้ 6.75% และการทำข้อตกลงสินเชื่อไม่ด้อยสิทธิ์มีประกัน ถูกนำไปใช้ในการไถ่ถอนหนี้จากหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ (Senior Subordinated Notes) ซึ่งจะหมดอายุในปี 2557 จำนวน 8.125% และเพิ่มจำนวนหุ้นภายใต้ข้อตกลงการกู้ยืมในรูปแบบของสัญญาก่อนหน้านี้ของบริษัท

เครตันยังคงดำเนินการประเมินทางเลือกต่างๆสำหรับโรงงานผลิต hydrogenated styrenic block copolymer ที่บริษัทเสนอให้สร้างในเอเชีย ซึ่งการดำเนินงานประกอบด้วยการตรวจสอบอย่างละเอียดลึกซึ้งเกี่ยวกับตัวแปรต่างๆของโครงการ อาทิ โครงสร้างการทำธุรกรรม เงื่อนไขเชิงพาณิชย์ ข้อตกลงด้านการดำเนินงาน และวัตถุดิบ รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของตัวแปรดังกล่าวที่มีต่อสภาพทางการเงินโดยรวมของโครงการ ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดเผยสถานที่ก่อสร้างได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 โรงงานเคมีของเครตันในเมืองคาชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ต้องหยุดดำเนินงานตามมาตรการฉุกเฉินในการรับมือกับแผ่นดินไหว แม้โรงงานของเครตันจะไม่ได้รับความเสียหาย แต่มีการยืนยันว่าเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างที่โครงสร้างพื้นฐานของนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีคาชิม่าหลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ เครตันจึงต้องระงับการดำเนินงานต่อไปเพราะขาดมอนอเมอร์ที่ใช้ผลิตโพลิเมอร์ และขาดสาธารณูปโภค ตอนนี้บริษัทยังไม่สามารถบอกได้ว่าโรงงานในเมืองคาชิม่าจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อใด บริษัทยังคงจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำลังประสานงานกับบริษัทพันธมิตรร่วมทุนและบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งให้โรงงานกลับมาดำเนินการได้ตามปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ดี ในตอนนี้บริษัทสามารถรองรับอุปสงค์ตากลูกค้าได้ด้วยสต็อกสินค้าที่มีอยู่ และบริษัทได้ริเริ่มแผนรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการรองรับความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าจากโรงงานแห่งอื่นๆทั่วโลก เพื่อป้องกันมิให้อุปทานติดขัด


แนวโน้ม

“ในช่วงไตรมาสแรกของปีพ.ศ 2554 ราคาวัตถุดิบหลักๆของเราปรับตัวสูงขึ้น และปัจจุบันเราคาดว่าแนวโน้มเช่นนี้จะยังคงดำเนินต่อไป ดังเห็นได้จากราคาสัญญาซื้อขายสารบิวตาไดอีน (butadiene) ตลาดอเมริกาเหนือส่งมอบเดือนเม.ย.และพ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.38 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หรือ 36%” โฟการ์ตีกล่าว “ในส่วนของปริมาณการขาย เราเชื่อว่าปริมาณการขายประมาณ 9 กิโลตันในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2554 นั้นมาจากการสั่งซื้อล่วงหน้า โดยเฉพาะการใช้งานในธุรกิจปูพื้นและมุงหลังคา เนื่องจากลูกค้าดึงปริมาณหลักๆจากไตรมาส 2 มาสู่ไตรมาสแรก ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ได้พิจารณาข้อมูลการซื้อล่วงหน้า 9 กิโลตันในไตรมาสแรกของปี 2554 เราจึงคาดว่าปริมาณการขายในไตรมาส 2 ของเราจะอยู่ระหว่าง 84-87 กิโลตัน ซึ่งเป็นช่วงตัวเลขของปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกถึงไตรมาส 2 ในอดีต”


ใช้วิธีการวัดผลทางการเงินแบบ NON-GAAP

การเปิดเผยผลประกอบการครั้งนี้ครอบคลุมถึงการใช้วิธีการวัดผลทางการเงินแบบ GAAP และ non-GAAP การวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP คือ EBITDA และ Adjusted EBITDA ในแต่ละกรณีนั้น การวัดผลทางการเงินแบบ GAAP ที่สามารถเปรียบเทียบโดยตรงได้มากที่สุดคือกำไรสุทธิ ตารางที่รวมอยู่ในรายงานผลประกอบการฉบับนี้ได้ปรับการวัดผลทางการเงินแบบ non-GAAP ให้เข้ากับการวัดผลทางการเงินแบบ GAAP ที่สามารถเปรียบเทียบโดยตรงได้มากที่สุด

เรามองว่า EBITDA และ Adjusted EBITDA เป็นการวัดผลเสริมที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของเรา และเชื่อว่านักลงทุนและหน่วยงานที่สนใจจะนำการวัดผลดังกล่าวไปใช้ในการประเมินบริษัทต่างๆในอุตสาหกรรมของเรา EBITDA และ Adjusted EBITDA เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ที่มีข้อจำกัด และคุณไม่ควรนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพียงด้านเดียว หรือใช้แทนการวิเคราะห์ผลประกอบการของเราภายใต้ GAAP ในสหรัฐอเมริกา EBITDA และ Adjusted EBITDA ที่แสดงให้เห็นในรายงานผลประกอบการฉบับนี้อาจแตกต่างไปจากจำนวน EBITDA ที่เราคำนวณตามตราสารหนี้ของเรา


ข้อมูลการประชุมทางโทรศัพท์และถ่ายทอดสดผ่านเว็บ

เครตันมีกำหนดจัดการประชุมทางโทรศัพท์ (conference call) ในวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ค. 2554 เวลา 09.00 น.(ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ) เพื่ออภิปรายผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2554 เครตันขอเชิญท่านร่วมฟังการประชุมดังกล่าวซึ่งจะเผยแพร่สัญญาณสดทางอินเทอร์เน็ตที่ www.kraton.com โดยเลือกลิงค์ “Investors Relations” ที่ด้านบนสุดของโฮมเพจ และเลือก “Events” จากเมนู Investors Relations ทางด้านซ้ายของหน้า Investors Relations

นอกจากนี้ ท่านยังสามารถฟังการประชุมดังกล่าวได้ทางโทรศัพท์ ด้วยการต่อสายถึงโอเปอเรเตอร์ในเวลา 5-10 นาทีก่อนที่การประชุมจะเริ่มตามกำหนด เพื่อขอ “Kraton Conference Call – Passcode: Earning Call” โดยผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดากรุณาโทรศัพท์มาที่หมายเลข 888-577-8992 ในต่างประเทศติดต่อที่หมายเลข +1-312-470-7060

สำหรับท่านที่ไม่สามารถฟังการกระจายเสียงแบบสดได้นั้น สามารถฟังซ้ำได้ในเวลาประมาณ 11.00 น.(ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ) ของวันที่ 5 พ.ค. 2554 จนถึงเวลา 23.59 น.(ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ) ของวันที่ 19 พ.ค.2554 ทั้งนี้ การฟังซ้ำทางอินเทอร์เน็ต สามารถทำได้โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของเครตันที่ http://www.kraton.com จากนั้นเลือกลิงค์ “Investors Relations” ด้านบนสุดของโฮมเพจ และเลือก “Events” จากเมนู Investors Relations ทางด้านซ้ายของหน้า Investors Relations ส่วนการฟังซ้ำทางโทรศัพท์ สามารถทำได้โดยโทรศัพท์ไปที่หมายเลข 886-454-1413 และโทรทางไกลระหว่างประเทศ กด +1-203-369-1236


เกี่ยวกับเครตัน

เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์ ซึ่งดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูกของเครตัน โพลิเมอร์ส แอลแอลซี (Kraton Polymers LLC) และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “เครตัน”) เป็นผู้ผลิตโพลีเมอร์ด้านวิศวกรรมชั้นนำระดับโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทรายใหญ่สุดของโลกที่ผลิต styrenic block copolymers ("SBCs") ซึ่งเป็นตระกูลของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้เคมีภัณฑ์ซึ่งเครตันเป็นผู้บุกเบิกเมื่อเกือบ 50 ปีก่อน ทั้งนี้ สารโพลีเมอร์ของเครตันถูกนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆ อาทิ สารยึดติด การเคลือบสี ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและของใช้ส่วนบุคคล สารผนึกและสารหล่อลื่น ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ บรรจุภัณฑ์ รถยนต์ พื้น หลังคา และรองเท้า เครตันนำเสนอผลิตภัณฑ์ราว 800 รายการแก่ลูกค้ากว่า 700 รายในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และเป็นผู้ผลิต SBC รายเดียวที่มีโรงงานผลิตและศูนย์บริการใน 4 ทวีป เราผลิตสินค้าที่โรงงาน 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ โรงงานหลักในเมืองเบลพรี รัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นโรงงาน SBC ที่มีความหลากหลายที่สุดในโลก รวมถึงโรงงานในเยอรมนี ฝรั่งเศส และบราซิล และญี่ปุ่น โดยโรงงานในญี่ปุ่นดำเนินงานโดยบริษัทร่วมทุนด้านการผลิตที่ไม่ได้รวมกิจการกัน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.kraton.com

ชื่อ Kraton โลโก้และดีไซน์ Kraton รวมถึงแท็กไลน์ "Giving Innovators their Edge" เป็นเครื่องหมายการค้าของ Kraton Polymers LLC ทั้งหมด


ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งสะท้อนถึงแผนการ ความเชื่อ การคาดการณ์ และความคิดเห็นปัจจุบันของเราที่เกี่ยวกับผลการดำเนินงานทางการเงินและเหตุการณ์ต่างๆในอนาคต ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าอาจสังเกตได้จากการใช้คำต่างๆ อาทิ “แนวโน้ม” “เชื่อว่า” “ประมาณการว่า” “คาดว่า” “วางแผน” “อาจ” “จะ” “มุ่งหมาย” “มีแผน” “คาดหวังว่า” หรือมีการกล่าวถึงกลยุทธ์ แผนการ หรือความตั้งใจ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เกี่ยวข้องกับแนวโน้มราคา การคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสสอง การคาดการณ์ปริมาณ การประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่าย อัตราการผลิต และเรื่องอื่นๆที่คล้ายกัน ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งหมดในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เขียนขึ้นตามการคาดการณ์และประมาณการในปัจจุบันของฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ทั้งที่รู้และไม่รู้ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้ได้มีการอธิบายไว้อย่างครบถ้วนในส่วน "Part I. Item 1A. Risk Factors" ของรายงานประจำปี Form 10-K ทื่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และในรายงานความคืบหน้าประจำไตรมาส Form 10-Q และรวมถึงปัจจัยความเสี่ยงดังต่อไปนี้: ปัจจัยแวดล้อมในเศรษฐกิจโลกและตลาดทุน, การที่เราพึ่งพา LyondellBasell Industries สำหรับการดำเนินงานที่สำคัญและการบริการอื่นๆ, ความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อบังคับภายใต้ข้อตกลงการจัดหาสินค้าระยะยาวของซัพพลายเออร์ด้านวัตถุดิบ หรือความล้มเหลวในการใช้ข้อตกลงฉบับใหม่ หรือความล้มเหลวเรื่องการต่อสัญญาเมื่อข้อตกลงหมดอายุ, ข้อจำกัดด้านปริมาณวัตถุดิบที่เราจำเป็นต้องใช้ในการผลิตสินค้าจำนวนมาก หรือผลิตสินค้าในราคาที่ทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำกำไรได้, การแข่งขันในตลาดด้านผลิตภัณฑ์การใช้งานสำเร็จรูปจากผู้ผลิต SBCs รายอื่นๆ และจากผู้ผลิตสินค้าที่สามารถใช้แทนผลิตภัณฑ์ของเราได้, ความสามารถของเราในการผลิตและการจำหน่ายนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี, ความสามารถของเราในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่ธุรกิจของเราต้องพึ่งพาอย่างมาก, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในผลิตภัณฑ์ของเรา, ฤดูกาลในการทำธุรกิจปูพื้นและมุงหลังคาของเรา, ข้อจำกัดด้านการเงินและการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระดับหนี้สิน, การเคลมหนี้สินของผลิตภัณฑ์และคดีความอื่นๆที่เกิดจากความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมหรือความเสียหายของตัวบุคคลอันเนื่องมาจากการผลิตเคมีภัณฑ์, ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่, การผลิตเคมีภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ, กฎหมายด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่ระบุถึงข้อบังคับของพนักงานในการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์, ข้อกำกับดูแลลูกค้าของเรา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเสียหายของผลิตภัณฑ์หรือส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานตามข้อบังคับพุ่งสูงขึ้น, ศุลกากร การค้าระหว่างประเทศ การควบคุมด้านการส่งออก การต่อต้านการผูกขาด การกำหนดพื้นที่และการครอบครองพื้นที่ และกฎหมายแรงงานและการจ้างงานที่อาจทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจและทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน, ความสัมพันธ์กับพนักงานของเรา, การสูญเสียบุคลากรที่สำคัญ หรือการที่เราไม่สามารถดึงดูดและว่าจ้างบุคลากรที่มีความสามารถรายใหม่ๆ, ข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่มีสัญญาระยะยาวกับลูกค้า, มูลค่าสินทรัพย์บำนาญที่ลดลงซึ่งอาจทำให้เราต้องระดมทุนเพิ่มขึ้นสำหรับแผนการกำหนดเงินทุนบำนาญ, การขายหุ้นของเราในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้นสามัญของเรา, กฎหมายเดลาแวร์และข้อกำหนดบางข้ออาจทำให้การเทคโอเวอร์ของบริษัทเรามีความยุ่งยาก, และความเสี่ยง ปัจจัย และความไม่แน่นอนอื่นๆ ที่อธิบายอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ตลอดจนในรายงานและเอกสารฉบับอื่นๆของเรา, และปัจจัยอื่นๆที่เราไม่ได้คำนึงถึงและไม่เห็นสำคัญในขณะนี้ ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มากเกินไป และเราไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าให้ทันสมัยแม้จะมีข้อมูลหรือเหตุการณ์ใหม่ๆเกิดขึ้นในอนาคต ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้านั้น สามารถดูได้จากเอกสารที่เครตันยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์

งบการเงินรวมโดยย่อ

(ก่อนตรวจสอบ)


(หน่วยเป็นพันล้าน ยกเว้นข้อมูลต่อหุ้น)


งวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.

---------------------------------


2554 2553

-------- ------


รายได้จากการขาย $344,828 $272,732

ต้นทุนการขายสินค้า 257,977 203,605

------- -------


กำไรขั้นต้น 86,851 69,127

------ ------


ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

การวิจัยและพัฒนา 6,602 5,984

การขาย ทั่วไป และการจัดการ 27,171 22,062

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย

ค่าใช้จ่ายไม่มีตัวตนแต่สามารถระบุได้ 14,626 11,046

------ ------


รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 48,399 39,092

------ ------


ขาดทุนจากการตัดบัญชีหนี้ 2,985 -

กำไรของบริษัทร่วมทุน 141 74

ดอกเบี้ยจ่าย, สุทธิ 11,181 6,064

------ -----


กำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 24,427 24,045

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2,550 4,250

----- -----


กำไรสุทธิ $21,877 $19,795


กำไรต่อหุ้น

พื้นฐาน $0.69 $0.64

ปรับลด $0.68 $0.64


หนี้คงค้างในรูปหุ้นสามัญโดยเฉลี่ย

พื้นฐาน 31,609 30,539

ปรับลด 32,197 30,728


เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์

งบดุลรวมโดยย่อ

(ก่อนตรวจสอบ)

(หน่วยเป็นพันล้าน ยกเว้นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้)


31 มี.ค. 2554 31 ธ.ค. 2553


---- ----


สินทรัพย์

สินทรัพย์หมุนเวียน

เงินสดและเงินสดหมุนเวียน $36,031 $92,750

ลูกหนี้, สุทธิจากการหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ

$1,147 และ $947 177,760 136,132

สินค้าคงเหลือ, สุทธิ 364,257 325,120

วัตถุดิบและวัสดุคงเหลือ, สุทธิ 9,829 9,631

สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆ 46,699 38,749

------ ------


รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 634,576 602,382

------- -------


ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์

หักค่าเสื่อมสะสมของ $270,908 และ $252,387 381,209 365,366

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ระบุได้

ค่าตัดจำหน่ายสะสม ของ 52,268

และ $50,123 68,449 70,461

การลงทุนในบริษัทร่วมทุน 13,204 13,589

ต้นทุนการเงินรอตัดบัญชี 12,838 3,172

สินทรัพย์ระยะยาวอื่นๆ 26,885 25,753

------ ------


รวมสินทรัพย์ $1,137,161 $1,080,723

========== ==========


หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น


หนี้สินหมุนเวียน

สัดส่วนหนี้ระยะยาวหมุนเวียน $9,375 $2,304

บัญชีเจ้าหนี้การค้า 84,054 86,699

เจ้าหนี้และหนี้ค้างจ่ายอื่นๆ 43,970 60,782

ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี 595 595

ตั๋วเงินจ่ายเบี้ยประกัน 4,260 -

หนี้ระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 17,379 19,264

------ ------


รวมหนี้สินหมุนเวียน 159,633 169,644

หนี้ระยะยาว, สัดส่วนหมุนเวียนสุทธิ 390,625 380,371

ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี 14,823 14,089

หนี้ระยะยาว 72,987 64,242

------ ------


รวมหนี้สิน 638,068 628,346

------- -------


ส่วนของผู้ถือหุ้น

หุ้นบุริมสิทธิ์ มูลค่าตราไว้ $0.01 หุ้น

จำนวน 100,000 หุ้น

หุ้นสามัญยังไม่จำหน่าย มูลค่าที่ตราไว้ $0.01

จำนวน 500,000 หุ้น

หุ้นที่จำหน่ายแล้ว 31,881 หุ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค.2553 319 314

ส่วนเกินทุน 340,913 334,457

กำไรสะสม 118,588 96,711

กำไรเบ็ดเสร็จอื่นๆสะสม 39,273 20,895

------ ------


รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 499,093 452,377

------- -------


รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น $1,137,161 $1,080,723

========== ==========


บริษัทเครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์

งบบัญชีกระแสเงินสดโดยย่อ

(ก่อนสอบทาน)

(หลักพัน)


งวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.

------------------


2554 2553

---- ---

กระแสเงินสดจากผลการดำเนินงาน

กำไรสุทธิ $21,877 $19,795

การปรับยอดกำไรสุทธิเป็นกระแสเงินสดสุทธิ

จากการดำเนินงาน:

ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของ

สินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ระบุได้ 14,626 11,046

ค่าเสื่อมราคาของค่าใช้จ่ายทางการเงิน

รอตัดบัญชี 4,762 518

ยอดขาดทุนจากการจำหน่ายทิ้ง

ของสินทรัพย์คงที่ 5 3

ยอดขาดทุนจากการชำระหนี้ 2,985 -

การเปลี่ยนแปลงมูลค่าการสวอป

อัตราแลกเปลี่ยน - (450)

รายได้จัดจำหน่ายในการรวมธุรกิจ 374,000 328

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชี 735 909

เงินชดเชยอิงตามหุ้น 1,294 1,332

การเพิ่มขึ้นใน

บัญชีลูกหนี้ (36,792) (38,811)

สินค้าคงคลัง วัตถุดิบและวัสดุ (31,359) (26,949)

สินทรัพย์อื่นๆ (12,626,000) (18,139)

การลดลงใน

บัญชีเจ้าหนี้การค้า,

เจ้าหนี้และหนี้ค้างจ่ายอื่นๆ,

และหนี้สินระยะยาวอื่นๆ (8,150) (20,160)

หนี้ระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน (1,868) (2,258)

------ ------


เงินสดสุทธิในการดำเนินงาน (44,137) (72,836)

------- -------


กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน

ซื้อที่ดิน, อาคาร และอุปกรณ์ (16,518) (6,466)

ซื้อซอฟต์แวร์ (132) (1,188)

---- ------


เงินสดสุทธิที่ใช้ในการลงทุน (16,650) (7,654)

------- ------


กระแสเงินสดจากกิจกรรมทางการเงิน

รายได้จากหนี้ 400,000 25,000

การชำระหนี้ (385,660) (25,576)

รายได้จากการออกหุ้นสามัญ - 11,197

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นสามัญ - (484)

รายได้จากสิทธิในการซื้อหุ้น 5,896 -

รายได้จากการออกตั๋วเงินจ่าย 4,734 3,201

การชำระหนี้ของการออกตั๋วเงินจ่าย (474) -

ค่าใช้จ่ายในการออกหุ้นกู้ (14,948) -

------- ---


เงินสดสุทธิจากกิจกรรมทางการเงิน 9,548 13,338

----- ------


ผลกระทบจากความแตกต่างของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีต่อเงินสด (5,480) 9,911

------ -----


เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลงสุทธิ (56,719) (57,241)

เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นงวด 92,750 69,291

------ ------


เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด $36,031 $12,050

======= =======


ข้อมูลเปิดเผยเพิ่มเติม

เงินสดที่จ่ายระหว่างงวดสำหรับภาษีเงินได้

เงินสุทธิของยอดเงินคืนที่ได้รับ $3,703 $894

เงินสดที่จ่ายระหว่างงวดสำหรับดอกเบี้ย $10,647 $9,989


บริษัทเครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์

EBITDA และ ADJUSTED EBITDA

(หลักพัน)


เราได้ปรับยอดกำไรสุทธิสำหรับ EBITDA และ Adjusted EBITDA ดังต่อไปนี้

งวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.

---------

2554 2553

---- ----

(หลักพัน)


กำไรสุทธิ $21,877 $19,795

รวม

ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, 11,181 6,064

ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2,550 4,250

ค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 14,626 11,046

------ ------


EBITDA (a) $50,234 $41,155

------- -------


ส่วนเสริม

การปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (b) 1,505 135

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินสด (c) 1,294 1,332

ขาดทุนจากการชำระหนี้ (d) 2,985 -

----- ---


Adjusted EBITDA (a) $56,018 $42,622

======= =======


(a) EBITDA และ Adjusted EBITDA เป็นผลจากส่วนต่างระหว่างการคำนวณบัญชีด้วยหลัก FIFO และ LIFO ส่วนต่างระหว่างบัญชี FIFO และ LIFO มีผลในแง่บวกต่อ EBITDA และ Adjusted EBITDA ที่ประมาณ 21.0 ล้านดอลลาร์ และ 7.3 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ของปีพ.ศ.2554 และปีพ.ศ.2553 ตามลำดับ


(b) ค่าใช้จ่ายการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในปีพ.ศ.2554 เบื้องต้นประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมให้คำปรึกษา ค่าใช้จ่ายด้านเงินชดเชยเมื่อถูกเลิกจ้าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กรในยุโรป ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการประเมินการทำธุรกรรมควบรวมกิจการ สำหรับค่าใช้จ่ายในปีพ.ศ.2553 ประกอบด้วย ค่าบริการให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กรในยุโรป


(c) เงินชดเชยที่ไม่ได้อยู่ในรูปเงินสดของทั้งสองงวด


(d) ในปีพ.ศ.2554 มีตัวเลขขาดทุนจากการชำระหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์หนี้ของเครตันในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


ค่าใช้จ่ายด้านการปรับโครงสร้างและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ได้ชี้แจงไปแล้วข้างต้นถูกบันทึกไว้ในรายงานงบบัญชีการดำเนินงานโดยย่อ ดังนี้


งวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.

----------

2554 2553

---- ----

(หลักพัน)

การขาย, ทั่วไป และการจัดการ $1,505 $135


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:

นักลงทุน: H. Gene Shiels, โทร +1-281-504-4886

สื่อมวลชน: Richard A. Ott, โทร +1-281-504-4720


(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20100728/DA42514LOGO )


แหล่งข่าว: เครตัน เพอร์ฟอร์แมนซ์ โพลิเมอร์ส อิงค์


AsiaNet 44473


-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --