กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--สถาบันคุ้มครองเงินฝาก
สถาบันคุ้มครองเงินฝากผนึกสถาบันประกันเงินฝากทั่วโลก แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเงิน หวังปรับตัวเท่าทันสถานการณ์ พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินโลก
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าการดำเนินนโยบายต่างๆ ในปัจจุบันของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้มีการประสานความร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้เป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือระหว่างสถาบันประกันเงินฝากทั่วโลกหรือ International Association of Deposit Insurers ( IADI )และยังได้มีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มสมาชิกประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia Pacific Regional Committee (APRC) ที่มีสถาบันประกันเงินฝากประเทศญี่ปุ่นเป็นประธาน โดยการร่วมมือกันนี้ทำให้สถาบันฯมีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์กับประเทศสมาชิก รวมทั้งได้เข้าร่วมฝึกอบรมกับประเทศสมาชิกอื่นๆด้วยเสมอ
ในปัจจุบันประเทศที่มีระบบคุ้มครองเงินฝากมีทั้งสิ้น 106 ประเทศ โดยประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกาเทศ อินเดีย และมีอีก 19 ประเทศอื่นๆ ที่กำลังมีแผนจะจัดตั้งหรือกำลังศึกษาระบบดูแลผู้ฝากเงินต่อไป
ภารกิจความสำคัญของระบบคุ้มครองเงินฝากในทุกประเทศนั้น คือหน้าที่หลักในการให้ความคุ้มครองผู้ฝากในสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ระบบ โดยจะทำหน้าที่จ่ายคืนเงินให้ผู้ฝากตามวงเงินที่กำหนดอย่างรวดเร็วเมื่อสถาบันการเงินถูกปิดกิจการ โดยผู้ฝากไม่ต้องรอการชำระบัญชี ทั้งนี้ สถาบันประกันเงินฝากในแต่ละประเทศอาจมีบทบาทและอำนาจหน้าที่แตกต่างกันไป บางประเทศสถาบันประกันเงินฝากจะทำหน้าที่ให้ความคุ้มครองผู้ฝากเงินเป็นหลัก ขณะที่บางประเทศ สถาบันประกันเงินฝากสามารถทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สถาบันการเงินที่ประสบกิจกรรมสำคัญในปี 2554 สถาบันคุ้มครองเงินฝากไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประเทศสมาชิกสถาบันประกันเงินฝากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก APRC ( Annual Meeting & International Conference ) ครั้งที่ 9 ประจำปี 2554 โดยได้เชิญผู้บริหารและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ จำนวน 20 แห่ง จาก 15 ประเทศเข้าร่วมในครั้งนี้ ซึ่งการที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพนี้ จะเป็นโอกาสในการแนะนำและทำให้สถาบันเป็นที่รู้จักของสถาบันประกันเงินฝากและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการประสานงานระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ หากผู้สนใจต้องการสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ 02-272-0300 หรือติดตามข้อมูลได้ทาง www.dpa.or.th
สำนักผู้บริหารและสื่อสารองค์กร โทร. 02-272-0300 ต่อ 127 / www.dpa.or.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit