กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--อเด็คโก้
การสำรวจ “อาชีพในฝันของเด็กๆ โดยอเด็คโก้” จัดทำเป็นครั้งที่สอง โดยผลการสำรวจอาชีพในฝันของเด็กไทยเผยให้เห็นว่าอาชีพแพทย์ยังคงติดอันดับอาชีพในฝันของเด็กๆเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งต่างจากเด็กๆ ในสิงคโปร์ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลมากที่สุด นอกจากนี้ ผลสำรวจยังได้แสดงให้เห็นอีกว่า ร้อยละ 96 ของเด็กที่ทำแบบสำรวจนั้นเชื่อว่าการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวนั้นสำคัญกว่าการหาเงินให้ได้มากๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกหลานชาวไทยเรารักและเอาใจใส่ครอบครัว
การสำรวจภายใต้การดำเนินการโดย กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ผู้ให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์แบบครบวงจรชั้นนำของโลก ได้สอบถามเด็กๆ อายุระหว่าง 7-14 ปี ด้วยคำถามง่ายๆ 5 คำถาม ได้แก่
เมื่อโตขึ้นอยากประกอบอาชีพอะไร เพราะเหตุใด และคิดว่าจะได้รายได้ประมาณเท่าไร
เด็กๆ คิดว่าอาชีพใด ดี/เท่ห์ ที่สุด?
หากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย 3 สิ่งที่ต้องการทำคืออะไร
เด็กๆ คิดว่าอะไรสำคัญกว่ากัน ระหว่างหาเงินให้ได้เยอะๆ กับใช้เวลาอยู่กับครอบครัว?
ปี พ.ศ. 2554 นี้ เด็กๆ อยากจะทำอะไร?
การสำรวจซึ่งได้มีขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วนี้ ได้ถูกดำเนินการในประเทศมาเลย์เซีย, สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นกัน ซึ่งผลที่พบนั้นเป็นไปตามคาด คือ มีความแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
เด็กๆ จำนวนมากถึงร้อยละ 30 ที่ตอบแบบสำรวจระบุว่าพวกเขาต้องการที่จะเป็นแพทย์เมื่อพวกเขาโตขึ้น จุดนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็กๆ เริ่มคิดถึงตัวเลือกอาชีพที่ดีๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเด็กๆ คาดหวังว่าอาชีพแพทย์นั้นจะมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 1,000 บาท ไปจนถึง 600,000 บาท เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น อาชีพแพทย์นี้ยังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งจากผลสำรวจอาชีพในฝันของเด็กๆ ชาวไทยครั้งแรกในปีที่แล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนอาชีพในฝันอันดับต่อมา คือ อาชีพวิศวกรและนักบิน นอกจากนี้ผลสำรวจก็พบว่าอาชีพอื่นๆ ที่เด็กๆ ใฝ่ฝัน คือ สัตวแพทย์, ผู้กำกับภาพยนตร์, นางแบบระดับซูเปอร์โมเดล และนักกีฬา นอกจากนี้ยังมีเด็กคนหนึ่งต้องการเป็นผู้สื่อข่าวเมื่อโตขึ้น ด้วยเหตุผลว่ามันเป็น “อาชีพที่มีความอิสระ และ หนูชอบพูดค่ะ!”
ต่อข้อคำถามว่า “โตขึ้นน้องๆ อยากจะเป็นอะไร?” นั้น ตัวเลือก 6 อันดับแรกของเด็กๆ คือ
แพทย์
วิศวกร
นักบิน
นักธุรกิจ
ทันตแพทย์ และ พ่อครัว (ได้คะแนนเท่าๆ กัน)
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการสำรวจอาชีพในฝันของเด็กๆ ที่อเด็คโก้ได้ทำการสำรวจทั่วโลก โดยมีอาชีพทันตแพทย์ขึ้นมาติดอันดับต้นๆ ของอาชีพในฝัน ผลของการสำรวจบางอย่างนั้นอาจดูน่าขบขัน แต่ผลในบางด้านนั้นก็แสดงให้เห็นถึงความจริงจังด้วย เช่น การที่เด็กๆ แสดงออกถึงความต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติเมื่อถึงคราวจำเป็น ปี พ.ศ. 2553 เป็นปีที่หลายๆ พื้นที่ในทวีปเอเชียถูกภัยธรรมชาติคุกคาม เหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มีอิทธิพลต่อความคิดของพวกเขาว่า พวกเขาควรให้การสนับสนุนใดๆ ก็ตามที่พวกเขาสามารถทำได้ เพื่อผู้อื่น
การสำรวจนี้ยังได้ถามเด็กๆ อีกด้วยว่า พวกเขาคิดว่าอาชีพใด “ดีและดูเท่ห์ที่สุด” เท่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ และอาชีพใดเป็นอาชีพที่พวกเขาใฝ่ฝัน ซึ่งอาชีพแพทย์ติดอันดับแรกของหมวดหมู่นี้ ส่วนอาชีพอื่นๆ ที่ดูเท่ห์ ได้แก่ นักบินอวกาศ ตำรวจ นางงามจักรวาล นักแสดง และ นักร้อง
การเป็นนายกรัฐมนตรีอาจเป็นอาชีพที่ผู้ใหญ่ไม่ค่อยอยากเป็นเท่าใดนัก แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กๆ ที่ตอบแบบสอบถามนี้ เมื่อถูกถามว่าอะไรคือสามสิ่งแรกที่พวกเขาจะทำถ้าพวกเขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คำตอบของพวกเขานั้นทั้งให้แง่คิด และช่างน่าปลาบปลื้มมากๆ อาทิ
ปรับปรุงระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
ปล่อยช้างคืนสู่ผืนป่า
ช่วยเหลือผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
ทำห้องน้ำทุกห้องให้สะอาด!
ปลูกต้นไม้ให้มากขึ้นกว่านี้
เปลี่ยน ‘คนไม่ดี’ ให้เป็น ‘คนดี’
สนับสนุนการใช้พาหนะที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
คำตอบอื่นๆ ในข้อคำถามหมวดนี้ ยังมีที่เกี่ยวกับการทำนุบำรุงวัฒนธรรมไทยให้ยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย
ส่วนที่สำคัญของแบบสำรวจนี้คือข้อคำถามที่ว่า “อะไรคือสิ่งที่สำคัญกว่ากัน ระหว่างหาเงินให้ได้เยอะๆ กับการใช้เวลาอยู่กับครอบครัว?” ซึ่งเด็กๆ ร้อยละ 96 ตอบว่าพวกเขาเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากกว่าการหาเงินให้ได้มากๆ โดยเหตุผลที่พวกเขาให้นั้น ได้แก่
เงินใช้แล้วหมดไป แต่ครอบครัวจะอยู่กับเราตลอดไป
เงินไม่สามารถซื้อความรักได้
การได้อยู่กับครอบครัวทำให้ฉันมีความสุข
อยู่กับครอบครัวเพื่อดูแลพ่อแม่
นอกจากนี้แบบสำรวจยังได้ถามอีกว่า “ในปี พ.ศ. 2554 นี้ อะไรคือสิ่งที่น้องๆ อยากจะทำ?” ซึ่งเป็นคำถามที่ ‘น่าสนใจ’ สำหรับ ‘เด็กๆ’ ทำให้ได้คำตอบที่น่าสนใจกลับมามากมาย อาทิ
ไปดูเทพีเสรีภาพ
จัดตั้งชมรมศิลปะ
นั่งสมาธิ
ทำความฝันให้เป็นจริง
คำตอบส่วนใหญ่ของข้อคำถามนี้มุ่งประเด็นไปที่โรงเรียนและการศึกษา ซึ่งผลสำรวจเด็กๆ ส่วนใหญ่ระบุว่าพวกเขาตั้งใจที่จะเรียนให้หนักขึ้น และเรียนหนังสือที่โรงเรียนให้เก่งๆ
ปีนี้เป็นปีที่สองที่อเด็คโก้ได้ทำการสำรวจซึ่งแสดงให้เห็นถึงข้อมูลที่น่าสนใจ ว่าแรงงานไทยในอนาคตนั้นคิดอย่างไรเกี่ยวกับโลกใบที่พวกเขาอาศัยอยู่นี้ และยังทำให้ได้รับรู้ว่าพวกเขามีความใฝ่ฝันอยากจะเติบโตไปเป็นอย่างไรในอนาคต
คุณธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ผู้จัดการประจำประเทศของกลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย กล่าวว่า “ผลสำรวจนั้นเป็นทั้งเครื่องเตือนใจและยังกระตุ้นจิตสำนึกของเราอีกด้วย เมื่อได้ทราบว่าพวกเด็กๆ นั้นมีความห่วงใยอย่างมากต่อครอบครัวและผู้คนที่อยู่รอบข้าง บุตรหลานของพวกเราเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีจิตใจโอบอ้อมอารี และถ้านี่คือตัวชี้วัดว่าผู้นำธุรกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไร มั่นใจได้เลยว่าพวกเราอยู่กับคนที่ดีและโอบอ้อมอารีแน่นอน!”
เกี่ยวกับอเด็คโก้
อเด็คโก้เป็นบริษัทติดอันดับของ Fortune Global 500 Company และ เป็นผู้นำระดับโลกในการให้บริการด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคล บริษัทฯได้ก่อตั้งและจดทะเบียนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และบริหารโดยทีมผู้บริหารมืออาชีพจากหลากหลายประเทศ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขยายเครือข่ายทั่วโลก กลุ่มบริษัทอเด็คโก้สามารถให้ความหลากหลายรูปแบบของการบริหารงานทรัพยากรบุคคล ไม่ว่าจะเป็นด้านการสรรหาพนักงานและการจัดจ้างพนักงานประจำและชั่วคราว การให้คำปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล งานเงินเดือน การฝึกอบรม การพัฒนาบุคคลากร และบริการ Outplacement
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย - ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กัลญา นลินกาญจน์ อีเมล : [email protected] โทร. .02 298 0170-80 ต่อ 213 www.adecco.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit