กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
ผลสำรวจความเชื่อมั่นลูกค้าสินเชื่อธนาคารกรุงไทยไตรมาสที่ 2/2553 เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังลดลงชั่วคราวในไตรมาสแรกจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในความเชื่อมั่นที่มีต่อองค์ประกอบทุกด้านของดัชนี และสูงกว่าระดับปกติต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 สะท้อนว่านักธุรกิจเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารความเสี่ยง บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ซึ่งเป็นดัชนีความเชื่อมั่นจากการสำรวจความเห็นของนักธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด ทั่วประเทศ รวม 1,789 ราย ว่า ดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 2/2553 ที่สำรวจในช่วงเดือนมิถุนายน 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.83 ในไตรมาสก่อน เป็น 55.54 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากไตรมาสที่ 2 ปี 2547 หลังจากลดลงชั่วคราวในไตรมาสก่อน เนื่องจากความกังวลเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ขณะที่ปัจจัยอื่น ๆ ยังคงแข็งแกร่งจึงสามารถฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ โดยเฉพาะการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคการผลิต การจ้างงาน การลงทุน และการบริโภคภายในประเทศ ขยายตัวตาม
นอกจากนั้น ผลการสำรวจครั้งนี้ยังพบว่า ความเชื่อมั่นที่มีต่อองค์ประกอบทุกด้านของดัชนี KTBI ได้แก่ ด้านภาวะธุรกิจโดยรวม ภาวะตลาด การผลิตและการลงทุน ต้นทุนการผลิต และภาวะการเงิน ต่างปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นด้านภาวะต้นทุนการผลิตยังคงต่ำกว่าระดับปกติ เนื่องจากความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ค่าจ้างแรงงาน และอัตราดอกเบี้ยเป็นสำคัญ
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย เปิดเผยต่อไปว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจที่มีต่อภาวะธุรกิจในอนาคตอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับสูงขึ้นจาก 53.91 ในไตรมาสก่อน เป็น 56.31 และสูงสุดในรอบ 6 ปี นับจากไตรมาสที่ 2 ปี 2547 เนื่องจากปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ การที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกขยายตัวสูงถึงร้อยละ 12 และการส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวสูงต่อเนื่อง ขณะที่เหตุการณ์จลาจลกระทบต่อการบริโภคและการลงทุนน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้หลายหน่วยงานปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เพิ่มขึ้น
ฝ่ายสื่อสารภาพลักษณ์และองค์กร
โทร. 0-2208-4174-7
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit