ลักษณ์ วจนานวัช นักการเงินแห่งปี 2553

15 Dec 2010

กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด

การเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2553 ที่กำลังวางแผงในขณะนี้ไ ด้ประกาศผลการตัดสิน รางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” ประจำปี 2553 (Financier of the Year 2010) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้บริหารในตลาดเงิน ตลาดทุน ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ครบถ้วน และมีผลงานโดดเด่น โดยในปีนี้ คณะกรรมการตัดสินรางวัล “นักการเงินแห่งปี” ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ มอบรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” ประจำปี 2553 ให้กับ ลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ด้วยคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ทั้ง 4 ข้อ

ลักษณ์ วจนานวัช นับเป็นผู้บริหารธนาคารรัฐรายแรกที่ได้รับรางวัล นักการเงินแห่งปี ในรอบ 28 ปี ตั้งแต่ การเงินธนาคาร ริเริ่มรางวัลเกียรติยศ “นักการแห่งปี” มาตั้งแต่ปี 2525 ต่อเนื่องติดต่อกันมาถึง 28 ปี เพื่อยกย่องนักการเงินที่มีความโดดเด่นในแวดวงการเงินการธนาคาร ด้วยการกลั่นกรองและพิจารณาอย่างเข้มข้นของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากการติดตามผลงานและการพัฒนาที่เกิดขึ้นในวงการธนาคารและการเงิน โดยยึดหลักเกณฑ์การพิจารณานักการเงินแห่งปี ใน 4 ด้านที่ การเงินธนาคาร กำหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกนักการเงินแห่งปี โดย ลักษณ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก นักการเงินแห่งปี ทั้ง 4 ข้อคือ

1. เป็นนักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย

ลักษณ์ เข้าทำหน้าที่ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552 และจากประสบการณ์ในชนบทและภาคเกษตรที่สั่งสมมากว่า 30 ปี ได้ประกาศชัดเจนถึงวิสัยทัศน์ของ ธ.ก.ส.ว่า มุ่งเป็นธนาคารพัฒนาชนบทที่มั่นคง มีการจัดการที่ทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท จึงริเริ่ม “โครงการธนาคารชุมชน” เพื่อให้บริการทางการเงิน ลดช่องว่างการเข้าถึงแหล่งเงินระหว่างคนในเมืองกับชนบท เพราะการเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ ควบคู่ไปกับ โครงการอาสาสมัครที่ปรึกษาทางการเงินครัวเรือน (หมอหนี้) ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในระยะยาวและครบวงจร

2. เป็นนักการเงินมืออาชีพ ที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ

ลักษณ์ได้แสดงภาวะผู้นำที่เด่นชัดในการนำพาองค์กร ด้วยการบริหารความสมดุลระหว่างบทบาทการเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่ต้องสนองนโยบายรัฐ จนดำเนินโครงการได้ประสบความสำเร็จ กับการเป็นสถาบันการเงินที่ต้องดำเนินธุรกิจธนาคาร โดยริเริ่มจัดระบบในการดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึงทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าชั้นดีและลูกค้าที่มีปัญหาในการชำระหนี้ เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคมมีวินัยทางการเงิน ควบคู่ไปกับการดูแลคนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างถูกต้องและตรงจุด ตลอดจนยังได้สร้างสรรค์นวัตกรรมในการให้บริการใหม่ ได้แก่ ”บัตรเกษตรกร” ซึ่งเป็นบัตรเงินสดที่เกษตรกรสามารถนำมาเบิกเงินกู้ได้หากต้องการใช้เงินเร่งด่วน ทำให้มีความสะดวกในการใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้ ได้ทำงานกับกลุ่มเครือข่ายชุมชน อาทิ กองทุนหมู่บ้าน กลุ่มสหกรณ์ เพื่อให้องค์กรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นหน่วยบริการของ ธ.ก.ส.

3. เป็นนักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร

ผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. แสดงถึงผลกำไร มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2552 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ธ.ก.ส.มีสินทรัพย์รวม 764.94 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในรอบปี 2552 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2553 ธ.ก.ส มีผลกำไรสุทธิ 7,821.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 6,918.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นพื้นฐาน 17.58 บาท เพิ่มขึ้นจาก 16.91 บาท จากระยะเดียวกันปีก่อน และงวด 3 เดือนแรกของปี 2553 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2553 ธ.ก.ส.มีกำไรสุทธิ 1,671.37 ล้านบาท

4. เป็นนักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม

ธ.ก.ส.เป็นอีกธนาคารหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมสังคม ด้วยแนวคิดที่ต้องการพัฒนาภาคเกษตรและชนบทให้มีความมั่นคงแข็งแรงอย่างยั่งยืน พร้อมไปกับให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยโครงการเพื่อสังคมที่ ธ.ก.ส.ดำเนินการ ได้แก่ ถึงบริการอย่างสะดวก ซึ่งเป็นมิคุ้มกัน มีราไยดั้วมเป็นเงิน 40,420 ล้านบาท6.63 ล้านบาท เพิผลให้นี้จะหายไปชุมชนต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ที่พนักงาน ธ.ก.ส.มีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน รวมไปถึง การก่อตั้ง “โครงการธนาคารโรงเรียน” เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีการออมทรัพย์ อย่างสม่ำเสมอปลูกฝังให้รู้จักการทำงาน ร่วมกับผู้อื่น ลักษณ์ยังให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Green Credit) ตลอดจน ได้สนับสนุนโครงการ ธนาคารต้นไม้ เพื่อให้ชุมชนตระหนักถึงการสร้างป่า ลดภาวะโลกร้อน ลดปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับชุมชน ปลูกจิตสำนึก ในการบริหารจัดการป่าชุมชนที่ดี

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit