กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป
บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สถาบันเกอเธ่ ประเทศไทย ร่วมเปิดโลกทัศน์ ส่งเสริมการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเพิ่มพูนความรู้แก่เด็กและเยาวชนไทย กับการจัดงาน “เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 6” (Science Film Festival 2010) ด้วยการจัดฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์จากประเทศต่าง ๆ ให้ชมฟรี ระหว่างวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2553 ทุกวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ วันละ 2 รอบ รอบเวลา 10.00 น. และ 11.00 น. ณ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย สถานศึกษาหรือโรงเรียนใดสนใจ...สามารถโทรสำรองที่นั่งเป็นหมู่คณะและติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-589-7321 และ 084-439-1308 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พฤศจิกายน 2553
สำหรับเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ในครั้งนี้ ได้ร่วมมืออย่างเป็นทางการกับองค์การสหประชาชาติ ซึ่งได้กำหนดให้ปี ค.ศ.2010 เป็นปีสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สำคัญของความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในระดับนานาชาติ และค้นหาแนวทางการศึกษารูปแบบใหม่โดยผ่านทางสื่อภาพยนตร์และโทรทัศน์ควบคู่ไปกับความบันเทิงและการเรียนรู้ซึ่งมีขึ้นในประเทศไทย อย่างเช่น คำถามที่ว่า หลุมดำคืออะไร หน่วย พันธุกรรมแสดงความเป็นตัวตนของเราได้อย่างไร ทำไมป่าดิบชื้นถึงมีความสำคัญ เราจะหาวิธีดำรงชีวิตอย่างไรในการเดินทางที่ยาวไกลในห้วงอวกาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีเรื่องราวต่าง ๆ อีกมากมายที่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่แทรกด้วยความบันเทิง ภาพยนตร์ทุกเรื่องพากย์เสียงภาษาไทยเพื่อให้เด็กและเยาวชนในประเทศไทยได้เข้าถึงเนื้อหาของภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ
ในปีที่ผ่านมามีภจำนวนผู้เข้าชมภาพยตร์ในงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้มากกว่า 112,000 คนทั่วประเทศ นับได้ว่าเป็นเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนปีนี้มีผู้ส่งภาพยนตร์กว่า 170 เรื่อง จาก 24 ประเทศ และภาพยนตร์จำนวน 47 เรื่องจาก 17 ประเทศที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าฉายในงานเทศกาลครั้งนี้ โดยมีประเทศที่เข้าร่วม ดังนี้ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บราซิล, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮังการี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, สเปน, ประเทศไทย, เนเธอร์แลนด์, ฟิลิปปินส์, อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา
ภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ฯ จะเน้น “ภาพยนตร์สาระบันเทิง” ที่มีการอธิบายเรื่องวิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานให้แก่เยาวชน นอกจากนี้ มีการนำเสนอภาพยนตร์ในกลุ่ม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, วิทยาศาสตร์ทั่วไป การแพทย์และเทคโนโลยี,วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย สำหรับที่ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีการจัดฉายภาพยนตร์ในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์ฯ อย่างเต็มรูปแบบรวม 47 เรื่อง โดยมีเรื่องเด่น ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
น้ำท่วมกรุงเทพ (The Inundation of Bangkok)
กำกับโดย สองคนไทย สุวิมล เมืองเสือ และ สุริยัน เที่ยงปาน เนื้อหาภาพยนตร์เกี่ยวกับ กรุงเทพฯ ซึ่งเคยเกิดน้ำท่วมใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2460 ครั้งนั้นเกิดน้ำเหนือไหลบ่าเข้าท่วม หลังจากจากนั้นก็เกิดน้ำท่วมอีกหลายครั้ง แต่ไม่หนักมากไม่นานก็ลดลง ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวว่า อีกไม่นานน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ อีกครั้ง ครั้งนี้จะท่วมถาวร ส่วนสาเหตุเกิดจาก
ซึ่งนี่คือเรื่องที่น่ากลัวและกำลังเกิดขึ้น โดยเห็นได้จากพื้นอ่าวไทยบริเวณแหลมฟ้าผ่า จังหวัดสมุทรปราการ และบริเวณจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้กำลังถูกน้ำทะเลกัดเซาะเข้ามาจนพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินหายไปหลายกิโลเมตร มีการตั้งคำถามว่ามีวิธีแก้ปัญหาหรือไม่ วิธีไหนดีที่สุด คนในพื้นที่เขาแก้ปัญหากันอย่างไร มีหลักและทฤษฏีไหนที่เหมาะกับการแก้ปัญหาบ้าง
หรือจะเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง ไอกอทอิท ตอน หนอนไหม (I Got It! - Silk Worm) กำกับโดย นรภัทร์ อร่ามเรือง ซึ่งเนื้อหาในตอนนี้ (ผลิตโดยทีวีไทย) เราจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตผ้าไหม ตั้งแต่การถือกำเนิดของหนอนไหมไปจนถึงกระบวนการทอเส้นใยที่น่าทึ่งนี้ให้เป็นผ้าไหมที่มีลวดลายงดงามในโรงงานทอผ้าของไทย
นรภัทร์ อร่ามเรือง ผู้กำกับสารคดีตอนนี้กล่าวว่า “เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าทึ่งมาก เราไม่เพียงได้เรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตผ้าไหม แต่ยังได้เรียนรู้ว่าจะเสนอเรื่องราวนี้อย่างไรให้สนุกและเข้าใจง่าย นี่เป็นประสบการณ์ใหม่ของทีมงาน เพราะพวกเรามาจากสายงานประเภทข่าวและรายการบันเทิง เราจึงได้เรียนรู้อะไรมากมายในช่วง 10 เดือนที่ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาชาวเยอรมันและเพื่อนร่วมอาชีพจากทั่วภูมิภาค โครงการนี้ได้นำพาผู้คนที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันให้มาทำงานร่วมกันในระยะเวลาหนึ่ง นี่เป็นความรับผิดชอบที่เราควรจะมีต่อการพัฒนารายการสำหรับเยาวชนในประเทศ”
รายการเก้านาทีครึ่ง ตอน รณรงค์วันสุขานานาชาติ (Nine and a Half - World Toilet Day) จากประเทศเยอรมนี ที่เนื้อหาเล่าว่ามนุษย์ทุกคนต้องไปใช้ห้องสุขาถัวเฉลี่ยวันละหกครั้ง ของเสียจากร่างกายที่เราทิ้งไว้ในห้องสุขานั้นถูกน้ำชักโครกล้างหายลงท่อไปหมด ทว่าในประเทศที่ยากจน ชุมชนหลายพื้นที่ไม่มีน้ำประปา ไม่มีแม้น้ำใช้ และไม่มีห้องสุขา ด้วยเหตุนี้ บ่อยครั้งที่ของเสียจากร่างกายมนุษย์ถูกปลดปล่อยลงบนถนน แล้วไปปนเปกับน้ำในแหล่งน้ำที่ใช้ดื่มใช้กิน จนทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บในที่สุด
สารคดีตอนนี้ได้พิสูจน์อีกครั้งถึงความเข้มแข็งของรายการในการจัดการกับประเด็นที่ซับซ้อน ภายใต้รูปแบบการนำเสนอที่ร่าเริงแจ่มใส ด้วยการหยิบยกประเด็นสุขาภิบาลในประเทศกำลังพัฒนา ที่โยงถึงอันตรายต่อสุขภาพมานำเสนอ ในลักษณะที่ไม่ทำให้ผู้ชมรุ่นเยาว์รู้สึกหวาดกลัวจนเกินไป
ลูซี่เล่าเรื่องวิทยาศาสตร์ : ไฟฟ้า ( Lucie Tells the Story of Science: Here Comes the Light) จากประเทศฝรั่งเศส ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ หิ่งห้อยลูซี่ ตัวละครที่แสนน่ารัก จะมาเล่าให้เด็ก ๆ ฟังถึงความเป็นมาของวิทยาศาสตร์จากจุดเริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ ในแต่ละตอนเธอจะพาพวกเขาย้อนกลับไปสู่อดีตและคืนกลับมายังปัจจุบัน ด้วยรูปแบบของภาพเหมือนมากมาย นั่นคือบรรดานักประดิษฐ์และผู้ค้นพบทางวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกทั้งหลายที่ได้มีส่วนสร้างความก้าวหน้าอย่างสำคัญให้แก่วิทยาศาสตร์ เธอจะไปเยี่ยมชมห้องทดลอง พิพิธภัณฑ์ และบริษัทต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ที่ซึ่งเธอจะได้พบกับเหล่านักวิทยาศาสตร์และวิศวกรผู้ที่จะมาให้ความรู้กับเธอยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้ เด็ก ๆ จึงได้ค้นพบจุดกำเนิดและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีและความรู้ที่พวกเขาใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน
พาหะร้ายจากป่าร้อนชื้น (A Threat in the Tropics) จากประเทศบราซิล เป็นสารคดีเรื่องแรกที่บราซิลส่งเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการแพร่กระจายของสายพันธุ์ยุงข้ามทวีป รวมทั้งบทบาทของมันในการแพร่เชื้อไวรัส โดยเน้นที่โรคไข้เลือดออก ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ระบาดในประเทศเขตร้อน สารคดีมีทั้งภาพจริงและภาพจำลองของยุงซึ่งจะแสดงให้เห็นถิ่นกำเนิด การแพร่พันธุ์ไปทั่วโลก และรูปพรรณสัณฐานของมัน
รายการ อ๋อ นี่คือความรู้ ตอน เพื่อนแสนรัก (Ah! I Got It! - Sooooo Sweet!) จากประเทศเยอรมนี เป็นรายการโทรทัศน์สำหรับผู้ชมวัยเยาว์ ที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิง โดยนำเสนอสารพัดคำถามที่ทุกคนสงสัย และมีวิธีการเฉลยคำตอบที่ฉลาดและสนุกสนาน ในตอนนี้ ชารี่ กับ ราล์ฟ ดำเนินรายการอย่างเป็นมิตรต่อกัน ทุกอย่างเป็นไปอย่างชื่นมื่นและเบิกบาน ทั้งสองได้นำเสนอเรื่องราวน่ารู้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit