กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--Communication and more
บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ชั้นนำ สานต่อโครงการ “ชีวิตสดใส สังคมไทยยั่งยืน” ด้วยการมอบทุนการศึกษาต่อเนื่องและจัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้กับเด็กนักเรียนทุนในโครงการฯ จากโรงเรียนวัดบ้านตะเภาหนุน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาขึ้น โดยมี มร.โรเบิร์ต แอล. พาร์คินสัน จูเนียร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ สำนักงานใหญ่ ร่วมด้วย ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท แบ็กซ์เตอร์ เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานการมอบทุนการศึกษาให้กับ ด.ช.พัชรพล พูนนอก นักเรียนชั้น ป.4 และ ด.ญ.วรรณวิสา ภูมิภาศ นักเรียนชั้น ป.5 ซึ่งเป็นทุนการศึกษาต่อเนื่องจนถึงปริญญาตรี พร้อมกันนี้ยังได้มอบทุนสนับสนุนการพัฒนาห้องสมุดให้กับโรงเรียนวัดบ้านตะเภาหนุนอีกด้วย ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ
นอกจากพิธีมอบทุนการศึกษาแล้ว บริษัท แบ็กซ์เตอร์ฯ ยังได้จัดกิจกรรมทัศนศึกษาพาน้องๆ จากโรงเรียนวัดบ้านตะเภาหนุน อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา เยี่ยมชมกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อ สร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ โดยมี ภญ.วไลพร พรวิรุฬห์ พี่ใจดีจากบริษัท แบ็กซ์เตอร์ฯ เป็นผู้นำทีม งานนี้น้องๆ ต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีชมพู เพื่อไปร่วมลงนามถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อาคารศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งต่างก็ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะเพิ่งมีโอกาสเดินทางมาลงนามถวายพระพรเป็นครั้งแรก หลังจากลงนามกันเรียบร้อยแล้ว คณะทัวร์ของเราได้เดินทางต่อไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อกราบนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต และชื่นชมกับสถาปัตยกรรม ประติมากรรมต่างๆ และศิลปกรรมภายในวัด ด้วยอากาศที่ไม่ร้อน ร่มรื่นเย็นสบาย ทำให้น้องๆ นักเรียนสามารถเดินชมภาพจิตรกรรมฝาผนังรอบอุโบสถได้อย่างสบายๆ
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ของทริปในวันนี้ กับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ หรือที่เรารู้จักกันในนามของ “มิวเซียมสยาม” สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ที่แสดงถึงวัฒนธรรมความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย ได้อย่างครบวงจรและเป็นที่น่าสนใจ อยู่ภายในอาคารเก่าแก่ซึ่งเคยเป็นกระทรวงพาณิชย์มาก่อน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งได้มีการจัดแบ่งห้องแสดงนิทรรศการต่างๆ
“เบิกโรง” ด้วยการชมวีดีทัศน์แนะนำตัวละคร ที่ทำให้น้องๆ ตื่นเต้นกับเรื่องราวที่เป็นต้นกำเนิดยุคสุวรรณภูมิมาจนถึงการเป็นประเทศไทย แล้วตื่นตากับ “ไทยแท้” ที่รวมเอาเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ มาไว้ในห้องนี้ ทั้งรถตุ๊กๆ เสาชิงช้า หรือเวทีมวยราชดำเนิน แล้วมา “เปิดตำนานสุวรรณภูมิ” กับวิวัฒนาการของมนุษย์ในยุคต่างๆ มาจนถึง “กำเนิดสยามประเทศ” และ“สยามประเทศ” ที่ทำให้น้องๆ ตาวาวกับกระบวนเรือพยุหยาตราชลมารค ที่แขวนลอยไว้อย่างสวยงามอยู่กลางห้อง และได้มาสนุกกับ “สยามยุทธ์” ที่ได้ทดลองยิงปืนใหญ่กันอย่างสนุกสนาน ต่อจากนั้นก็เดินชมห้องอื่นๆ ที่ได้แสดงวิถีชีวิต และภูมิปัญญาชาวบ้านต่างๆ ที่มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อีกห้องที่น้องๆให้ความสนใจคือ “ห้องเมืองไทยวันนี้” ที่น้องๆ นักเรียนตื่นเต้นกับการเปลี่ยนใส่ชุดโบราณ และทดลองการเป็นผู้ประกาศข่าว และจบด้วยห้อง “มองไปข้างหน้า” ชวนให้คิดและตระหนักว่า อนาคตประเทศไทย แท้จริงอยู่ในมือของคนรุ่นปัจจุบัน เพราะจะมีปากกาดิจิตอลให้เราเขียนบอกความคิดของเราถึงนายกรัฐมนตรี แม้ว่านายกฯคงไม่ได้มาอ่าน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความต้องการหลายๆ แนวทางของผู้ที่มาชมได้
เมื่อเยี่ยมชมครบทุกห้องแล้ว แม้น้องๆจะเหนื่อยล้าไปตามๆ กัน แต่ก็ยินดีที่ได้เข้ามาศึกษา และเรียนรู้วัฒนธรรม ทำให้รู้สึกว่าการเข้าชมพิพิธภัณฑ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ เพราะได้สนุกสนานไปกับการทดลองเล่นกับอุปกรณ์ทันสมัยต่างๆ ที่มีไว้ให้ พร้อมได้เปิดโลกทัศน์ไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัว ซึ่งมีทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติ ซึ่ง “น้องต่าย” ปิยฉัตร ภาริส บอกว่า “หนูประทับใจกับการมาทัศนศึกษาในครั้งนี้มากค่ะ จะได้เก็บเป็นประสบการณ์ไปเล่าให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนฟัง” ส่วน “น้องบาส” พัชรพล พูนนอก ก็บอกว่า “ผมตื่นเต้นมากเลยครับ ได้เรียนรู้เรื่องแปลกๆ ใหม่ๆ และยังมีอีกหลายอย่างที่ผมจะต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยครับ” ก่อนกลับ ภญ.วไลพร ยังฝากบอกอีกว่า การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก จึงอยากให้น้องๆ นักเรียนตั้งใจศึกษาเล่าเรียน โดยใช้ทุนการศึกษาที่ได้รับให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเป็น ผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ ในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
ในงานนี้ นอกจากเด็กๆ จะเป็นปลื้มกับทุนการศึกษาที่ได้รับแล้ว ยังได้สนุกกับกิจกรรมทัศนศึกษาที่เพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับน้องๆ อีกด้วย
สื่อมวลชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ ผ่ายประชาสัมพันธ์ คุณบุษบา (บุษ) / คุณชลียา (กิ๊ฟ) โทร.0 2718 3800 ต่อ 141
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit