ฟิทช์จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ค้ำประกันของบมจ. กรุงเทพบ้านและที่ดิน ที่ ‘AA+(tha)’

17 Sep 2010

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว ที่ระดับ‘AA+(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้ค้ำประกันของบมจ. กรุงเทพบ้านและที่ดิน หรือ KLAND ซึ่งมีอายุแตกต่างกันรวม 3 ชุด โดยหุ้นกู้ดังกล่าวทั้งหมดได้รับการค้ำประกันโดย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ซึ่งมีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ที่ระดับ AA+(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ โดยอันดับเครดิตมีดังนี้

หุ้นกู้ค้ำประกัน มูลค่า 500 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 ที่ระดับเครดิต ‘AA+(tha)’

หุ้นกู้ค้ำประกัน มูลค่า 250 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2557 ที่ระดับเครดิต ‘AA+(tha)’ และ

หุ้นกู้ค้ำประกัน มูลค่า 250 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2558 ที่ระดับเครดิต ‘AA+(tha)’

อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้บนเงินต้น และดอกเบี้ยของหุ้นกู้ โดย KTB นอกจากนี้การค้ำประกันดังกล่าวยังรวมถึง การค้ำประกันดอกเบี้ยผิดนัด ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่างๆอันเกี่ยวกับหรือภายใต้หุ้นกู้ดังกล่าว เป็นจำนวนไม่เกิน 50 ล้านบาท

อันดับเครดิตของ KTB มีพื้นฐานมาจากการที่ธนาคารมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากรัฐบาล รวมทั้งสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นของธนาคาร KTB เป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศไทย ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 18 โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ได้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF ที่จัดตั้งโดยธนาคารแห่งประเทศไทยถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 55 เมื่อพิจารณาถึงขนาดและความสำคัญของ KTB ต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และมีอำนาจควบคุมธนาคาร ฟิทช์เชื่อว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐหากมีความจำเป็น

ผลการดำเนินงานของ KTB ในครึ่งแรกปี 2553 แข็งแกร่งขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 มาอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อสินทรัพย์รวมที่ร้อยละ 0.8 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง และรายได้ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนกำไรดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในครึ่งแรกของปี 2553 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 3 จากร้อยละ 3.2 ในปี 2552 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่หน่วยงานในภาครัฐและพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้หากภาวะเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่า KTB น่าจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2553 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จาก สิ้นปี 2552)

สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารลดลงมาอยู่ที่ 8.2 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 7 ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 (ณ สิ้นปี 2552: 8.6 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 8 ของสินเชื่อรวม) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในครึ่งแรกของปี 2553 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมีความเสี่ยงในด้านคุณภาพสินทรัพย์ เนื่องจากสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่กลางปี 2551 นอกจากนี้ อัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของ KTB ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 53.6 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 สะท้อนถึงความเสี่ยงในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่อาจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าการที่ธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อภาครัฐที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่น อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่ำ

ความสามารถในการระดมเงินและสภาพคล่องของ KTB ยังคงมีเสถียรภาพ เนื่องจากธนาคารเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีฐานลูกค้าเงินฝากที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย โดยพนักงานรัฐวิสาหกิจและข้าราชการส่วนใหญ่จะมีเงินฝากกับธนาคาร อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของธนาคารยังคงอยู่ในระดับปานกลางที่ร้อยละ 96 ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2553 (สิ้นปี 2552 อยู่ที่ร้อยละ 89.1) นอกจานี้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่แข็งแกร่งของ KTB ที่ร้อยละ 9.7 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 น่าจะสามารถช่วยรองรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง

KLAND ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2527 โดยเริ่มจากการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลาง ถึงระดับบน ต่อมาภายหลัง KLAND ได้ขยายธุรกิจเพื่อครอบคลุมการพัฒนาโครงการอาคารชุดเพื่ออยู่อาศัย โดยได้เข้าร่วมกิจการค้าร่วมกับ บริษัท Frasers (Thailand) Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท Frasers Centrepoint Limited หรือ FCL ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาโครงการอาคารชุดเพื่ออยู่อาศัยโครงการแรกของบริษัทฯ บริษัทฯยังได้เพิ่มความหลากหลายของชนิดที่อยู่อาศัยโดยการพัฒนาโครงการทาวเฮาส์อีกด้วย FCL ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ KLAND ในปี 2548 โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นในปัจจุบันที่ร้อยละ 40 บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ถือหุ้นร้อยละ 20 ในขณะที่อีกร้อยละ 40 ของ หุ้นของบริษัท ถือโดยนักธุรกิจไทยเป็นส่วนใหญ่ อัตราส่วนหนี้สินของ KLAND ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ยังคงสูงอยู่โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่าสำหรับ 12 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 17 เท่า ถึงแม้ว่าระดับหนี้สินรวมของบริษัทฯได้ลดลงมาอยู่ที่ 3 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 จาก 4.4 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2552 จากการทยอยชำระคืนเงินกู้ของโครงการ The Pano ตามการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในโครงการ แล้วก็ตาม

ติดต่อ:

Primary Analyst

พิมรำไพ ปันยารชุน

Associate Director

+66 2655 4752

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ชั้น 13, อาคารเวฟเพลส, ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน

กรุงเทพฯ 10330