กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงศึกษาธิการกดปุ่มอีเลิร์นนิ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย เข้าสู่สารสนเทศและองค์ความรู้อย่างเท่าเทียม ทุกที่ ทุกเวลา ทุกคน เพื่อสร้างมิติใหม่มุ่งสู่สังคมภูมิปัญญาและการเรียนรู้ หวังแก้ปัญหาคุณภาพนักเรียนและพัฒนาครูผู้สอนให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงโลก ทะยอยส่งมอบฮาร์ดไดร์ฟเนื้อหาการเรียนระดับ ม.1 – ม. 3 ครบครันทั้งคณิต วิทย์ อังกฤษพร้อมแอนิเมชั่นทันสมัย สื่อง่าย ต่อยอดการเรียนรู้ทุกชั้นเรียน ทะยอยติดตั้งเปิดใช้ภาคการศึกษาใหม่แล้ว
นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวง ฯได้ประกาศนโยบายการพัฒนาการศึกษา ที่มุ่งให้เด็กไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพไว้นั้น นโยบายหลักที่สำคัญข้อหนึ่งคือ ขอให้ทุกส่วนราชการรวมทั้งสังคมทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม ดังนั้น จึงได้กำหนดโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบสารสนเทศ หรือ e-Learning ขึ้นมาเป็นเครื่องมือสำคัญอันหนึ่งเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษา
นายชินวรณ์กล่าวถึงโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใช้ e-Learning นี้ว่า เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ ตามแผนปฏิบัติราชการในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสื่อสารเพื่อการศึกษา โดยได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือ สป. เป็นผู้รับผิดชอบ กำหนดแผนดำเนินการในระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ.2552-2554) โดยการบูรณาการและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศ หรือ e-Learning มาสนับสนุนส่งเสริมเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนโดยรวมอันจะนำไปสู่สังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้
ทั้งนี้ โครงการ e-Learning จะดำเนินการเปิดสอนทางไกลผ่านดาวเทียมและทางอินเทอร์เน็ตผสมผสานกันให้แก่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร ของ สป. ได้ดำเนินการจัดทำเนื้อหาและสื่อการสอนในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในรูปแบบ e-Learning ให้ครอบคลุมทุกชั้น มีเนื้อหาตามโครงสร้างหลักสูตร นำเสนอในรูปแบบแอนนิเมชั่นภาพเคลื่อนไหวทันสมัย มีชีวิตชีวาที่สื่อสารเข้าใจได้ง่าย ซึ่งขณะนี้จัดทำและผลิตเสร็จแล้วในบางส่วน ทั้งยังได้บรรจุเนื้อหาลงในฮาร์ดไดร์ฟ และทะยอยส่งมอบติดตั้งแก่โรงเรียนเป้าหมายที่ห่างไกลทั่วประเทศแล้ว พร้อมจัดอบรมแก่ครูจากโรงเรียนนำร่องในการใช้สื่อการสอนนี้ รวมทั้งอบรมสัมมนาเพื่อพัฒนาผู้บริหารการศึกษา ตลอดจนบุคคลากรทางการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจลึกซึ้งใน e-Learning เพื่อสามารถนำสารสนเทศไปประยุกต์ใช้บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า โครงการ e-Learning นี้ ทำให้ผู้เรียนผู้สอนตลอดจนบุคลากรทางศึกษาสามารถเข้าถึงการใช้ระบบสารสนเทศ ข้อมูล และองค์ความรู้ต่างๆ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตอย่างเท่าเทียม ก่อให้เกิดการพัฒนารูปแบบการสอนที่สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ช่วยแก้ปัญหาการเรียนการสอนของนักเรียนและครูที่ต่างพบปัญหาที่น่าเป็นห่วงด้วยกันอันอาจส่งผลกระทบโดยรวมต่อคุณภาพของระบบการศึกษาไทย และเป็นอุปสรรคกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่ผู้เรียนเองก็สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งขณะนี้จำเป็นต้องเร่งพัฒนาคุณภาพการเรียนของนักเรียนทั่วประเทศ เพราะพบปัญหาน่าวิตกว่า ผลสอบ NT และ O-NET ของเด็กนักเรียนนับหมื่นแห่งในสังกัด สพฐ. ทำคะแนนได้ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วประเทศ นอกจากนี้ e-Learning จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนจำนวนครูไม่ครบชั้นหรือปัญหาครูสอนไม่ตรงวิชา ให้แก่โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ “ผมเชื่อมั่นว่า e-Learning จะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังทางปัญญา ที่จะสนับสนุนภารกิจทางการศึกษาของคุณครูทั่วประเทศ โดยเฉพาะในโรงเรียนที่ห่างไกล และ e-Learning จะช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กไทย ให้มีโอกาสทางการศึกษาได้เรียนรู้อย่างเท่าเทียม ทุกที่ ทุกเวลา ทุกคน ไม่ว่าพวกเขามีความฝันว่าโตขึ้นจะมีอาชีพเป็นอะไร เด็กๆ ของเราจะเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เป็นพลังขับเคลื่อนอันสำคัญของประเทศไทยให้สามารถยืนหยัดบนเวทีโลกอย่างเข้มแข็ง” รมว.ศึกษาธิการกล่าวในที่สุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit