โตอะประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หวังก้าวสู่ผู้นำตลาด เพื่อผลักดันยอดขายทะลุ 330 ล้านอีก 4 ปี

09 Sep 2010

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--วิชัยเทรดดิ้ง

บริษัท โตอะ คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น และบริษัท วิชัยเทรดดิ้ง (1983) จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจ Audio Visual Lighting Specialist ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ร่วมหุ้นกันจัดตั้งบริษัท โตอะ อิเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อจัดจำหน่ายสินค้า TOA พร้อมบริการหลังการขายในประเทศไทย ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท มุ่งขยายตลาดในการเป็นผู้ดำเนินการแบบครบวงจรและมีประสิทธิภาพ โดยหวังสู่ยอดขายกว่า 200 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ และก้าวกระโดดสู่ยอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 330 ล้านบาทในอีก 4 ปี

นายกิตติศักดิ์ สพโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วิชัยเทรดดิ้ง (1983) จำกัด กล่าวว่า เศรษฐกิจในประเทศไทยปัจจุบันกลับฟื้นตัว มีสภาพคล่องทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ ผู้บริโภคในด้านอาคารสถานที่ได้เร่งปรับตัว เพื่อรองรับการดำเนินงานที่จะเติบโตในอนาคต ทั้งในส่วนของราชการ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และในส่วนของอาคารที่รองรับการจัดงานต่าง ๆ อีกมากมาย และยังด้านกลุ่มที่พักอาศัยที่หันมาหันมาให้ความสนใจในด้านเครื่องเสียงที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติในหัวเมืองใหญ่ในประเทศ อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ที่ต้องการใช้อุปกรณ์ภายในอาคารระดับฟรีเมี่ยม ดังนั้นตลาดด้านอุปกรณ์ เครื่องเสียงในอาคารประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ในตลาดภาพรวมอย่างแน่นอน

นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่อง และรองรับการใช้จากการกลุ่มลูกค้าด้วยศักยภาพการทำงานที่มีมาตรฐาน รวมทั้งมีสินค้าใหม่ๆ ในการรองรับความต้องการเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงมีแผนที่จะขยายธุรกิจและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองให้ได้เกินกว่าความต้องการของลูกค้า จึงได้เจรจาทางธุรกิจเพื่อจัดตั้งสำนักงานแบบครบวงจรในด้านเครื่องเสียง ชุดประชุม ระบบประกาศ ระบบประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ จากประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดจำหน่าย ส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการร่วมลงทุนของทั้งสองบริษัทจะทำให้สามารถขยายธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างกว้างขวาง เพื่อให้บรรลุทั้งสองเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ เราจึงได้ปรับกลยุทธ์ทางการขาย และเสริมสร้างระบบภายในองค์กรของเราให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากองค์ประกอบทั้ง 3 ด้าน คือ 1.การรักษาความปลอดภัย 2.ระบบข้อมูลสารสนเทศและการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ 3.ระบบเสียงคุณภาพมาตรฐานที่ได้การยอมรับในระดับสากล

“จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจเฉพาะด้านนี้มากว่า 20 ปีในประเทศไทย ทำให้บริษัท วิชัยเทรดดิ้ง(1983) จำกัด และบริษัท โตอะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่คร่ำหวอดในธุรกิจด้านนี้มากว่า 76 ปีในประเทศญี่ปุ่น จึงได้ตกลงร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท โตอะ อิเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นมาเพื่อดำเนินธุรกิจการขายในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับกลุ่มธุรกิจด้านอาคาร หอประชุม ทั้งในประเทศและประเทศใกล้เคียง โดยบริษัท โตอะ อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ตั้งเป้าว่าในช่วงปีนี้จะมีผลประกอบการอยู่ที่ 150 – 200 ล้านบาท แต่คาดหวังว่าในอีก 4 ปีข้างหน้านี้ เราจะสามารถผลักดันยอดขายเป็นสองเท่าของปัจจุบันเป็น 330 ล้านบาท”

มร.เคนจิ อิตานี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตอะ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โตอะมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจในระดับภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น, อเมริกา, ยุโรป, จีน และเอเซียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย โดยได้ปรับกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้าและบริการหลังการขายให้เหมาะสม และตรงกับความต้องการของตลาดในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ โตอะ คอร์ปอเรชั่น จึงได้ตัดสินใจร่วมหุ้นกับทางบริษัท วิชัยเทรดดิ้ง (1983) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจการขายในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ

มร.อิตานี กล่าวอีกว่า โครงสร้างของบริษัทนั้นเราเริ่มที่ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โดยมีผู้บริหารของบริษัทจากทางโตอะ ประเทศญี่ปุ่น จัดจำหน่ายสินค้าในแบรนด์ TOA ภายในประเทศไทย ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลัก ๆ คือ กลุ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ

การที่จะเป็นที่โดดเด่นในสายธุรกิจนี้อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจนี้ว่าได้ เป้าหมายของเราคือ การเข้าถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้อย่างดีที่สุด บริษัทฯ ได้มีความพยายามที่จะพัฒนาศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการจัดให้มีทีมงานคอยกำกับดูแล และรับผิดชอบกระบวนการต่างๆ ในการผลิตแต่ละขั้นตอนการผลิต โดยทำการวิจัย และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ และในอนาคต บริษัท โตอะ อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทำการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต มร.อิตานี กล่าวสรุป

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit