กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--โกลว์ พลังงาน
ผลประกอบการไตรมาส 2 ตอกย้ำแนวโน้มผลประกอบการปี 2553 ที่สูงขึ้น โกลว์แจ้งผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 ดังนี้: - รายได้รวม 9,273 ล้านบาท - ผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (“EBITDA”) 2,470 ล้านบาท และ - กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) จำนวน 1,239 ล้านบาท ผลประกอบการสำหรับ 6 เดือนแรกของปี 2553 มีดังนี้: - รายได้รวม 18,318 ล้านบาท - ผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (“EBITDA”) 5,051 ล้านบาท และ - กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) จำนวน 2,600 ล้านบาท
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2553
ปัจจัยหลักมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ดี เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อม (“EBITDA”) สำหรับ 6 เดือนแรกปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.0 และกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.8 โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น
นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “ผลการประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจของกลุ่มบริษัท ยอดจำหน่ายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายปัจจุบันยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ที่ทำสัญญาเพื่อเริ่มซื้อพลังงานในปีนี้นั้น ก็มีปริมาณการซื้อทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ปริมาณไฟฟ้าและไอน้ำที่จำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมสำหรับ 6 เดือนแรก เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และร้อยละ 8 ตามลำดับ ในส่วนของอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ต้นทุนเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ เมื่อรวมกับอัตราค่าไฟฟ้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานทั้งจากไรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงจึงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ”
นายเอซ่า เฮสคาเน่น กล่าวต่อไปว่า “โรงไฟฟ้าถ่านหินโรงใหม่ขนาด 115 เมกะวัตต์ปัจจุบันอยู่ภายใต้การทดสอบการเดินเครื่องครั้งสุดท้ายและคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้เต็มกำลังภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2553 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อไป”
ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.735 บาทต่อหุ้น
นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “ด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งรวมไปถึงความสำเร็จในการดำเนินการจัดหาเงินทุน คณะกรรมการบริษัทประกาศให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2553 จำนวน 0.735 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ไป 0.70 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ในด้านการจัดหาเงินทุน บริษัทไม่ได้เพียงประสบความสำเร็จในการดำเนินการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2553 เท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้อีกจำนวน 4,000 ล้านบาทสำหรับความต้องการด้านเงินทุนของปี 2554 อีกด้วย ดังนั้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 บริษัทจึงต้องการเงินทุนในส่วนที่เหลืออีกเพียง 3,000 ล้านบาท สำหรับแผนการจัดหาเงินเพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนต่างๆของบริษัท”
เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 1,860 เมกะวัตต์ (ส่วนของโกลว์เท่ากับ 1,775 เมกะวัตต์) และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 967 ตันต่อชั่วโมง กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง GDF SUEZ Energy Europe & International เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นสายงานธุรกิจหนึ่งของกลุ่ม GDF SUEZ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDF SUEZ ได้ที่ เว็บไซต์ของบริษัท www.gdfsuez.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ ที่เว็บไซต์ www.glow.co.th
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-670-1500-1
Email: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit