กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--MMM Digital
ฉากที่นำความท้าทายมาให้ทั้งผู้สร้างภาพยนตร์และนักแสดงคือ การเปลี่ยนภาพเฮอร์ไมโอนี่, รอน, เฟร็ด, จอร์จ, เฟลอร์และมันดังกัสให้กลายเป็นแฮร์รี่ทั้ง 6 แรดคลิฟฟ์ได้วาดภาพพวกเขาแต่ละคนเอาไว้ นักแสดงเข้าใจง่ายขึ้นว่า “น้ำยาสรรพรสเปลี่ยนพวกเขาให้ภายนอกกลายเป็นแฮร์รี่ มันไม่ได้เปลี่ยนว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นใคร เลยต้องมีการปลอมตัวเป็นตัวละครอื่นนิดหน่อย”
“เรามีนักแสดงแต่ละคนแสดงในฉาก แดนจึงสามารถสังเกตพวกเขาได้” เยทส์ กล่าวเสริมว่า “ตัวอย่างเช่น เราพบว่า แอนดี้ ลินเดน ที่แสดงเป็นมันดังกัสเดินเหมือนเวลาเล่นสกี ผมจะขอให้แดนแสดงออกเกินจริงนิดหน่อย ตามปกติแล้วผมอยากให้นักแสดงดูเหมือนจริง—เป็นธรรมชาติและกล้องจะได้จับที่การแสดง แต่ในกรณีนี้ผมว่ามันน่าสนุกมากขึ้นที่ใส่เข้าไป เพราะความจริงนั้นจะเป็นตัวกำหนด” เขายิ้ม “ผมบอกแดนเสมอว่า ‘แค่แสดงไป’ ผมว่าเขาสนุกไปกับมันจริงๆ
จากจุดยืนของเยทส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค, ทิม เบิร์ก ผู้ควบคุมด้านเอ็ฟเฟ็กต์, และเอดอร์โด เซอร์ร่า ตากล้อง ใช้ประโยชน์ตัวควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อจับการถ่ายทำหลายต่อหลายครั้งที่แรดคลิฟฟ์แสดงเป็น “ตัวแทน” แฮร์รี่แต่ละคน จากนั้นนำฉากมาผสมกันเพื่อทำให้เกิดภาพลวงตาที่สมบูรณ์ว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 7 คนกำลังอยู่ในห้องเดียวกันเวลาเดียวกัน ผู้กำกับ บรรยายว่า “มันใช้เวลามาก ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 3วันกับเกือบ 100 เทคเพื่อทำให้สมบูรณ์”
ทันทีที่ตัวปลอมทั้งหลายแต่งกายคล้ายคลึงกัน และสวมแว่นที่เหมาะสม แฮร์รี่แต่ละคนเป็นผู้ร่วมมือกับคนอื่นในทีมในฐานะผู้คุ้มกันของเขา ทำให้ภาพยนตร์มีความสมบูรณ์ แฮร์รี่ตัวจริงถูกจับคู่กับแฮกริด ที่ไปส่งเขาที่บ้านหมายเลข 4 ซอยพรีเว็ตเหมือนเด็กคนหนึ่ง เมื่อต้องแสดงเป็นแฮกริด ลูกครึ่งยักษ์ผู้เป็นที่รักอีกครั้ง, ร็อบบี้ โคลเทรน ให้ความเห็นว่า “แฮกริดคือคนที่พาเขาไปที่นั่นเมื่อ 16 ปีก่อน แฮกริดคือคนที่บอกแฮร์รี่ว่าเขาคือพ่อมด และบอกให้เขารู้ถึงสถานที่สำคัญมากในโลกแห่งผู้มีเวทมนตร์ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากๆ ต่อกัน มันจึงเป็นความเหมาะสมที่สุดที่เขาจะเป็นผู้พาแฮร์รี่หนีไป”
บางคู่ก็หลบหนีไปบนไม้กวาด คนอื่นๆ ก็อยู่บนม้าที่มีปีกเหมือนสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเธสตรอล แต่แฮร์รี่ถูกลดขั้นลงไปอยู่ที่รถพ่วงของมอเตอร์ไซค์คันเดียวกันที่แฮกริดพาเขาไปที่บ้านในซอยพรีเว็ตเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ทันทีที่พวกเขาลอยขึ้นไป ผู้เสพความตายก็ปรากฏขึ้นมา นำไปสู่การไล่ล่าที่รวดเร็วและอันตรายกลางเวหา และลงมายังบนท้องถนน เคลื่อนที่ไหวเอียงท่ามกลางและรอบๆ รถ
เหล่ามักเกิ้ลที่กำลังขับรถต่างคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขา; ในทางกลับกันพวกเขาประหลาดใจที่ได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ฝืนแรงโน้มถ่วง ไต่ขึ้นไปตามกำแพงของอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยจราจร สถานที่ในอุโมงค์ของการไล่ล่าถูกถ่ายทำในสถานที่ 2 แห่งที่แยกจากกัน: Dartford Tunnel, ลอนดอน; และ Mersey Tunnel, ลิเวอร์พูล การประสบผลสำเร็จด้วยฉากที่อัดแน่นไปด้วยแอคชั่นได้รับการเอาใจใส่จากการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้กำกับ, นักแสดงและทีมงานผู้อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึง ทิม เบิร์ก, ผู้กำกับกองสอง สตีเฟ่น วูลเฟ็นเด็น, ผู้ควบคุมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ จอห์น ริชาร์ดสัน และผู้ประสานสตั๊นท์ เกร็ก โพเวล
โพเวลให้ตัวเองทำหน้าที่เป็นตัวแสดงแทนของแฮกริด โดยยอมรับ “ผมสมัครใจมารับหน้าที่เอง เพราะสตั๊นท์คนอื่นตัวไม่ใหญ่เท่าผม ผมเริ่มเศร้าตอนที่สวมเครื่องแต่งกายเพราะมันร้อนมาก เราต้องเปิดพัดลมเพราะแว่นตาของผมมีไอขึ้นมา และผมมองอะไรไม่เห็นเลย” ริชาร์ดสันกับทีมของเขาปรับแต่งมอเตอร์ไซค์และจำลองมันขึ้นมาอีกหลายคัน โดยคำนึงว่าพวกเขาจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร พร้อมด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัยของเหล่านักแสดงที่สำคัญที่สุดและเป็นอันดับหนึ่ง เขาอธิบายอย่างละเอียดว่า “เรามีรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถแผดเสียงดังลั่นท้องถนนได้ และคันอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ และคันอื่นๆ สำหรับฉากที่มันต้องเหวี่ยงขึ้นลงในอุโมงค์ที่ถูกขึงให้หมุนรอบกรีนสกรีน เรายังสร้างรถมอเตอร์ไซค์อีกคันเพื่อช่วยช่วงที่มอเตอร์ไซค์โหม่งลงในหญ้าฟางที่บ้านโพรงกระต่าย มอเตอร์ไซค์หลายคันมีเบาะรองนั่งพร้อมที่บังคับ ซึ่งมั่นใจได้ว่าถูกยึดไว้กับโครง เราจึงเหวี่ยงพวกเขาไปรอบๆ ได้โดยปราศจากอันตรายใดๆ ถึงชีวิตและแขนขาเลย”
พบกับหนังที่คนทั้งโลกรอคอย Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1 - แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต วันนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit