ครอบแก้วบำบัดโรค

11 Oct 2010

กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--คอร์ แอนด์ พีค

ตามตำราศาสตร์แพทย์แผนจีน เชื่อว่า ลมปราณเป็นท่อลำเลียงของชี่(พลัง) และเลือดที่มีเครือข่ายกระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย ภายในครอบคลุมถึงอวัยวะตันและกลวง ส่วนภายนอกเชื่อมต่อแขนขาและข้อต่อแต่เมื่อยามเจ็บป่วย สมรรถนะของเลือดลมในเส้นลมปราณจะขาดความสมดุล มีผลให้ชี่หนืดเลือดคั่ง เส้นลมปราณอุดตันจนเกิดอาการเจ็บป่วย

ครอบแก้ว เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของแพทย์แผนจีนที่มีมากว่า 2,000 ปี เป็นภูมิปัญญาจีนที่ผ่านการหล่อหลอมจากการศึกษาค้นคว้า พัฒนา และสะสมประสบการณ์ของชาวจีน ตลอดระยะเวลาที่ต้องประสบกับโรคภัยนานาชนิด จนกลายเป็นแบบแผนบำบัดโรคที่มีบันทึกอยู่ในตำราแพทย์จีนหลายเล่ม

อาจาย์หยาง เผยเซิน ผู้ก่อตั้งศูนย์ธรรมชาติบำบัด (ศูนย์ชี่กง อ.หยาง) เปิดเผยว่า การครอบแก้วสามารถกระตุ้นปรับชี่ในเส้นลมปราณให้เกิดการไหลเวียนสะดวก เพื่อไปกระตุ้นสมรรถนะของระบบอวัยวะตันและอวัยวะกลวงต่าง ๆ ช่วยให้เส้นลมปราณและอวัยวะสำคัญทำงานปกติ ไม่เพียงเท่านี้การครอบแก้วยังสามารรถเพิ่มภูมิต้านทาน และถือว่าเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เป็นเลิศในด้านการบำบัดอาการปวด นอกจากนี้เมื่อผนวกเข้ากับหลักเส้นลมปราณ การครอบแก้วจึงยิ่งเพิ่มพลังการบำบัดได้มากขึ้น โดยสามารถบำบัดหรือบรรเทาโรคไหล่ติด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ท้องผูก เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และปวดประจำเดือน เป็นต้น

ครอบแก้วเป็นเป็นวิธีที่ใช้ภาชนะถ้วยหรือแก้วเป็นอุปกรณ์บำบัด และใช้ความร้อนจากการเผาไหม้หรือวิธีอื่นระบายไล่อากาศภายในภาชนะออกให้เป็นสุญญากาศจนสามารถครอบภาชนะนั้นลงบนผิวหนังที่ต้องการบำบัด ความอุ่นร้อนภายในภาชนะจะกระตุ้นให้ผิวหนังปรากฏสีของเลือดคั่งอุดตัน เพื่อดูดพิษ ทะลวงเส้นลมปราณ และสลายเลือดคั่ง สาเหตุของโรคภัยนั่นเอง

โดยภาชนะที่เป็นที่นิยมคือ ถ้วยไม่ไผ่ ถ้วยแก้ว และถ้วยปั้มอากาศ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ถ้วยไม้ไผ่นั้นมีราคาถูก มีแรงดูดสูง ไม่แตกง่าย แต่ไม่โปร่งใส จึงไม่สามารถสังเกตสีผิวหนังภายในได้ ส่วนถ้วยแก้วนั้นใส สามารถกำหนดเวลาครอบแก้วจากการสำรวจผิวภายในขอบแก้วที่เกิดรอยเลือดคั่งได้โดยตรง สุดท้าย ถ้วยปั้มอากาศ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาอุปกรณ์การครอบแก้วชนิดหนึ่ง เพราะส่วนล่างของแก้วจะติดตั้งแป้นยางไว้ให้สำหรับไล่อากาศออกจากแก้วจนเป็นสุญญากาศ แก้วจึงดูดติดที่ผิวหนังบริเวณบำบัดเพื่อระบายไอโรคออกจากรูขุมขน อันเป็นเป้าหมายของการครอบแก้ว

วิธีครอบแก้วก็มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ แก้วกระพริบ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั้มอากาศ แต่ที่นิยมคือ แก้วนิ่ง แก้ววิ่ง และแก้วปั้มอากาศ แก้วนิ่งเป็นรูปแบบการบำบัดทั่วไป คือปล่อยให้แก้วครอบอยู่ที่เดิมเป็นเวลา 5 – 15 นาที แต่แก้ววิ่งจะเป็นการรูดแก้วไปทางด้านบน-ล่าง-ซ้าย-ขวา จนกระทั่งผิวมีสีแดงสดหรือเกิดรอยเลือดคั่ง เป็นวิธีสำหรับบำบัดอาการชา ชาจากพิษลมชื้น ปวดจากบาดเจ็บฟกช้ำภายนอก มีไข้ เป็นต้น สุดท้าย แก้วปั้มอากาศ เป็นรูปแบบที่สามารถปรับแรงดูดให้สอดคล้องกับอาการโรคและตำแหน่งบำบัดได้ตามความต้องการ

การครอบแก้วนั้นถึงจะเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ก็มีข้อควรระวัง คือควรเลือกบริเวณบำบัดที่มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์มีความยืดหยุ่น ไม่มีขน และโครงกระดูก รอยบุ๋มเข้าหรือนูนออก เพื่อหลีกเลี่ยงแก้วจะหลุดออก และห้ามครอบแก้วด้านซ้ายขวาลำคอซึ่งเป็นบริเวณของเส้นเลือดใหญ่ และควรดึงแก้วออกอย่างเบามือโดยใช้นิ้วกดที่กล้ามเนื้อปากแก้วให้อากาศเข้าไป แก้วก็จะหลุดออก ห้ามใช้แรงดึง หรือหมุนแก้วออก เพราะอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

นอกจากนี้ ภายหลังการครอบแก้วจะมีรอยแก้วที่สะท้อนให้ทราบถึงปัญหาของร่างกาย อาทิ รอยแก้วมีสีม่วงดำคล้ำ แสดงว่ามีอาการเลือดคั่งและได้พิษเย็น หากรอยมีสีม่วงอ่อนแกมสีเขียวเป็นก้อน แสดงว่าชี่อ่อนแอเลือดคั่ง ถ้ารอยมีสีแดงสด แสดงว่า หยินพร่องไฟแกร่ง หรือภายหลังบำบัดแก้ววิ่งบนแผ่นหลัง เกิดมีจุดเล็ก ๆ สีแดงจำนวนหนึ่งปรากฏใกล้ที่จุดฝังเข็มใด แสดงว่าอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับจุดนั้นผิดปกติ เป็นต้น

การครอบแก้วเป็นศาสตร์ทางการแพทย์แผนจีนที่มากประโยชน์ มีวิธีทำที่เรียนรู้ได้ง่าย มีอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพง และเห็นผลชัดเจน จึงทำให้การครอบแก้วยังคงเป็นที่นิยมเสมอมาถึงปัจจุบัน และแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นวิธีที่ประหยัด สะดวก ปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียง อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ผู้สนใจสามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรครอบแก้วบำบัดโรค ซึ่งจะมีการอบรมในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00-17.00 น. ณ สมาคมแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์ 6(DMS6) กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 0-2637-0121-2

สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณปาริชาติ สุวรรณ(ปุ้ม)บริษัท คอร์ แอนด์ พีค 0-2439-4600ต่อ8204

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net