กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--มายด์แชร์
มายด์แชร์ เอเยนซี่เครือข่ายด้านการตลาดและการสื่อสาร เผยในวันนี้ถึงผลวิจัย “Hunt 2011” – เข้าใจผู้บริโภคในหัวเมืองต้องตลุยเข้าถึงหัวเมือง โดยมายด์แชร์ส่งพนักงานลงพื้นที่ทั้งหมด 32 คน งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ใช้วิธีการเปิดบทสนทนาเพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย และใช้การติดตามชีวิตประจำวันรวมถึงการสังเกตุพฤติกรรมการรับสื่อของกลุ่มผู้บริโภคในหัวเมืองใหญ่ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแม่ กลุ่มผู้หญิงทำงาน และ นักศึกษาใน 3จังหวัดใหญ่คือ ลำพูน ราชบุรี และสกลนคร วัตถุประสงค์ในการทำวิจัยในครั้งนี้นอกจากจะต้องการเข้าใน พฤติกรรมการรับสื่ออิทธิพลของสื่อชนิดต่างๆและแนวคิดของกลุ่มผู้บริโภคในหัวเมืองที่มีต่อแบรนด์แล้ว มายด์แชร์ยังสนับสนุนและให้ความสำคัญกับการที่พนักงานรุ่นใหม่ของมายด์แชร์จะได้สัมผัสและเข้าใจแนวคิดของผู้บริโภคกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด
ปัทมวรรณ สถาพร - หัวหน้าฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจ มายด์แชร์ กล่าวว่า “ด้วยความซับซ้อนของการใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างของกลุ่มผู้บริโภค รวมไปถึงภาพรวมการใช้สื่อและข้อจำกัดต่างๆในตลาดปัจจุบัน ทำให้มายด์แชร์ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยสนับสนุนและลงทุนเพื่อหาวิธีที่จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของผู้คนในสังคมรอบด้านอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม “กรุงเทพ ไม่ใช่ ประเทศไทย” ในขณะที่ดิจิตอลและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้บริโภคในกรุงเทพ เราจึงไม่สามารถจะละเลยการทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้บริโภคอีก 70% ที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆของประเทศ”
มายด์แชร์เผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยใน 3 ส่วน รวมถึงข้อสรุปที่ได้จากการทำวิจัยดังนี้
ข้อสรุปจากความเชื่อและทัศนคติของกลุ่มเป้าหมายโดยรวมพบว่า
ข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับผู้บริโภค พบว่า กลุ่มผู้บริโภคในหัวเมืองต่างๆใช้ชีวิตง่ายๆ โดยมีทัศนคติว่า “ใช้ชิวิตให้ดีที่สุดสำหรับวันนี้” ในขณะที่กลุ่มที่อายุน้อยลงมานิยมการทำงานหาเงินให้มากขึ้นเพื่อการจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้น โดยไม่ต้องไปรบกวนผู้ปกครอง กลุ่มที่เป็นแม่พุ่งความสนใจหลักไปที่อนาคตของลูกคือการให้การศึกษาที่ดีที่สุด ความเชื่อและศาสนามีผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวของชุมชนหรือของท้องถิ่นของกลุ่มเป้าหมายเองจะมีความสำคัญมากกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในที่อื่นๆ
ผลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินค้าและประเภทของสินค้า พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความระมัดระวังในการจับจ่ายและเลือกหาสินค้าโดยให้ความสำคัญกับประโยชน์และความคุ้มค่าของสินค้า เช่น ยังมีความภัคดีต่อสินค้า ยกเว้นแต่จะถูกแนะนำจากเพื่อนหรือคนรู้จัก เซเรปและโปรโมชั่นด้านราคา ยังชอบที่จะลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดเล็กให้เลือกซื้อไปลองใช้
ผลที่เกี่ยวกับสื่อและช่องทางการรับสาร พบว่าโทรทัศน์มักจะเป็นสื่อหลักที่ถูกเปิดทิ้งไว้แม้ว่าจะมีผู้รับชมหรือไม่ก็ตาม กลุ่มเป้าหมายยังนิยมและชอบวิทยุชุมชน เคเบิ้ลท้องถิ่น วิทยุกระจายเสียงประจำหมู่บ้าน รถคาราวาน ที่ถ่ายทอดด้วยภาษาท้องถิ่น อย่างไรก็ตามตลาดสดและตลาดนัดยังคงเป็นที่นิยมในทุกๆกลุ่ม ดังนั้นแบรนด์ควรจะเข้าไปหาผู้บริโภคตามสถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายนิยม ในขณะที่สื่อดิจิตอลเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยเริ่มดูรายการโทรทัศน์ออน์ไลน์และกลุ่มผู้หญิงทำงานเริ่มซื้อของออนไลน์ อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังนิยมเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยเท่านั้น
ปัทมวรรณ กล่าวสรุป ถึงข้อเสนอแนะในการทำการตลาดกับกลุ่มนี้ว่า “ประเด็นแรก อย่าลืมว่ากรุงเทพไม่ได้หมายรวมถึงประเทศไทยทั้งหมด และเมืองใหญ่แต่ละเมืองก็มีความแตกต่างกันไปไม่เหมือนกัน นักการตลาดต้องเข้าใจวัฒนธรรมและค่านิยมของแต่ละชุมชน เช่นกิจกรรมอีเวนต์การตลาดใหญ่ๆอาจใช้ได้ดีกับทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่กิจกรรมการตลาดที่อยู่ใกล้และเข้าถึงละแวกบ้านจะเหมาะกับการทำการตลาดในภาคเหนือมากกว่า ประเด็นที่สอง พลังของการสื่อสารด้วยภาพและตัวเลขเป็นเทรนด์ ลองใช้ภาพและตัวเลขให้มากขึ้นในการสื่อสาร ประเด็นที่สาม นักการตลาดควรตรวจสอบกฏ “4M” คือ การตลาดที่ทำขึ้นสำหรับและเฉพาะกลุ่ม (made here) การใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือการตลาด (music) คำนึงถึงสถานที่ สำคัญที่กลุ่มเป้าหมายซื้อของ (Market) และเม็ดเงินในการลงทุนในกิจกรรมการตลาด (money) ประการที่สี่ ดิจิตอลกำลังมาแต่ควรคำนึงถึงความง่ายในการสื่อสารและใช้งาน การใช้ภาษาไทย แอปพลีเคชั่นที่ง่ายๆ มาใช้ร่วมกับโปรโมชั่นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ผ่านสมารท์โฟนเท่านั้นได้ สุดท้ายโทรทัศน์ยังเป็นสื่อพื้นฐานในการสื่อสารกับกลุ่มนี้แต่ต้องเริ่มมองถึง สื่ออื่นๆที่ได้กล่าวถึงในรายงานนี้เช่นสื่อท้องถิ่น และดิจิตอล”
เกี่ยวกับมายด์แชร์
มายด์แชร์เป็นเอเยนซี่ผู้นำด้านการตลาดและเครือข่ายการสื่อในประเทศไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในเครือ WPP Network มีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท และมีการเจริญเติบโตถึง 15% ในปี 2550 บริษัทฯได้รับการจัดอันอับให้เป็นที่ 1 โดย RECMA ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกัน และได้รับการยกย่องเป็น Media Magazine Agency ประจำปีเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันซึ่งไม่มีบริษัทใดเคยได้รับ สินค้าและบริการ: การให้บริการวางแผนและซื้อสื่อ บริการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร, ให้บริการครบวงจรในการจัดกิจกรรมทางการตลาดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และการสปอนเซอร์กิจกรรมการตลาด ร่วมถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นแบรนด์ ให้บริการครบวงจรด้านการทำการตลาดดิจิตอลและอินเตอร์เน็ต ให้บริการคำปรึกษาด้านการลงทุนในสื่อการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค บุคลากร : Mindshare มีพนักงานรวม 120 คน และมีหน่วยงานสนับสนุนอีกจำนวน 65 คนจาก GroupM
เกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็ม
กรุ๊ปเอ็ม เป็นเครือข่ายกลุ่มบริษัททางด้านการปฏิบัติการจัดการด้านการลงทุนด้านสื่อชั้นนำของโลก ซึ่ง กรุ๊ปเอ็ม ถือเป็นบริษัทแม่ของตัวแทนสื่อของกลุ่ม WPP รวมทั้ง แมกซัส (Maxus) มีเดียคอม (Mediacom) มีเดียเอจ : ซีไอเอ (Mediaedge : cia) และมายด์แชร์ (MindShare) โดยเป้าหมายหลักของ กรุ๊ปเอ็ม คือ การมุ่งเน้นให้ตัวแทนทางสื่อและการสื่อสารของกลุ่ม WPP มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในฐานะที่เป็นตัวแทนของลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพนักงานของกรุ๊ปเอ็ม และทางบริษัทมีการดำเนินงานโดยปฏิบัติการเสมือนเป็นผู้ดูแล และผู้จัดการร่วม ในการจัดกิจกรรมที่เป็นการเพิ่มพูนความสามารถในการปฏิบัติงาน เช่น กิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางการค้า การสร้างข้อมูลข่าวสารเพื่อการสื่อสาร งานกีฬา เทคโนโลยี การเงิน การพัฒนาแบรนด์สินค้า และกิจกรรมที่มีความสำคัญทางด้านธุรกิจ ตัวแทนของกรุ๊ปเอ็มนั้นล้วนเป็นบุคลที่มีการปฏิบัติงานอยู่ในสายงานที่ได้รับการยอมรับ และอยู่ในตำแหน่งแนวหน้าของตลาดทั้งสิ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ :
ฐิติภรณ์ อันชูฤทธิ์
โทรศัพท์: 0-2629-6327
โทรสาร: 0-2629-6092
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit