กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ซันยอง
บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2004 โดยเปิดตลาดด้วยรถเอนกประสงค์ MPV และ SUV ระดับหรู ซึ่งใช้เทคโนโลยีชั้นเยี่ยมของ Mercedes Benz เป็นตัวนำ
ในปี 2010 จะเป็นปีที่ 7 และเป็นการก้าวสู่ปีที่ 8 ในการทำตลาดในประเทศไทย ภายหลังจากที่ประสพความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง โดยสามารถทำตลาดรถครอบครัวยอดนิยมจนมียอดขายพุ่งเป็นที่ยอมรับของผู้ที่ชื่นชอบรถประเภทนี้ เพื่อเป็นการฉลองการก้าวสู่ปีที่ 7 ซันยอง ประเทศไทยจึงทำการแนะนำรถ SUV เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดรถประเภทนี้ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยซันยองได้นำรถ SUV ขนาด COMPACT ภายใต้รหัสโรงงาน C200 หรือ ชื่อ KORANDO C ซึ่งเป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ เข้ามาทำตลาด C200 ที่บริษัทฯ นำเข้ามาจำหน่ายเป็นรถ SUV ขนาดกลาง ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังถึง 175 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 360 นิวตันเมตร มาพร้อมกับชุดส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ชุดนี้โดยเฉพาะ ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยมและตอบสนองการขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว และการขับขี่ทางไกลที่ให้ความประหยัด และที่สำคัญ C200 สร้างมลพิษน้อยกว่าเดิมถึงกว่า 50% เหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน อีกทั้งยังผ่านเกณฑ์มาตรฐานอันเข้มงวด EURO 5 ซึ่งจะมีกำหนดบังคับใช้อย่างเป็นทางการในสหภาพยุโรปในปี 2012
New Stavic Exclusive ได้รับการปรับโฉมพร้อมเพิ่มอุปกรณ์ให้มีความภูมิฐานยิ่งขึ้น ด้วยชุดไฟ Day Light Running แบบ LED พร้อมชุดไฟหน้าแบบ BI-XENON ที่ให้ความสว่างช่วยให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นยามขับรถกลางคืน และชุด Light Package ที่ให้ความสว่างขาวใสและสวยงามภายในห้องโดยสารที่โอ่อ่า เพิ่มความสง่างามและโดดเด่นด้วยชุดลายไม้”วอลนัท” สีเข้มชุดพิเศษที่ถูกออกแบบเพื่อความหรูหราที่วงพวงมาลัย แผงคอนโซลหน้าปัดและที่แผงประตูทั้ง 4 บาน
นอกจากนี้ Stavic Exclusive ใหม่ยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบครบครัน แก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางด้วยชุด Multi Media ระดับเดียวกับชุด Home Theatre Surround ประกอบด้วยชุดจอหน้าและจอเพดาน พร้อมชุด Multi Media ติดตั้งที่พนักพิงศรีษะของเบาะหนังคู่หน้าเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินแบบ VIP สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ที่จะสามารถเลือกชมรายการต่าง ๆ ตามแต่สไตล์ของแต่ละคนได้ด้วยชุดหูฟังไร้สาย อีกมิติหนึ่งของความลงตัวและหรูหราสำหรับรถครอบครัวยอดนิยมเช่น Stavic Exclusive ใหม่ตัวนี้
New Stavic Exclusive มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบเทอร์โบดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.7 ลิตรและแบบเบ็นซิน ขนาด 3.2 ลิตร ทุกแบบใช้ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 5 จังหวะ T-Tronic ของ Mercedes Benz พร้อมสวิทช์ควบคุมการเปลี่ยนจังหวะเกียร์ที่คล่องแคล่วและสะดวกง่ายดายที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift) ให้การทรงตัวเป็นเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ Double Wishbone ที่มีใช้อยู่เฉพาะในรถยนต์นั่งระดับหรู พร้อมระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi Links ที่ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนน ช่วยให้การขับขี่ในทุกสภาพถนนปลอดภัยไร้กังวล
New Stavic Exclusive มีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ Torque on Demand ซึ่งจะส่งพลังขับเคลื่อนไปที่ล้อทั้ง 4 ตามสภาพถนน ช่วยให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
จุดเด่นที่ทำให้ New Stavic Exclusiveเป็นที่ชื่นชอบและลูกค้าให้ความนิยมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ทางบริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) ฯ ยังขอแนะนำรถ Sport Utility Coupe ตัวเก่ง ที่มาในชื่อ “Actyon” โฉมใหม่เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสำหรับตลาดกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่า Actyon ตัวใหม่นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นที่ผ่าน ๆ มา Actyon รถ Sport Utility Coupe ตัวเก่งสายพันธ์แกร่งจากซันยอง ซึ่ง ได้รับการออกแบบจากสำนักออกแบบชื่อดัง “Ital Design” แห่งประเทศอิตาลี ด้วยแนวคิดที่ล้ำสมัย มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวสวยงาม และมีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งรถตัวนี้ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้รถคนไทยเป็นอย่างดี มาในปีนี้ Actyon ตัวใหม่ก็ได้ฤกษ์เผยโฉม โดยมีการปรับรูปโฉมในสไตล์ให้สวยเด่นสะดุดตามากขึ้นด้วยชุดแต่งลายเคปล่าร์คาดผ่านฝากระโปรงหน้าไปจนจรดด้านท้ายของตัวรถ ทำให้มีเอกลักษณ์สวยเด่นตามสมัยนิยมยิ่งขึ้น
Actyon ใหม่ยังมาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นซันรูฟแบบสองชั้นที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ชุดเครื่องเสียงสเตริโอเซอร์ราวด์และจอภาพแบบ 2 ดิน ที่สามารถแสดงภาพด้านท้ายรถในขณะถอยจอด ช่วยให้การนำรถเข้าจอดเป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัย ไฟหน้าเป็นแบบ BI-XENON พร้อมชุดไฟ Daylight Running
นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถแบบ SUV ที่ต้องการความหรูหราและปราดเปรียวแกร่งด้วยสมรรถนะพร้อมทั้งมีรูปโฉมที่ทันสมัย ซันยองขอแนะนำ New KYRON รถ อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดกลางที่ได้รับการปรับปรุงโฉมและเพิ่มเติมสมรรถนะให้ดียิ่งกว่าตัวเดิม ด้วยการนำชุดเกียร์อัจฉริยะใหม่ 6 จังหวะที่ได้รับการออกแบบให้ทำงานสัมพันธ์กับเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2,000 ซี.ซี. 141 แรงม้า ได้อย่างลงตัว สะดวกคล่องตัวด้วยสวิทช์ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่วงพวงมาลัย (Steering Gear Shift)
นอกจากนี้ ทาง SSangyong ยังเน้นในเรื่องการบริการลูกค้า การเอาใจใส่ดูแลลูกค้า และการให้บริการหลังการขาย เรามุ่งเน้นการให้บริการหลังการขายโดยที่ลูกค้าจะได้รับการบริการระดับพรีเมี่ยม ด้วยการให้บริการตลอด 365 วันไม่มีวันหยุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถนำรถเข้ารับบริการได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องวันหยุดแต่อย่างใด นอกจากนี้ ในกรณีที่ลูกค้าไม่สะดวกที่จะนำรถเข้ารับบริการด้วยตัวเอง เราก็มีบริการรับ - ส่งรถของลูกค้าเพียงแต่ลูกค้าโทรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของศูนย์บริการล่วงหน้าเพื่อทำการนัดหมายเวลาที่สะดวก
การรับประกันสินค้า ตามระยะเป็นไปตามจริง ซึ่งเรา สามารถพิจารณาแก้ปัญหาได้เร็วไม่ต้องรอ สามารถตัดสินใจได้อย่างทันท่วงทีไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนเหมือนในหลายบริษัท ในส่วนของชิ้นส่วนอะไหล่ บริษัทได้จัดเตรียมสำรองสต๊อคอะไหล่ที่จำเป็นให้มีเพียงพออยู่ตลอดเวลาและเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ บริษัทฯ รับประกัน ถ้าบริษัทจัดหาอะไหล่บริการไม่ได้ภายใน 7 วัน บริษัทยินดีมอบอะไหล่ชิ้นที่ไม่มีให้ฟรีโดยไม่มีเงื่อนไข
สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้าซ่อมและรอรับ บริษัท มีบริการ Internet เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ในการติดต่อธุรกิจ หรือเช็คอีเมล์ได้ หรือหากนำเครื่องมาเอง เรามี WIFI ให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อได้ง่ายดายไม่เสียค่าบริการ ที่สำคัญ ลูกค้าจะได้รับบริการอาหารกลางวันมื้ออร่อย พร้อมบริการ ชา กาแฟ และของว่าง ก็มีให้บริการตลอดทั้งวัน
พิเศษสำหรับลูกค้า Ssagnyong ที่สั่งจองรถภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27 จะได้รับการสมนาคุณเป็น Apple Ipad ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสความต้องการของตลาด และพร้อมตอบรับกับเทคโนโลยี และการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือ เลือกรับเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ ของซันยองทุกรุ่นทุกคันได้ ตั้งแต่ วันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2553 นี้
ซันยอง Drive Different สัมผัสที่แตกต่างในยามขับขี่
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02-719-7888
พบและสัมผัสกับ New SsangYong ทุกแบบได้ที่บู๊ธ ซันยองในงาน
THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2010 ที่ IMPACT CHALLENGER 1-3
เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2553
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit