“เพื่อนชุมชน” ความร่วมมือของอุตสาหกรรมครั้งแรกของไทย ยกระดับโรงงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมอยู่ร่วมชุมชนอย่างยั่งยืน

24 Jun 2010

กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ปตท..

5 ผู้ประกอบการมาบตาพุด ปตท เอสซีจี บีแอลซีพี โกลว์ และ ดาว เคมิคอล รวมใจร่วมเปิดตัวกลุ่ม “เพื่อนชุมชน” ความร่วมมือของอุตสาหกรรมในมาบตาพุดครั้งแรกของไทย ทำข้อตกลงร่วมกัน พัฒนาต้นแบบโรงงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ดีกว่ากฎหมาย พร้อมตรวจสอบดูแลกันเอง เน้นส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชนทั้งด้านสุขภาพและการศึกษา เพื่ออุตสาหกรรม

และชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกันในกลุ่ม “เพื่อนชุมชน” ครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกของอุตสาหกรรมในประเทศไทย เพื่อแสดงความจริงใจและความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตชาวระยอง เพื่อให้ระยองเป็นต้นแบบของเมืองน่าอยู่ ที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมควบคู่การดูแลชุมชนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคส่วน กลุ่ม “เพื่อนชุมชน” จะมุ่งมั่นแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเร่งด่วน โดยให้ความสำคัญกับการสร้างระบบมาตรฐานการดำเนินงานความปลอดภัย-อาชีวอนามัย-สิ่งแวดล้อม (Safety-Health-Environment หรือ SHE) ซึ่ง กลุ่มผู้ประกอบการต้องร่วมกันทำให้ดีกว่ากฎหมาย ดังเช่นที่ กลุ่ม ปตท ได้ปฏิบัติอยู่ และประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้ หากการทำงานเป็นไปตามเป้าหมาย ก็จะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับชุมชน เรียกความเชื่อมั่นกลับมา และ คืนภาพลักษณ์ที่ดีให้จังหวัดระยองกลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่เช่นเดิม ที่สำคัญ ความร่วมมือครั้งนี้นำมาซึ่งการแบ่งปันและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มผู้ประกอบการเห็นประโยชน์ร่วมกัน เข้าร่วมโครงการมากขึ้นในอนาคต และท้ายที่สุดทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วมทำให้ระยองเป็นสังคมที่เติบโตอย่างยั่งยืนและเข้มแข็ง ด้วยโครงสร้างระบบเศรษฐกิจแบบ 3 ขา ที่มีความสมดุลระหว่างการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการบริการ เป็นระยองเมืองสีเขียว (Green Industrial Town) อย่างแท้จริง

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า อุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดถึง จุดที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน ร่วมกันสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สำหรับการทำงานของกลุ่ม “เพื่อนชุมชน” นั้น ในช่วงที่ผ่านมา ได้ประชุมหารือและจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันแล้ว โดยจะดำเนินการในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และตรวจสอบดูแลกันเอง

ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยให้ดีกว่ากฎหมายกำหนด โดยมีแผนงานเร่งด่วนในการลดสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) การควบคุมกลิ่น และการควบคุมการปล่อย Flare Gas รวมทั้งการจัดทำแนวป้องกัน (Protection Strip) ด้วยการปลูกพันธุ์ไม้กันมลพิษระหว่างโรงงานและชุมชน นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการดูแลเอาใจใส่ชุมชนด้วยความจริงใจ แบบ Beyond CSR โดยศึกษาความต้องการที่แท้จริงของชุมชน เพื่อมุ่งแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์กับชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นพัฒนาการศึกษา และสุขภาพของคนในชุมชน โดยจะมีการจัดทำฐานข้อมูลสุขภาพชุมชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เรามุ่งหวังว่า ความร่วมแรงร่วมใจของผู้ประกอบการจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่จริงจังและยั่งยืนต่อชุมชน อุตสาหกรรม และประเทศชาติต่อไป

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด กล่าวว่า “การดำเนิน งานของกลุ่ม “เพื่อนชุมชน” ในครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจของภาคอุตสาหกรรมที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมด้วยกัน โดยทำข้อตกลงเป็นพี่เลี้ยง ในการช่วยพัฒนาจัดการด้านสิ่งแวดล้อมให้มีมาตรฐานสูงทัดเทียมกัน ลดผลกระทบต่อชุมชน รวมทั้งเป็นการรวมองค์ความรู้ ประสบการณ์ และเทคโนโลยีของทุกโรงงานเพื่อสร้างอุตสาหกรรมสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการผนึกกำลังของภาคอุตสาหกรรมในครั้งนี้จะมีส่วนในการช่วยด้านการแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ในฐานะที่พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย เราพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่ รวมทั้งให้ความร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดการขยายผลไปทั่วประเทศ การผนึกกำลังของภาคเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของภาคเอกชนในการที่จะร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การอยู่ร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมและชุมชนด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกันนั้น การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ขณะนี้

กลุ่ม “เพื่อนชุมชน” กำลังเตรียมจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อเปิดตัว “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเพื่อนชุมชน” เพื่อทำหน้าที่ เสมือนตัวกลางในการสื่อสารระหว่างอุตสาหกรรมกับชุมชนอย่างเปิดเผยโปร่งใส เป็นศูนย์ข้อมูลความรู้สำหรับชุมชน พร้อมทั้งเป็น Call Center รับข้อร้องเรียน แก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ชุมชนมั่นใจว่าอุตสาหกรรม

มีความจริงใจพร้อมรับฟังความคิดเห็นของชุมชน นอกจากนี้ ยังได้เตรียมการปรับปรุงและจัดซ้อมแผนฉุกเฉินร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล ดับเพลิง โดยตั้งเป้าที่จะทำแผนการสื่อสารและแนะนำแนวทางปฏิบัติให้ครบถ้วนทุกชุมชน ทั้งนี้ เพื่อให้ชุมชนมีมั่นใจในมาตรการการแก้ไขปัญหาฉุกเฉินของอุตสาหกรรม

ดร. มอลลี่ เพยฟาง ชาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ร่วมทุนระหว่างเอสซีจี กับบริษัท ดาว เคมิคอล กล่าวว่า “ดาว เคมิคอล มีความมุ่งมั่นเพื่อสร้างความสำเร็จของชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการดำเนินงานเพื่อการ พัฒนาอย่างยั่งยืน และเราใช้ปรัชญานี้กับการดำเนินการของเราทั่วโลก มาตรฐานในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม สุขภาพและความปลอดภัย รวมกับความมุ่งมั่นของเรา ทำให้ การดำเนินงานของ ดาว ในประเทศไทยเป็นหนึ่งในการดำเนินงานที่ดีที่สุดของ ดาว ทั่วโลก เรามีความยินดีที่จะมีส่วนร่วมในกลุ่ม “เพื่อนชุมชน” เพื่อที่จะแบ่งปันความรู้และวิธีการดำเนินงานที่ดีให้แก่กัน เและหวังว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ จะทำให้เกิดผลดียิ่งขึ้นต่อชุมชนของเรา”

กลุ่ม “เพื่อนชุมชน” เป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่นแก้ปัญหาร่วมกันอย่างเร่งด่วน ด้วยการถ่ายทอดความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ และตรวจสอบดูแลกันเอง โดยความมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ในระยะเริ่มต้น มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเข้าร่วมกลุ่มแล้วทั้งสิ้น 5 บริษัท ได้แก่ ปตท. เอสซีจี บีแอลซีพี โกลว์ ดาว เคมิคอล และจะขยายความร่วมมือไปยังโรงงานอื่นๆ ให้ได้มากที่สุด ในระยะต่อไปจะเชิญชวนภาครัฐ และภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมอย่างโปร่งใส เพื่อให้ระยองเป็นบ้านที่น่าอยู่ของชุมชน