กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--คอร์แอนด์พีค
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารผู้ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพิ่มศักยภาพการบริการและการบริหารความเสี่ยง เลือกโซลูชั่นของ แซส ซอฟท์แวร์ เพื่อพัฒนาระบบป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนการก่อการร้าย (AML: Anti-Money Laundering) ระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน (ALM: Asset and Liability Management) พร้อมทั้งระบบเครดิต สกอริ่ง (Credit Scoring)
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแข่งขันทางธุรกิจ และปัจจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง เป็นตัวผลักดันที่สำคัญ ที่ทำให้องค์กรหรือหน่วยงานต้องมีการปรับตัวอย่างมาก ไม่ใช่เพียงเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้บริหารทุกคนต้องการ คือ การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนและมีภูมิคุ้มกันให้องค์กรมีความแข็งแรง โดยพบว่า องค์กรส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จจะมีโครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศที่มีความยืดหยุ่น และสามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเศรษฐกิจ ที่ถดถอยไปทั่วโลกนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2551 ที่ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างๆ ได้รับผลกระทบ ในด้านหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) การบริหารสภาพคล่องของธนาคาร และกฎระเบียบที่บังคับใช้ในการดำเนินธุรกิจธนาคาร เช่น กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้จัดทำโครงการเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านการบริการ ภายใต้พันธกิจที่ต้องการเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร เพื่อให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยตามสมควรแก่อัตภาพ และสามารถตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า รัฐบาล และสังคมภายใต้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งตอบสนองกับนโยบายของรัฐบาลที่จะใช้อุตสาหกรรมภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวกลางที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศโครงการบริหารความเสี่ยงของธนาคารอาคารสงเคราะห์ประกอบด้วย โซลูชั่นการป้องกันการฟอกเงิน (AML: Anti-Money Laundering) เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมทางการเงินและรองรับกฎข้อบังคับต่างๆ ของสถาบันการเงิน โซลูชั่นด้านการจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน (ALM: Asset and Liability Management) เพื่อให้การบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังรวมถึง โซลูชั่นด้านเครดิต สกอริ่ง (Credit Scoring) ที่จะช่วยให้ธนาคารสามารถวิเคราะห์สถานะของผู้กู้ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยธนาคารได้เลือกโซลูชั่นทั้งหมดดังกล่าวจากบริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) เพราะมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับขยายได้ตามความต้องการด้านธุรกิจและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนทีมงานที่มีประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า โซลูชั่นการป้องกันการฟอกเงิน เป็นการติดตามการป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดไม่ว่าจะในด้านความปลอดภัย ความโปร่งใสในการดำเนินงาน และความน่าเชื่อถือของธนาคาร ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบและติดตามบัญชีลูกค้าทั้งในส่วนของบัญชีเดิมที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบัญชีใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธนาคารมีสินทรัพย์รวมกว่า 720,000 ล้านบาท โดยใน ปี 2552 ธนาคารมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นร่วม 170,000 บัญชี
ส่วนการนำระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สินของแซสมาใช้เป็นการบริหารจัดการด้านเงินฝาก สินเชื่อ และรวมถึงการลงทุนต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสมดุลกัน และยังส่งผลให้ธนาคารสามารถวัดและควบคุมความเสี่ยงทางการเงินที่ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้ ทั้งยังให้ผลตอบแทนอย่างเหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ ระบบเครดิต สกอริ่ง จะเป็นระบบที่ประกอบการพิจารณาวิเคราะห์สถานะของผู้กู้แต่ะละราย ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ โดยสามารถบ่งบอกระดับความเสี่ยงด้านเครดิต ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดวงเงินกู้ยืมและอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของวงเงินที่อนุมัติให้แก่ผู้กู้ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการรองรับมาตรฐานของ Basel II ได้อีกด้วย
“แซสมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ให้ความไว้วางใจกับโซลูชั่นทั้งสามระบบของแซส โดยแซสมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยที่คอยให้บริการอย่างใกล้ชิด อีกทั้งพร้อมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก ทั้งนี้แซสมีประสบการณ์ในการติดตั้งระบบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นสถาบันที่ให้บริการทางการเงินกว่า 55 แห่ง ใช้โซลูชั่นป้องกันการฟอกเงินของแซส เช่น แบนโก เดอ โอโร ยูนิแบงก์ (ฟิลิปปินส์), ธนาคารแห่งสหรัฐ (สหรัฐ), ธนาคารควีนส์แลนด์ (ออสเตรเลีย), บีบีแอนด์ที (สหรัฐ), แบนโก เดอ ชิลี (ชิลี), คอสทัล เฟเดอรัล เครดิต ยูเนียน (สหรัฐ), ธนาคารคอมมอนเวลธ์แห่ง ออสเตรเลีย (ออสเตรเลีย), ธนาคารเพื่อการพัฒนาฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์), ธนาคาอีออน (มาเลเซีย), เฟิรสต์ ซิติเซ็นส์ (สหรัฐ), ธนาคารฮานา (เกาหลี), ธนาคารฮันติงตัน (สหรัฐ), ธนาคารกุกมิน (เกาหลี), ธนาคาร ที่ดินแห่งฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์), ธนาคารทหารผ่านศึกฟิลิปปินส์ (ฟิลิปปินส์), กลุ่มการเงินแซมบา (ซาอุดิอารเบีย), บริษัท ซัมซุง ซีเคียวริตีส์ (เกาหลี) และธนาคารซอฟเวอเรน (สหรัฐ) เป็นต้น” นายทวีศักดิ์ กล่าว
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์และบริการการวิเคราะห์ธุรกิจ และเป็นผู้ค้าอิสระรายใหญ่ที่สุดในตลาดธุรกิจอัจฉริยะ (BI) ด้วยโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ส่งมอบให้ลูกค้าในรูปของ Integrated Framework ทำให้บริษัท แซส สามารถช่วยลูกค้าที่นำโซลูชั่นของแซสไปใช้แล้ว ได้มากกว่า 45,000 แห่งทั่วโลก ในการปรับปรุงประสิทธิภาพและส่งมอบมูลค่าผ่านการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีและรวดเร็วขึ้น นับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็น พลังแห่งการรอบรู้ (The Power to Know) ให้กับลูกค้าทั่วโลก
สื่อมวลชน กรุณาติดต่อ: คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น บริษัท คอร์แอนด์พีค [email protected] 02 439 4600 ext 8300 Visit the SAS Press Center www.sas.com/presscenter
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit