กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--ปตท .สผ.
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. แจ้งว่าวันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2554) นายมาร์ติน เฟอร์กูสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและพลังงานของประเทศออสเตรเลียได้เปิดเผยผลการพิจารณาแผนการปรับปรุงแก้ไข (Action Plan) ของ PTTEP Australasia หรือ พีทีทีอีพี เอเอ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. เกี่ยวกับเหตุการณ์มอนทารา โดยตัดสินให้ พีทีทีอีพี เอเอ สามารถดำเนินงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในออสเตรเลียต่อไปได้ เนื่องจากแผนการปรับปรุงแก้ไขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการแก้ไขข้อบกพร่องทั้งในด้านเทคนิคและการบริหารจัดการรวมถึงการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินงานด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลียและพีทีทีอีพี เอเอ จะจัดทำข้อตกลงร่วมกัน โดยจะมีคณะกรรมการอิสระติดตามการดำเนินการตามแผนปรับปรุงแก้ไขของพีทีทีอีพี เอเอ เป็นเวลาอีก 18 เดือน
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ (Mr.Anon Sirisaengtaksin) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า “จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและพลังงานของประเทศออสเตรเลียได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานตามแผนการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของ พีทีทีอีพี เอเอ และได้เปิดเผยรายงานของคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์มอนทาราไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนนั้น ขณะนี้ผลการพิจารณาได้ออกมาเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การปรับปรุงแก้ไขที่เราได้ดำเนินการมาประมาณ 1 ปี โดยได้นำเสนอผลความคืบหน้าต่อรัฐบาลออสเตรเลียเป็นระยะนั้น สร้างความมั่นใจให้แก่รัฐบาลออสเตรเลียว่า พีทีทีอีพี เอเอ จะสามารถดำเนินงานด้านสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมได้ตามมาตรฐานสูงสุด ซึ่ง ปตท.สผ. มีความยินดีที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลออสเตรเลีย และจะยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติตามแผนการปรับปรุงแก้ไขต่อไป เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่รัฐบาลออสเตรเลีย”
แผนการปรับปรุงแก้ไขของ พีทีทีอีพี เอเอ ครอบคลุมเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ระบบการบริหารจัดการด้านการขุดเจาะ ระบบการบริหารจัดการความรู้ความสามารถของบุคลากร และการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานใหญ่ ปตท.สผ. ที่กรุงเทพฯ และ พีทีทีอีพี เอเอ ในออสเตรเลีย โดยมีหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลีย และสำนักงานใหญ่ ปตท.สผ. ให้คำปรึกษาในการพัฒนาแผนงาน ทั้งนี้ เพื่อให้ พีทีทีอีพี เอเอ มีระบบการปฏิบัติงานที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการของ พีทีทีอีพี เอเอ โดยจะมีการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย และแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา (Advisory Board) ซึ่งจะมีนายพิชัย ชุณหวชิระ กรรมการของ ปตท.สผ. เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา และประกอบด้วยกรรมการซึ่งเป็นตัวแทนจากสำนักงานใหญ่ ปตท.สผ. และกรรมการอิสระจากทางออสเตรเลีย โดยคณะกรรมการชุดนี้ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของ พีทีทีอีพี เอเอ จะกำกับดูแลการดำเนินงานของ พีทีทีอีพี เอเอ ต่อไป
นายอนนต์กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาแหล่งมอนทารายังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างแท่นหลุมผลิตส่วนบน (Wellhead Platform Topside) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ โดยมีเป้าหมายจะเริ่มการผลิตในแหล่งมอนทาราได้ในไตรมาสที่ 4 นี้”
ในด้านการติดตามผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมนั้น พีทีทีอีพี เอเอ ได้ร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลียโดยการสนับสนุนเงินทุนในการศึกษาวิจัย และเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับการเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาลอินโดนีเซียนั้น เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ขณะนี้ พีทีทีอีพี เอเอ อยู่ระหว่างการพูดคุยกับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อพิสูจน์หลักฐานร่วมกัน ซึ่งยังคงไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail: [email protected]
นวลเพ็ญ สุขอร่าม โทร. 02 537 4476 E-mail: [email protected]
โทรสาร 02 537 4982
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit