กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--IR PLUS
SALEE ตกลงขาย “เอสซี วาโด” ให้กับ นิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ NET ทั้งหมด 75% ในราคาหุ้นละ 100 บาท โดยประเมินจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเอสซี วาโด เมื่อสิ้นไตรมาส 3/52 ซึ่งมี Book value อยู่ที่หุ้นละ 52 บาท เผยเตรียมรับเงินเข้ากระเป๋ารวม 72 ล้านบาทประมาณเดือน ก.พ.นี้ วางแผน นำไปใช้เป็นทุนขยายกิจการในอนาคต ซึ่งปัจจุบันธุรกิจยังมีอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง
นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้บริษัทขายหุ้นที่ถือทั้งหมดในบริษัท เอสซี วาโด จำกัด ให้แก่ บริษัทนิเด็ค อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 720,001 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 75% ของทุนชำระแล้ว ให้แก่ NET ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 72,000,100 บาท สำหรับเกณฑ์ที่ใช้ในการกำหนดราคาขายในครั้งนี้จะพิจารณาขายในราคาไม่ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (Book Value) ของบริษัท เอสซี วาโด จำกัด ซึ่งตามงบการเงินสอบทานแล้ว ณ 30 กันยายน 2552 อยู่ที่ประมาณหุ้นละ 52 บาท “SALEE ตัดสินใจขายหุ้น “เอสซี วาโด” ทั้งหมด 75% ให้กับ NETในราคารวมทั้งสิ้น 72 ล้านบาท เพราะต้องการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจด้านชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ สำหรับเงินที่ได้รับในครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและขยายกิจการในอนาคต โดยคาดว่าจะได้รับเงินทั้งจำนวนประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้”
เขากล่าวต่อว่าการดำเนินธุรกิจของ เอสซี วาโด มีความผันผวนค่อนข้างสูง ดังนั้นการขายหุ้นออกไป จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับ SALEE ได้ และเมื่อมองในระยะยาวจะทำให้บริษัทมีความมั่นคงยิ่งขึ้น โดยสถานะของ SALEE คือการเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้ และเมื่อมีเม็ดเงินก้อนใหม่เข้ามาเพิ่ม จากการขายหุ้นในครั้งนี้ จะยิ่งทำให้บริษัทมีความพร้อมในการขยายธุรกิจยิ่งขึ้น โดยในปีนี้บริษัทและบริษัทในเครือมีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น อาทิ บริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด มีแผนซื้อเครื่องจักรเพิ่มอีก 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 50-60 ล้านบาท และในช่วงไตรมาสที่ 2/2553 SALEE ก็มีแผนซื้อเครื่องฉีดพลาสติกขนาดใหญ่ คิดเป็นมูลค่า 20-30 ล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต
บริษัท เอสซี วาโด จำกัด ประกอบธุรกิจ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากอลูมิเนียมสำหรับชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 96 ล้านบาท จากงบการเงิน ณ 30 กันยายน 2552 ที่สอบทานแล้ว มีมูลค่าหุ้นตามบัญชี (Book Value) จำนวน 51 ล้านบาท ในส่วนของผลการดำเนินงานสำหรับ 9 เดือนของ ปี 2552 มียอดขาย 254 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท (ซึ่งได้รวมกำไรจากการขายทรัพย์สินประมาณ 11 ล้านบาท)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) โทร. 02-5549394
E-mail : [email protected]
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit