กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยปลื้ม ลูกค้านิยมทำธุรกรรมผ่านมือถือ ส่งผลลูกค้าทะลุ 2.3 ล้านราย ครองอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะบริการ K-Mobile Banking SMS ที่ใช้เติมเงินมือถือได้ทุกเครือข่ายด้วยการ ส่ง SMS จึงออกโปรโมชั่นพิเศษ เติม มี เฮ สำหรับลูกค้า K-Mobile Banking SMS
นายอาจ วิเชียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกค่ายรวมกันมากกว่า 70 ล้านเลขหมาย ทำให้มีการพัฒนาโทรศัพท์มือถือให้เป็นเครื่องมือในการทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมทั้งการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ (K-Mobile Banking) และมีการพัฒนาบริการให้สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือทุกค่าย ทำให้ยอดผู้ใช้บริการในปี 2553 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุ 2.3 ล้านราย โดยเฉพาะบริการ K-Mobile Banking SMS ซึ่งเติบโตจากปี 2552 กว่า 100% ทำให้ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ
สำหรับในปี 2554 ธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้บริการที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะบริการเติมเงินมือถือด้วยการส่ง SMS ตัดเงินจากบัญชีที่เปิดใช้บริการ (K-Mobile Banking SMS) ซึ่งสามารถให้บริการเติมเงินกับเบอร์ของตนเอง และเบอร์ของบุคคลอื่นได้ครบทุกค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ และ ฮัทช์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อบัตรหรือหาตู้เติมเงิน
นายอาจ กล่าวว่า ธนาคาร ฯ ได้ออกแคมเปญ “K-Mobile Banking SMS เติม มี เฮ เติมเงินมือถือให้กับเบอร์ตนเองทุกค่ายเฮรับ 300 บาท” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ไม่เคยใช้บริการมาสมัครเติมเงินผ่าน K-Mobile Banking SMS เพื่อรับสิทธิ์เงินโอนเข้าบัญชีสูงสุด 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. - 15 ก.ค. 2554 ทั้งนี้ หมายเลขบัญชีที่มียอดการเติมเงินโทรศัพท์มือถือให้กับเบอร์ตนเองสูงสุด 2,000 ท่านแรกในเเต่ละเดือน จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 50 บาทต่อเดือน โดย 1 หมายเลขบัญชี สามารถรับเงินโอนเข้าบัญชีได้สูงสุด 300 บาท กสิกรไทยลุยเพิ่มฐานลูกค้าบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ หน้า 1 จาก 2
บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยยังคงมีศักยภาพสูงและสามารถขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งทางธนาคารเองก็ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาบริการดังกล่าวอย่างไม่หยุดยั้ง โดยขณะนี้สามารถรองรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายหลักทุกค่ายได้ และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตได้ และคาดว่าในอนาคตการทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ลูกค้านิยมใช้เครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน