สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชานุญาตให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 500 ชุด ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

14 Oct 2010

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--ปภ.

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ให้เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 500 ชุด ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยและบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

นายชวรัตน์ กล่าวว่า ในปีนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยรวม 4 ครั้ง ซึ่งภาคกลางมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 8 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร สิงห์บุรี อ่างทอง และชัยนาท ดังนั้น เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยมีประสิทธิภาพ จึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการปฏิบัติงาน โดยเร่งสำรวจความเสียหายและดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด หากพื้นที่ใดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนเกินขีดความสามารถที่จังหวัดจะดำเนินการเองได้ ให้ขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง สำหรับความเสียหายด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ที่มีมูลค่าความเสียหายเกินกว่าวงเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ/จังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลต่อไป โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรคให้จังหวัดประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งนี้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้นำในพื้นที่ ดูแลพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างใกล้ชิดและให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ภาคกลางจะเริ่มคลี่คลายลงแล้ว แต่ก็ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ติดตามสถานการณ์ภัย และประกาศแจ้งเตือนภัยจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 19 จังหวัด โดยเป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี ในส่วนของพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอมหาราช อำเภอผักไห่ และอำเภอบางบาล รวม 54 ตำบล 297 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 13,977 คน 4,494 ครัวเรือน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว