กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--เวิรฟ
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกโมโตจีพี (Motorcycle Grand Prix – Moto GP ประจำปี 2010 กลับมาพร้อมความตื่นเต้นอีกเช่นเคยกับรถจักรยานยนต์ใหม่ล่าสุด กฏข้อบังคับใหม่ และเส้นทางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ให้กับบรรดานักแข่งฝีมือดีจากทั่วโลก ตลอดจนทีมเทคนิคที่มีโอกาสในการพัฒนาสมรรถนะของเครื่องยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้ในการแข่งขัน เพื่อชิงชัยตำแหน่งแชมป์
การแข่งขันโมโตจีพีรอบที่เพิ่งผ่านพ้นไปที่สนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย สนามที่ใกล้บ้านเรามากที่สุด ในรายการ “Shell Advance Malaysian Motorcycle Grand Prix” นักแข่งชื่อดังแห่งทีมดูคาติ เคซี่ สโตเนอร์ และ นิกกี้ เฮย์เดน กลับมาอีกครั้งกับมอเตอร์ไซต์สมรรถนะใหม่ ดูคาติ เดสโมซีดิซี จีพีเท็น (Ducati Desmosedici GP10) ที่ได้รับการปกปกป้องและเสริมพลังเต็มอัตราด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ เรซซิ่ง วี-เพาเวอร์ สำหรับรถแข่ง พร้อมเสริมด้วยการพัฒนาให้น้ำมันเครื่อง เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ อัลตร้า 4
นับเป็นเวลาสิบเอ็ดปีแล้วที่เชลล์ได้ร่วมงานกับทีม ดูคาติ คอร์ส (Ducati Corse) อย่างใกล้ชิดในฐานะพันธมิตรทางเทคนิคซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1999 ในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์โลก (World Superbike Championship) และนำไปสู่การต่อยอดความร่วมมือในการแข่งขันโมโตจีพี (MotoGP Championship) ในปี 2003 ความร่วมมือทางเทคนิคกับดูคาติเป็นการร่วมงานที่ครอบคลุมหลากหลายด้าน ตั้งแต่การสนับสนุนทางเทคนิค การให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดจนถึงการพัฒนาและสนับสนุนผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง เชลล์ วี-เพาเวอร์ และน้ำมันหล่อลื่น เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ ที่ช่วยในการเพิ่มสมรรถนะและปกป้องเครื่องยนต์และชุดเกียร์ให้กับ ดูคาติ เดสโมสิดิซี จีพี 10 (Ducati Desmosedici GP10) ที่เป็นพาหนะสำคัญสำหรับนักแข่งทีม ดูคาติประจำการแข่งขันในปีนี้
นิกกี้ เฮย์เดน นักแข่งดาวรุ่งแห่งทีมดูคาติ กล่าวว่า “ที่ผ่านมาทีมเราทำงานและฝึกซ้อมกันอย่างหนัก จุดแข็งของเราคือทีมเวิร์คที่ดี ทุกคนในทีมมีจุดมุ่งหมายเพื่อความสำเร็จร่วมกัน และช่วยสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อไปให้ถึงความสำเร็จนั้น”
ทั้งนี้น้ำมันหล่อลื่น เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ สำหรับรถแข่ง มีส่วนสำคัญในการมอบพลังและการปกป้องให้กับเครื่องยนต์ของรถดูคาติในการแข่งขันโมโตจีพีเสมอมา สูตรที่ผสมขึ้นเฉพาะนี้ได้รับการพัฒนาให้ลดแรงเสียดทานพร้อมกับเพิ่มพลังและคงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และชุดเกียร์โดยการปกป้องชิ้นส่วนโลหะเหล่านี้จากการสึกหรอ นอกจากการพัฒนาเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดและปลดปล่อยพลังให้กับรถได้อย่างเต็มที่แล้ว น้ำมันหล่อลื่นนี้ยังคงคุณสมบัติในการปกป้องตลอดฤดูการแข่งขัน เพราะประสิทธิภาพที่เชื่อใจได้ของเครื่องยนต์คือตัวแปรสำคัญที่สุดประการหนึ่งที่จะพาทีม ดูคาติ คอร์ส สู่ความสำเร็จ
ไมเคิล แน็ค ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นและหัวหน้าโครงการความร่วมมือกับดูคาติ เชลล์ โกลบอล โซลูชั่น อธิบายว่า “ในการแข่งขันโมโตจีพี น้ำมันหล่อลื่นต้องทำหน้าที่หลักสามประการ ประการแรก ต้องได้รับการพัฒนาให้ลดแรงเสียดทานเพื่อช่วยเพิ่มพลังให้กับเครื่องยนต์ ประการที่สอง ต้องช่วยคงประสิทธิภาพของชุดเกียร์ได้เป็นเยี่ยม และประการที่สามซึ่งน่าจะถือได้ว่าเป็นประการสำคัญที่สุด คือ ต้องช่วยปกป้องชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวทุกชิ้น เพื่อให้แน่ใจได้ว่ารถจะสามารถลงแข่งได้จนจบการแข่งขันในแต่ละสนามโดยมีตำแหน่งที่หนึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ ยิ่งเมื่อคำนึงถึงกฎใหม่สำหรับปีนี้ที่ทำให้ต้องใช้เครื่องยนต์หนึ่งเครื่องต่อการแข่งขันหลายสนามแล้ว ความไว้เนื้อเชื่อใจได้ของเครื่องยนต์จึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ จะทำหน้าที่สำคัญในการปกป้องเครื่องยนต์ของรถ ดูคาติ เดสโมสิดิซี จีพี 10 และคงสมรรถนะของเครื่องยนต์ไว้ให้สามารถสู้ศึกในหลายๆ สนาม
การพัฒนาน้ำมันหล่อลื่น เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ สำหรับรถแข่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน โดยนักเคมี วิศวกร และช่างเทคนิคจำนวน 12 คน จะเข้าร่วมเป็นกำลังสำคัญในความร่วมมือทางด้านเทคนิคระหว่างเชลล์และดูคาติ โดยอุทิศเวลากว่า 2,500 ชั่วโมงเพื่อการวิจัยและพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่น เริ่มต้นจากการคิดค้นสูตรมันหล่อลื่นสูตรต้นแบบขึ้นในห้องทดลองที่เมืองฮัมบูร์ก เพื่อพัฒนาเป็นน้ำมันหล่อลื่น เชลล์ แอ๊ดว้านซ์ สูตรทดสอบสำหรับรถแข่ง กระบวนการพัฒนาเช่นนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ำมันหล่อลื่นสูตรทดสอบเหล่านี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เพื่อการแข่งขัน หลังจากนั้นจึงส่งน้ำมันหล่อลื่นสูตรทดสอบเหล่านี้ไปให้กับทีม ดูคาติ คอร์ส เพื่อทดสอบในห้องจำลองสภาพการใช้งานที่ บอร์โก พานิเกล โดยสูตรที่ผ่านการทดสอบนี้จะถูกส่งต่อไปทดสอบภายใต้สภาพการใช้งานในสนามแข่งอีกครั้ง สูตรที่จะนำมาใช้ในการแข่งขันโมโตจีพีจะต้องเป็นสูตรที่ทีมวิศวกรทั้งของเชลล์และของทีม ดูคาติ คอร์ส เห็นพ้องและพึงพอใจอย่างเต็มที่แล้วเท่านั้น
ณ วันนี้ ความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างเชลล์กับดูคาติได้เติบโตผ่านบทพิสูจน์แล้วว่าเป็นความความสำเร็จสูงสุดครั้งหนึ่งในวงการมอเตอร์สปอร์ต ด้วยตำแหน่งแชมป์โลก 7 แชมป์ และชัยชนะในการแข่งขัน 150 สนามที่คว้ามาได้ตลอดช่วงเวลา 10 ปีแรกในการแข่งขันโมโตจีพีและซูเปอร์ไบค์ชิงแชมป์โลก หัวใจของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นนี้คือความหลงใหลทุ่มเทในสิ่งเดียวกัน คือ เทคโนโลยี โดยดูคาติมุ่งมั่นพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน ทั้งที่เป็นรถแข่งและรถที่ใช้งานบนท้องถนน ในขณะที่เชลล์ทุ่มเทกับการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นประสิทธิภาพสูงเพื่อประโยชน์ของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit