กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยเดินหน้าสนับสนุนเงินทุนให้กับผู้ประกอบการลำไยอบแห้งใน 7 จังหวัดภาคเหนือ รับซื้อลำไยสดจากเกษตรกรตามราคากลาง ช่วยพยุงราคาลำไยไม่ให้ตกต่ำ หลังประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขให้ลูกค้านำเงินฝากมาค้ำประกันสินเชื่อเพียง 30% ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อช่วยเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ วสุภัทร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารกลุ่ม สายงานธุรกิจขนาดกลาง บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารประสบความสำเร็จในการช่วยพยุงราคาลำไยในปีที่ผ่านมา ในปีนี้ธนาคารยังคงให้ความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนมาตรการแปรรูปลำไย อบแห้งทั้งผล เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาราคาลำไยตกต่ำ อันเนื่องมาจากผลผลิตกระจุกตัวช่วงฤดูกาลรับซื้อ ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมนี้ โดยธนาคารจะให้วงเงินสินเชื่อ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนกับผู้ประกอบการลำไยอบแห้งเอกชน ทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน ในการรับซื้อลำไยสดจากเกษตรกรตามราคากลางที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กำหนด (โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะชดเชยผลต่างอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการ รวมวงเงิน 30 ล้านบาท ในอัตรา 3% ต่อปี)
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ผ่อนปรนเงื่อนไขในการขอสินเชื่อ เพื่อให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และทันกับฤดูกาลรับซื้อลำไย โดยลูกค้าสามารถนำเงินฝากมาค้ำประกันสินเชื่อได้ 30% ส่วนที่เหลืออีก 70% นั้น ธนาคารจะประสานกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกัน จากเดิมที่ลูกค้าต้องนำหลักทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์มาจำนองกับธนาคาร โดยในปีที่ผ่านมา ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ 23 ราย วงเงินสินเชื่อกว่า 250 ล้านบาท และในปีนี้ธนาคารคาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อพยุงราคาลำไยไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายประสิทธิ์ วสุภัทร กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้ประกอบการลำไยอบแห้งที่จะขอรับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคาร ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) โดยมีเตาอบแห้งลำไยทั้งเปลือก และเป็นผู้ประกอบการที่รับซื้อ จำหน่าย และส่งออกลำไยไม่น้อยกว่า 3 ปี
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
โทร. 0-2208-4174-7
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit