กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--IR PLUS
TPOLY ตั้งสองบริษัทย่อย "ทีโพลี่ พร็อพเพอร์ตี้" และ "ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์" รองรับการขยายไลน์ธุรกิจลุยงานอสังหาฯ และโรงไฟฟ้าชีวะมวลแห่งที่สอง หลังเห็นทิศทางสร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว เตรียมดัน "ทีโพลี่ พร็อพเพอร์ตี้" ประเดิมโครงการอสังหาฯ แนวราบมูลค่า 200 ลบ.ชิมลางเป็นงานแรก คาดเห็นผลงานชัดเจนปีหน้า ส่วน"ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์" ลุยธุรกิจโรงไฟฟ้าแห่งที่สองที่นครศรีธรรมราช ต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าประจวบฯ เผยใช้งบประมาณ 700 ลบ. ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 22 เดือน ส่วนธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างยังเติบโตได้ดี
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ได้มีมติอนุมัติเบื้องต้นให้จัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อบริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CR) ภายในเดือนมิถุนายน 2554 ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 130,000,000 บาท โดย TPOLY ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 65 ของทุนจดทะเบียน 200,000,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นการถือหุ้นร่วมของพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจโรงไฟฟ้า โดย บริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ที่ตำบลนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถือเป็นการสานต่อนโยบายเพิ่มรายได้และกำไรสุทธิและเพิ่มกระแสเงินสดที่มั่นคงให้กับบริษัทฯในระยะยาว เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าได้รับสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้าระยะยาวเป็นเวลา 25 ปี ต่อเนื่องอัตโนมัติทุกๆ 5 ปี โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการก่อสร้างได้ในไตรมาส 3 นี้
นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้อนุมัติเบื้องต้นให้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท ทีโพลี่ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ภายในเดือนพฤษภาคม 2554 เพื่อประกอบธุรกิจ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซื้อขายที่ดิน พัฒนาโครงการจัดสรร รับจำนำจำนอง โดย TPOLY ลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 99.99 จากทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งประมาณปลายปี 2554 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ แนวราบใหม่จำนวน 1 โครงการ มูลค่า 200 ล้านบาท ถือเป็นโครงการนำร่องเป็นโครงการแรก ส่วนทำเลยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้
" การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นไปตามแผนธุรกิจที่บริษัทฯวางไว้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการลงทุนในธุรกิจนี้บริษัทฯ ได้ร่วมกับพันธมิตรซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทฯ จะดูแลการก่อสร้าง ส่วนพันธมิตรจะดูแลการขาย ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3 ปีนี้น่าจะเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเป็นทางการได้ ส่วนบริษัท ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด ที่จะลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล แห่งที่ 2 เพื่อผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ที่ตำบลนาโพธิ์ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งแรก ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นั้น จะมีกำลังการผลิตเท่ากับโรงแรก คือ 9.5 เมกะวัตต์ มูลค่าเงินลงทุนใกล้เคียงกันที่ 700 ล้านบาท ซึ่งในโครงการนี้ทางบริษัทเป็นทั้งผู้รับเหมาในการก่อสร้างและผู้ลงทุน โดยทางบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงระหว่างการก่อสร้างเป็น Backlog ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 550-580 ล้านบาท อีกทั้งโครงการนี้สามารถสร้างรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท/ปี บริษัทถือหุ้น 65% ทำให้รับรู้รายได้ประมาณ 130 ล้านบาท/ปี และมีกำไรสุทธิประมาณ 35 ล้านบาท/ปี โดยโครงการนี้มีผลตอบแทนการลงทุนที่(IRR) 12% ระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 6.5 ปี "
นายเชิดศักดิ์ กล่าวอีกว่า การขยายไลน์ธุรกิจให้กว้างขวางขึ้นในปัจจุบัน เพื่อต้องการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทฯ ในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจหลักและรายได้หลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และบริษัทฯ ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีกมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยประกาศผลในช่วงไตรมาส 2/2554 และไตรมาส 3/2554 ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 50% จากมูลค่างานทั้งหมด ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงเน้นรับงาน 6 กลุ่มหลัก ซึ่งประกอบด้วย 1. คอนโดมิเนียมและช้อปปิ้งมอลล์ 2. โรงพยาบาล 3. ปิโตรเคมี 4. โรงไฟฟ้า 5. สถาบันการศึกษา และ 6. งานปรับปรุงอาคารต่างๆ ปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 3,218 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้สัดส่วน 40% ที่เหลืออีก 60% ทยอยรับรู้รายได้ในปี 2555 จึงมั่นใจว่าในปีนี้จะผลักดันรายได้ให้ขึ้นสู่เป้าหมายที่ 2,500 ล้านบาทได้สำเร็จ จากปี 2553 ที่ทำได้ 2,012.68 ล้านบาท
"บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักคืองานก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานที่บริษัทฯ มีความชำนาญ ส่วนธุรกิจใหม่ที่เพิ่มเข้ามา 2 ธุรกิจคือโรงไฟฟ้าชีวมวลและอสังหาริมทรัพย์ เป็นการแตกไลน์ธุรกิจ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ซึ่งในปีหน้าจะเริ่มเห็นโครงการอสังหาฯ โครงการแรกออกมา ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ทางบริษัทมีแผนการลงทุนโดยจะมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 3 โครงการภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแล้ว ส่วนของโครงการ ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จะใช้เวลาก่อสร้าง 22 เดือน หลังจากโครงการแล้วเสร็จจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางรายได้ของบริษัทในอนาคตเป็นอย่างดี " นายเชิดศักดิ์ กล่าว
หากท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : IR PLUS คุณรัตน์ศิกร จันทระ (เก่ง) Tel. 02-554-9371 email:[email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit