กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์
“ ท้องผูก ” เรื่องน่าหงุดหงิดที่ไม่ค่อยอยากบอกคนใกล้ตัว ในประเทศอังกฤษพบว่ามีผู้ที่มีอาการท้องผูกกว่า 6 ล้านคน จากข้อมูลพบว่าคนไทยมีปัญหาท้องผูกกว่า 1 ล้านคน ( ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ) พบว่าผู้หญิงมีปัญหาท้องผูกมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากวัยกลางคนขึ้นไป และพบมากขึ้นในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
น.พ.อิทธิชัย วัชรีคุปต์ สาขาอายุกรรมทั่วไป ประจำ กล้วยน้ำไท 2 ( เครือรพ.กล้วยน้ำไท ) เปิดเผยว่า “ ผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องท้องผูกเพราะมักจะรับประทานอาหารที่เคี้ยวง่าย ซึ่งส่วนใหญ่อาหารกลุ่มนี้มักไม่ค่อยมีกากใย ดื่มน้ำน้อยลงเพราะกังวลเรื่องการเข้าห้องน้ำ การเคลื่อนไหวของลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่น้อยลง รวมถึงไม่ค่อยออกกำลังกาย ทำให้ลำไส้ไม่ค่อยบีบตัว นอกจากนี้โรคบางโรคยังส่งผลต่ออาการท้องผูก เช่น โรคเบาหวาน “
สำหรับหนุ่ม สาวออฟฟิศ ปัญหาที่มักพบบ่อยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกเป็นประจำคือ
1. ได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ไฟเบอร์มีมากในข้าวซ้อมมือ ถั่วต่าง ๆ ผลไม้สด และผัก ควรรับประทานผัก ผลไม้ 5 ส่วนใน 1 วัน
2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว น้ำช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น และระบบการขับถ่ายทำงานง่ายขึ้น
3. ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้ง และเลือกกีฬาที่ทำให้ลำไส้มีการขยับตัว เช่น เดิน วิ่ง ฯลฯ
4. กลั้นถ่าย ควรรีบเข้าห้องน้ำทุกครั้งเมื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ
5. ทานยาบางตัวที่ส่งผลให้ท้องผูก เช่น ยาลดความดันบางตัว อาหารเสริมธาตุเหล็ก ยาแก้ปวดบางตัว ยาคลายเครียดบางชนิด ฯลฯ
6. รับประทานยาถ่ายเป็นประจำ ยาถ่ายทำให้ถ่ายง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ
7. ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย หรือชีวิตประจำวัน เช่น ตั้งครรภ์ การเดินทาง ฯลฯ การตั้งครรภ์ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือมดลูกกดทับลำไส้ ส่วนการเดินทางทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอาหารที่รับประทาน และชีวิตประจำวัน รู้ได้อย่างไรว่า “ ท้องผูก ” หรือไม่ ?
เรามักเข้าใจว่าต้องเข้าห้องน้ำทุกวัน แต่ร่างกายบางคนแตกต่างกันออกไป ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกคือผู้ที่ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ผู้ที่มีปัญหาถ่ายอุจจาระยากต้องใช้แรงเบ่งมาก หรือผู้ที่ถ่ายอุจจาระไม่สุดอยู่บ่อย ๆ
9 ทริค ง่าย ๆ ช่วยแก้อาการ “ ท้องผูก ”
1. ทานเม็ดแมงลักแช่น้ำ ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา แช่น้ำให้พองเต็มที่ในน้ำเปล่า 1 แก้ว ( 250 ซีซี )
2. มะละกอสุก ประมาณ 1/4 ลูก
3. ดื่มน้ำอุ่น 3 – 4 แก้ว ( 750 – 1,000 ซีซี ) ขณะท้องว่าง ควรดื่มภายใน 10 – 15 นาที หลังลุกจากที่นอน ( ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ 0500 – 0700 น. > ควรยืนดื่มน้ำ เพื่อไม่ให้รู้สึกจุก เดินไปมาเพื่อให้ลำไส้ขยับตัว
4. ลูกพรุนแห้ง ควรรับประทานทานตอนกลางคืนก่อนเข้านอน แต่ไม่ควรทานมาก และไม่ควรทานบ่อยเนื่องจากมีปริมาณน้ำตาลสูง
5. น้ำมะขามเปียกค่อนข้างเข้มข้น ประมาณ 1 แก้ว ควรดูปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง
6. ขับถ่ายให้เป็นเวลา และไม่ควรกลั้นอุจจาระ
7. ควรเดินออกกำลังกาย ประมาณ 20 – 30 นาที จะทำให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
8. นวดบริเวณลำไส้ใหญ่ โดยนวดที่บริเวณใต้สะดือ ใช้มือนวดวนตามแนวลำไส้ใหญ่ ( ทวนเข็มนาฬิกา ) ทำสักพักจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ
9. นั่งถ่ายในลักษณะชันเข่า ท่านั่งที่ดีที่สุดในการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่าย คือ การนั่งยอง ๆ แบบส้วมหลุม เนื่องจากทำให้ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ( Rectum ) อยู่ในลักษณะตรง ทำให้ขับถ่ายได้ง่าย และไม่มีอุจจาระเหลือค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งถ้าที่บ้านเป็นชักโครก สามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เท้าชันบนกล่อง หรือถังขยะในลักษณะที่ให้เข่ายกสูงขึ้น แต่เท้าอยู่บนกล่องแต่เป็นระนาบเดียวกับพื้น ( ตามรูป )
“ 9 ทริคแก้ปัญหาท้องผูกสามารถใช้ได้ทุกคน ซึ่งความเหมาะสม ปริมาณการใช้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรฝึกการขับถ่ายให้เป็นนิสัย เพื่อแก้ปัญหาท้องผูกในระยะยาว ” น.พ.อิทธิชัยกล่าว
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อได้ที่
วรรณภา ประจงศักดิ์
บริษัท ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร 0 2769 2000 ต่อ 5301, 5303
อีเมล์ : [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit