ฉลองครบรอบ 30 ปี เกรฮาวด์โชว์จิตวิญญาณของแบรนด์ ผ่านนิทรรศการ Basic with a Twist เผยตำนานความสำเร็จ ตอกย้ำตัวตนที่ชัดเจนบนความเรียบง่าย

02 Nov 2010

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--Public Hit

ไม่ใช่เรื่องง่ายนักกว่าแบรนด์ๆ หนึ่งจะเติบโตและยืนหยัดมาได้ยาวนานถึง 30 ปี โดยยังยืนยันความเป็นตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ไปพร้อมๆ กับการเป็นผู้นำเทรนด์ที่ครองใจผู้คนได้เหนียวแน่นทุกยุคทุกสมัย แต่คุณสมบัติเหล่านี้กลับหล่อรวมอยู่ทุกอณูในแบรนด์เสื้อผ้าและร้านอาหารเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดเท่อย่างเกรฮาวด์ (Greyhound) มานานกว่า 3 ทศวรรษ

ในโอกาสครบรอบ 30 ปี เกรฮาวด์จึงย้อนตำนานบอกเล่าเรื่องราวสุดประทับใจในยุคต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Basic with a TWIST” ที่บิดมุมมองของความเรียบง่าย เพิ่มลูกเล่นความสนุกสนานด้วยดีไซน์ ผ่านนิทรรศการงานดิสเพลย์สุดเก๋ และหนังสือน่าสะสม Basic with a TWIST ที่จะทำให้ทุกคนได้รู้จัก และเข้าใจตัวตนของเกรฮาวด์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ออก ลิมิเต็ด เอดิชั่น คอลเล็กชั่น เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ที่เคยผลิตในยุค 80 มาให้แฟนๆ ได้เป็นเจ้าของ เพื่อระลึกถึงโอกาสพิเศษนี้อีกด้วย

ภาณุ อิงคะวัต ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์เกรฮาวด์ ย้อนถึงจุดเริ่มต้นของเกรฮาวด์ว่า ถือกำเนิดขึ้นในปี 2523 จากความรู้สึกอยากนำเสนอเสื้อผ้าลำลองสำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ โดยสะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมืองของกลุ่มเพื่อน 4 คน ที่มีสไตล์และความชอบเหมือนๆ กัน เน้นที่กางเกงยีนส์และเสื้อคอตต้อนง่ายๆ พิมพ์ลายกราฟฟิกดีไซน์เก๋ ด้วยทิศทางของแบรนด์ที่ชัดเจนคือ “เราขายสไตล์ ไม่ใช่แฟชั่น” เกรฮาวด์จึงยืนหยัดเป็นแบรนด์ชั้นนำทั้งด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ครองใจวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัยมากว่า 30 ปี

“ทุกวันของการทำงานมีเรื่องราวที่ให้จดจำตลอด มีทั้งวันที่สุขและเศร้า เหมือนเป็นบทเรียนที่สอนเรา 30 ปีที่ผ่านมาเป็นการทำงานที่สนุก จนทุกคนบอกว่า 30 ปีแล้วต้องจัดงาน ไม่เช่นนั้นจะเหมือนว่ามันผ่านไปเฉยๆ เราจึงได้จัดทำนิทรรศการชุดนี้ขึ้น เพื่อเป็นการเล่าการเดินทางตลอด 30 ปีของเรา เด็กรุ่นใหม่ที่อยากทำแบรนด์ นิทรรศการชุดนี้ก็น่าจะให้ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ กลับไป หรืออย่างน้อยก็เป็นการแชร์ประสบการณ์ระหว่างเพื่อนร่วมสมัยที่โตมาด้วยกัน”

บรรยากาศในโอกาสครบรอบ 30 ปี จัดขึ้นที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เป็นการเปิดประตูสู่โลกของเกรฮาวด์ ถ่ายทอดออกมาเป็นนิทรรศการ Basic with a TWIST เล่าเรื่องราวการเดินทางตั้งแต่ยุคแรกถึงปัจจุบันตลอด 30 ปี ผ่านสิ่งของในอดีตสุดประทับใจ อาทิ สเก็ตช์เล่มแรก, คอลเล็กชั่นแรกของเกรฮาวด์, เสื้อคาร์ดิแกนใยแมงมุม ใน คอลเล็กชั่น Dark Dream ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเสื้อคลุมแฟนซีวันฮัลโลวีน, กระเป๋าหนังสือที่ออกแบบเป็น clutch bag ให้หน้าตาเหมือนหนังสือนิยายปกแข็งสามารถถือไปได้ทุกที่ เป็นต้น ภายในงานเสมือนเป็นการนัดพบชาว เกรฮาวด์ที่เคยร่วมงานกันมาเกือบทุกรุ่น เพื่อนๆ ในวงการออกแบบ ไปจนถึงแฟนพันธุ์แท้เกรฮาวด์ตั้งแต่ยุคก่อตั้งทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก อาทิ ชฎาทิพ จูตระกูล, ศุภลักษณ์ อัมพุช, ศักดิ์วุฒิ วิเศษมณี, วิศุทธิ์ พรนิมิตร, ทวีศักดิ์ ศรีทองดี, พัชทรี ภักดีบุตร, ชัยชน สวันตรัจฉ์ เป็นต้น ชวนให้ปาร์ตี้ปิดท้ายงานอบอุ่นสนุกสนานราวกับจะไม่มีวันเลิกรา

“การทำนิทรรศการชุดนี้เหมือนการทำหนังเรื่องหนึ่งที่เรารวบรวมและตัดต่อจนสามารถเก็บจิตวิญญาณของ แบรนด์ไว้ได้ ทุกๆไอเท็มที่เราหยิบมาโชว์ ทุกๆดิสเพลย์ที่เราแสดงถึงเรื่องราวของทุกชิ้นทุกขั้นตอน ปั้นขึ้นมาจากกลุ่มบุคคลที่รู้จักและเข้าใจถึงแก่นของเกรฮาวด์จริงๆ” ภาณุเล่าถึงการทำนิทรรศการชุดพิเศษนี้

นอกจากนี้ในฐานะแบรนด์แฟชั่นไทยที่ยืนหยัดมายาวนานและเป็นแบรนด์ไทยผู้บุกเบิกตลาดสากลอย่างเป็นระบบ ภาณุยังเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จ รวมถึงยังแนะนำเด็กรุ่นใหม่ที่อยากทำแบรนด์เป็นของตัวเองว่า ความสำเร็จของเกรฮาวด์ส่วนหนึ่งเกิดจากความตั้งใจจริงในการทำงาน และการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ และการนำเสนอที่แตกต่าง

“ผมคิดว่ามีการสื่อสารกันระหว่างแฟนเกรฮาวด์กับเกรฮาวด์ นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบสไตล์เกรฮาวด์เดินเข้ามาในเกรฮาวด์อยู่เรื่อยๆ สิ่งที่เราได้เรียนรู้ตลอด 30 ปี ผมคิดว่าเรากำลังแข่งขันกับตลาดโลก ลูกค้าเองก็มีรสนิยมและรับรู้การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราต้องการอยู่ให้นาน คำว่ามาตรฐานสากลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตลอด ทั้งเรื่องของเสื้อผ้าและอาหาร”

“จากที่ผมสัมผัสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดีไซเนอร์ไทยเก่งเรื่องความคิดสร้างสรรค์มากๆ แต่สิ่งที่ต้องช่วยพัฒนาให้เป็นระบบเพื่อรองรับความสามารถเหล่านี้ คือการทำให้ธุรกิจ ระบบโอเปอเรชั่น การทำโปรดักชั่น และเงินทุน ซึ่งสิ่งเหล่านี้รัฐบาลน่าจะให้ความช่วยเหลือ สร้างให้เป็นระบบ เพื่อต่อยอดวงการแฟชั่นไทยต่อไป“

ตำนานของเกรฮาวด์ เริ่มก้าวแรกในปี 2523 จาก บริษัท เกรฮาวด์ จำกัด ออกเสื้อผ้าลำลองสำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ ในชื่อแบรนด์ “เกรฮาวด์” สุนัขล่าเนื้อที่แสดงออกถึงความปราดเปรียว ไม่หยุดนิ่ง สะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ในสมัยนั้น จากนั้นจึงเพิ่มไลน์เสื้อผ้าผู้หญิง ในปี 2533 มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง และแอ็กเซสซอรี่ต่างๆ และต่อมาในปี 2545 ได้มีแบรนด์น้องใหม่ที่แอบกวนๆ สนุกสนาน และ มีดีไซน์แปลกใหม่สไตล์ทดลอง เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแบรนด์คือ “เพลย์ฮาวด์” (Playhound) จับกลุ่มลูกค้าอายุ 20-28 ปี ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความทันสมัย ความเรียบง่าย สนุกสนานในลักษณะของสตรีทแฟชั่น นอกจากนี้ยังได้รับการคัดเลือกจาก บริษัท Fun Characters International (Thailand) เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนต่างๆ ของดิสนีย์ในประเทศไทย ให้ผลิตสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าภายใต้การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์เกรฮาวด์ จึงขยายแบรนด์เสื้อผ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแบรนด์ โดยใช้ชื่อแบรนด์ “ฮาวด์แอนด์เฟรนด์” (Hound & Friends) แต่ไม่ใช่เพียงแฟชั่นเสื้อผ้าเท่านั้น หากเอ่ยถึง เกรฮาวด์ คาเฟ่ ร้านอาหารในเครือฯ ก็ยังเป็นร้านอาหารที่ครองใจลูกค้าทุกเพศทุกวัย บางคนถึงกับมีอาหารจานโปรด สั่งได้แบบไม่ต้องดูเมนูเลยเสียด้วยซ้ำ เพราะความเอาใจใส่ในรายละเอียดของการตกแต่งร้าน เมนูอาหารที่ไม่เพียงแค่อร่อยลิ้น แต่มีดีไซน์ มีเรื่องราว และแม้กระทั่งเสื้อผ้าพนักงานเสิร์ฟก็ยังชวนให้มองไม่รู้เบื่อ เกรฮาวด์ คาเฟ่จึงไม่ได้เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นสถานที่แฮงก์เอาท์แห่งหนึ่งที่ให้ความรู้สึกผูกพันกันกับไลฟ์สไตล์คนเมือง

สำหรับนิทรรศการ Basic with a TWIST จะจัดแสดงที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2553 ส่วนใครที่ยังไม่เต็มอิ่มจุใจ มาทำความรู้จักเกรฮาวด์อย่างลึกซึ้งมากขึ้นได้ในหนังสือ “Basic with a TWIST” ที่เป็นมากกว่าหนังสือแต่เป็นประตูสู่โลกของความเป็นเกรฮาวด์เตรียมมาให้แฟนๆ ได้เป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ที่ร้าน Greyhound Original ชั้น 1 สยามพารากอน ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ชั้น 2 ดิ เอ็มโพเรียม และร้าน Playhound by Greyhound ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 เซ็นทรัลลาดพร้าว สี่สีสวยงาม ที่มีเพียง 3,000 เล่ม จำหน่ายในราคาเล่มละ 2,400 บาท ร่วมเดินทางไปกับเกรฮาวด์บนถนนแฟชั่นตลอดระยะเวลา 30 ปี ผ่านนิทรรศการสุดเท่สไตล์ เกรฮาวด์ Basic with a TWIST นิทรรศการและหลากหลายเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 27 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายนนี้ ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net