กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัติรย์
โครงการ “อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลน”โรงเรียนวัดแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีผืนดินบ้านเกิดที่อยู่อาศัยอยู่มานับแต่ลืมตาดูโลก กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นเขตอุตสาหกรรม ด้วยเหตุผลที่ว่า “ผืนดินตรงนี้ไม่เห็นมีความสำคัญ ไม่มีทรัพยากรที่มีค่า...ไม่มีอะไรเลย แล้วจะมีไปทำไม ย้ายคนออกไป แล้วสร้างโรงงานอุตสาหกรรมดีกว่า”
พูลศักดิ์บอกว่านี่เองคือแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เยาวชนโรงเรียนวัดแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ร่วมแรง รวมใจจัดทำ โครงการ “อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลน” เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า พื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขา เป็นผืนดินที่มีคุณค่าป่าชายเลนคือทรัพยากรอันมีค่าที่อยู่รอบโรงเรียนวัดแหลมฉบัง แต่เพราะความเจริญของอุตสาหกรรมที่รุกคืบเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้ป่าชายเลนถูกทำลายเสียหาย ที่หลงเหลืออยู่ก็ขาดการดูแลอนุรักษ์ เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนในชุมชนที่ไม่ตระหนักถึงประโยชน์ของป่าชายเลน
เมื่อกลุ่มเยาวชนของโรงเรียนวัดแหลมฉบังได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของป่าชายเลน ว่าเป็นแหล่งความรู้อันประเมินค่าไม่ได้ ที่พวกเขาสามารถใช้เป็นทั้งห้องสมุดธรรมชาติเพื่อการเรียนรู้ เป็นทั้งแหล่งพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ที่ล้วนมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ และเป็นแหล่งกำเนิดผลผลิตที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นเครื่องอุปโภคบริโภคได้อีกด้วย
กลุ่มเยาวชนแกนนำ จึงได้จัดทำโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลนขึ้นในปี 2548 โดยเริ่มต้นจากการออกไปศึกษาหาความรู้ที่อ่าวคุ้งกระเบน แล้วนำความรู้ที่ได้กลับมาใช้ฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ของตนเอง โดยเริ่มจากออกสำรวจทั้งพันธุ์พืชและสัตว์น้ำที่ยังพอหลงเหลืออยู่ และค่อยๆ เริ่มต้นฟื้นฟูด้วยกิจกรรมง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง อาทิ การเก็บขยะ การปลูกต้นไม้ในเบื้องต้น
ด้วยใจอันมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูและรักษาถิ่นที่อยู่อาศัยให้คงอยู่ต่อไปของกลุ่มเยาวชนโรงเรียนวัดแหลมฉบัง กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนในชุมชนเริ่มหันมาเห็นคุณค่าของป่าชายเลน สภาวะแวดล้อมใกล้ตัวที่ถูกละเลยมาเป็นเวลานาน และนั่นทำให้โรงเรียนกลายเป็นแกนนำของชุมชน ส่งผลให้เกิดดอกออกผลกลายเป็นกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ
“ป่าชายเลนที่เคยเสื่อมโทรม ตอนนี้อุดมสมบูรณ์ขึ้น สภาพแวดล้อมดีขึ้น ต้นไม้เยอะขึ้น ระบบนิเวศน์ดีขึ้น สัตว์ต่างๆ ที่เคยหายไปก็กลับมา ทั้งปลาตีน ปูแสม ปูก้ามดำ คุณภาพน้ำก็ดีขึ้น เพราะรากโกงกางช่วยบำบัดน้ำ และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำด้วย” ความรู้สึกนี้เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของศุภนันท์ ที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในแกนนำเยาวชน
ความสมบูรณ์ที่คืนกลับมาของป่าชายเลนไม่เพียงส่งผลดีต่อคุณภาพน้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ แต่ยังส่งผลดีต่อ สภาพจิตใจของผู้คนในชุมชนอีกด้วย “เยาวชนและคนในชุมชนมีจิตสาธารณะเพิ่มขึ้น รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แทนที่จะอยู่เฉยๆ ก็มาช่วยกันปรับปรุงชุมชนของเรา เอาเวลามาเพาะกล้า รวมกลุ่มกันมาศึกษาเรื่องพันธุ์ไม้ในป่าชายเลน” ชาวบ้านคนหนึ่งแสดงทัศนคติ
ความรักในถิ่นกำเนิดเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้เยาวชนของโรงเรียนวัดแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีจัดทำโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลน เพื่อรักษา “ผืนดิน” ซึ่งเป็น “บ้าน” ของพวกเขาไว้ แต่อีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้พวกเขาคงก้าวเดินต่อไปได้ คือ ในหลวง
“พวกเรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแรงบันดาลใจ พระองค์ทรงทำสิ่งที่ไม่มีค่า ทำผืนดินที่ไร้ค่า ให้กลับมามีค่า ตรงนี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะสร้างป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ขึ้น พองานสำเร็จ เราก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะทำให้ดีขึ้นไปอีกเรื่อยๆ” พูลศักดิ์บอกความรู้สึกของเขาด้วยรอยยิ้มด้วยแรงบันดาลใจจากความรัก ด้วยแรงบันดาลใจจากต้นแบบที่แสนประเสริฐ ทำให้เยาวชนแกนนำโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลนของโรงเรียนวัดแหลมฉบัง มุ่งมั่น สานต่อเจตนารมณ์ต่อไป ด้วยความหวังว่า ไม่แค่ผืนดินในชุมชนเท่านั้นที่จะดีชึ้น แต่สังคมและโลกที่พวกเขาอยู่อาศัยก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 026882300 thanakorn79
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net