กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--No Name IMC
รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการนำยาที่มีฤทธิ์ในการห้ามเลือด ชื่อทรานีซามิก หรือมีชื่อการค้าที่รู้จักกันว่า ทรานซามีน มารับประทาน โดยเชื่อว่าจะช่วยรักษาฝ้าและทำให้ผิวขาวขึ้นนั้น อาจมีอันตรายถึงชีวิต
ยาทรานีซามิกนี้ในประเทศไทยขึ้นทะเบียนเป็นยา และมีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคเลือดไหลหยุดยาก หรือเลือดออกมากผิดปกติ โดยมีฤทธิ์ในการห้ามเลือด จากการศึกษาในสัตว์ทดลองโดยการทายาบนผิวหนังที่ผ่านการส่องด้วยรังสียูวีบีพบว่า ปริมาณเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนังลดลง และเมื่อศึกษาโดยการฉีดเข้าผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า พบว่าผิวสว่างขึ้น จึงทำให้เกิดกระแสการนำยามาใช้ในการรักษาฝ้า และทำให้ผิวขาวกันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่การศึกษาดังกล่าวยังศึกษาในผู้ป่วยจำนวนน้อย และในสัตว์ทดลองเท่านั้น
สำหรับยาในรูปแบบรับประทานยังขาดการศึกษาในคนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการว่า การใช้ยาจะช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือไม่ การนำยามารักษาฝ้าหรือทำให้ผิวขาวโดยขาดการคำนึงถึงผลข้างเคียงของยาที่ช่วยเร่งการแข็งตัวของเลือด อันอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดดำ ซึ่งถ้าไปอุดตันที่อวัยวะสำคัญ เช่น ปอด หรือสมอง ก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
ขณะนี้สภาเภสัชกรรมได้เร่งส่งเสริมให้เภสัชกรร้านยาและโรงพยาบาล ช่วยให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องการใช้ยาอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน และท่านยังย้ำเพิ่มเติมว่า ประชาชนไม่ควรซื้อยาทรานีซามิก มารับประทานเพื่อหวังผลให้ผิวขาวขึ้น ควรรอข้อมูลการศึกษาที่ยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาอย่างชัดเจนก่อน
“สภาเภสัชกรรมได้ร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพเภสัชกรรมที่เกี่ยวข้อง ในการจัดอบรมส่งเสริมความรู้เภสัชกรอย่างต่อเนื่อง และหากประชาชนมีข้อสงสัยทางยา ท่านสามารถปรึกษา เภสัชกร ได้ทุกครั้งเมื่อไปที่ร้านยาหรือโรงพยาบาล ” รศ.ภญ.ธิดา นิงสานนท์ กล่าวเสริม
“อยากรู้เรื่องยา ปรึกษาเภสัชกร”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit