กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม และเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ เจ้าของผลิตภัณฑ์สีพ่นรถยนต์ระดับโลก ผนึกกำลังครั้งสำคัญ ประกาศแต่งตั้ง ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ สุดยอดเทคโนโลยีสีพ่นซ่อมรถยนต์ ได้แก่ สีพ่นซ่อมรถยนต์สูตรน้ำ AWX และ ATX สีพ่นซ่อมรถยนต์สูตร Solvent ชูจุดขาย ผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยม แห้งเร็ว ฉับพลัน ทันใจ ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการทั้งผู้ประกอบการ และผู้ใช้รถยนต์ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 200 ล้านบาท
นายณัฎฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ตลอดเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายสีพ่นซ่อมรถยนต์ ภายใต้แนวคิด THE COLLISION REPAIR EXPERT ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องสีพ่นซ่อมรถยนต์และงานซ่อมด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมและบริการหลังการขายที่เป็นเลิศ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ มีส่วนแบ่งตลาดเติบโตอย่างต่อเนื่อง ติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ โดยเฉพาะในตลาดสี 2K ซึ่งเป็นตลาดระดับบน แต่บริษัทฯ ยังขาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ใช้ในศูนย์บริการ ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ หรือที่เรียกว่า OEM Approval โดยเฉพาะตลาดสีสูตรน้ำที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน โดยมีศูนย์บริการซ่อมสีรถยนต์ของฮอนด้าและโตโยต้าที่กำลังเปลี่ยนจากระบบ Solvent มาใช้สีสูตรน้ำ โดยเฉพาะฮอนด้าได้เปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำครบทุกศูนย์บริการแล้ว ด้วยเป็นสูตรสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
“ด้วยเหตุนี้ ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ฯ จึงมองหาผลิตภัณฑ์สีสูตรน้ำคุณภาพเยี่ยมมารองรับความต้องการในกลุ่มนี้ โดยได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ของเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ (Sherwin Williams) และพบว่ามีทั้งสีสูตรน้ำและสูตร Solvent ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก อีกทั้งยังมีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเรา จึงเป็นที่มาของการร่วมมือในฐานะพันธมิตรธุรกิจ โดย ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม เป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์คุณภาพพรีเมี่ยมมาจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการเปิดตัวและจัดจำหน่ายเวียดนาม รวมถึงการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปในอนาคต” ?
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามา ได้แก่ สีสูตรน้ำ AWX และสีสูตร Solvent ATX มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และใช้เทคโนโลยี AIR BAKE คือ การพ่นซ่อมสีรถยนต์โดยอาศัยการแห้งตัวจากอุณหภูมิห้อง ลดการใช้พลังงานจากห้องพ่นสีและเครื่องมืออินฟราเรด จึงช่วยลดปัญหามลภาวะ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะนำเข้ามาครบทั้งระบบ ตั้งแต่ สีรองพื้น สีจริง และสีเคลียร์ (ชั้นเคลือบเงา)
ในส่วนของลูกค้า นายณัฏฐวุฒิ กล่าวว่า แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก โดยลูกค้าสำหรับสีสูตรน้ำ AWX จะเป็นศูนย์บริการที่มีนโยบายเปลี่ยนระบบจากสีสูตร Solvent มาเป็นสีสูตรน้ำ ได้แก่ ฮอนด้า โตโยต้า และอู่ทั่วไปที่สนใจเปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำ ขณะที่กลุ่มลูกค้าสำหรับสีสูตร Solvent ATX ได้แก่ กลุ่มอู่ทั่วไปที่ยังคงใช้สีระบบนี้อยู่ และในอนาคตมีแนวโน้มว่าสีสูตรน้ำจะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มหันมาใช้สีประเภทนี้มากขึ้น นัยว่าเพื่อลดภาวะโลกร้อนและเพื่อสุขภาพของช่างสี เห็นได้จากในต่างประเทศทั้งยุโรปและสหรัฐได้มีกฎหมายบังคับใช้สีสูตรน้ำแล้ว ส่วนในประเทศไทยก็มีแนวโน้มที่ค่ายรถยนต์และอู่ต่างๆ จะหันมาใช้สีสูตรน้ำมากขึ้น ทั้งนี้มูลค่ารวมของ สีพ่นซ่อมรถยนต์ (Automotive Refinished Paint) อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท
"เราคาดว่าในอีก 3 ปีต่อจากนี้ สีพ่นซ่อมรถยนต์สูตรน้ำจะได้รับความนิยมจากศูนย์บริการของค่ายรถยนต์ต่างๆ เพราะทุกค่ายก็กำลังดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกรีนคอนเซ็ปต์ ส่วนในอีก 5-10 ปี อู่ซ่อมสีอิสระก็น่าจะใช้สีระบบน้ำเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะถ้ากฎหมายมีการบังคับใช้ ศูนย์บริการและอู่ทั้งหมดก็จะต้องเปลี่ยนตาม" นายณัฎฐวุฒิ กล่าว
จากการศึกษาจะเห็นว่าในภาวะการแข่งขันที่สูงในตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ ผู้เล่นรายหลักๆ ล้วนเป็นแบรนด์ระดับโลกจากต่างประเทศที่มุ่งเน้นในเรื่องเทคโนโลยีและคุณภาพที่เหนือชั้น แต่การช่วยเหลือศูนย์บริการและอู่ในการเพิ่มประสิทธิผลยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร จากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ศูนย์บริการและอู่หลายแห่งประสบปัญหาไม่สามารถรับรถเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากปัญหาพื้นที่ในการซ่อมและบุคลากรไม่เพียงพอ ในกรณีต้องการขยายกิจการเพื่อรองรับปริมาณรถก็จำเป็นต้องคำนึงถึงเงินลงทุนเพิ่มเติม
บริษัทฯ มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ของ Sherwin Williams ทั้งสองตัวนี้จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ด้วยการให้บริการภายใต้ระบบ HP Process ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ 1.เพิ่มประสิทธิผลของศูนย์บริการและอู่ต่างๆ ให้สูงขึ้น (Higher Productivity) เพื่อช่วยให้สามารถรับปริมาณรถได้เพิ่มขึ้น 2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ระยะเวลาในการทำงานลดลง (Higher Performance) และ 3.เพิ่มผลกำไรในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น (Higher Profit)
“ในแง่ของลูกค้า ผู้ใช้รถเอง ก็มีความพึงพอใจ ที่จะได้รับรถในเวลารวดเร็ว ไม่ต้องทิ้งรถไว้ในอู่นานๆ เนื่องจากประสิทธิภาพของสีแห้งเร็ว ถ้าการซ่อมในปริมาณที่ 2-3 ชิ้น ลูกค้าจะสามารถรับรถได้ในเวลา 1 ชั่วโมงแน่นอน”
ทั้งนี้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องให้ความสำคัญในการแนะนำวิธีการใช้งานและให้ความรู้โดยละเอียด บริษัทฯ จึงได้มุ่งเน้นการสาธิตและฝึกอบรม โดยมีศูนย์ฝึกอบรมระดับโลกที่ทันสมัยที่บางนา กม. 23 ภายในมีห้องปฏิบัติการเพื่อการเรียนผสมสี ปรับแต่งสี ห้องพ่นสี ห้องปฏิบัติการเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้สูตรสีด้วยระบบคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้เพื่อให้การฝึกอบรมการพ่นสีมีประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯ ได้จัดซื้อเครื่องมือฝึกพ่นสีเสมือนจริงหรือ Virtual Paint ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปัจจุบันมีเพียง 5 เครื่องในโลกและเป็นเครื่องเดียวในเอเชีย และมีการสร้างรถ Mobile Training Center เพื่อใช้ในการสาธิตและทดสอบผลิตภัณฑ์สีในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
“สิ่งที่เราจะทำอย่างต่อเนื่อง คือ มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสอง ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย ด้วยการส่งทีมบุคลากรเพื่อเข้าไปให้ความรู้ในเทคนิคการผสมสี การพ่นสีต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสีเดิมของตัวรถมากที่สุด และสนับสนุนลูกค้าด้วยโปรแกรมและซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่ช่วยในการวิเคราะห์และการให้บริการแก่ศูนย์บริการและอู่สี โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายยอดขายสีพ่นซ่อมรถยนต์ในประเทศไว้ที่ 200 ล้านบาท” นายณัฎฐวุฒิ กล่าวสรุป
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit