กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--การบินไทย./p>
บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน ) นำอาหารบริการบนเครื่องการบินไทย เข้าร่วมในโครงการส่งเสริมการใช้คาร์บอนฟุตพริ้นท์บนผลิตภัณฑ์ ในประเทศไทย และได้รับการ รับรองใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ( Carbon Footprint ) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ( อบก. ) และเป็นสายการบินแรกของโลกที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จาก 2 เมนูนำร่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 ที่ผ่านมา คือ แกงมัสมั่นไก่ และแกงเขียวหวานไก่ เสิร์ฟ พร้อมข้าวหอมมะลิ และผัดผัก โดยแสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกปลดปล่อย ออกมาตลอดทั้งวงจรชีวิตของอาหารนั้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดภาวะโลกร้อน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน ) เปิดเผยว่า การบินไทยเป็นสายการบินแรกของโลก ที่ได้รับการรับรองการใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint ) กับอาหารไทยสำหรับบริการผู้โดยสารบนเครื่องบินและการบินไทยยังเป็น 1 ใน บริษัทฯ ที่ได้รับการรับรองเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากจำนวน 25 ผลิตภัณฑ์แรกของประเทศไทย นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรกในกลุ่ม อาเซียน ที่ขอรับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ด้วย ทั้งนี้ เมนูอาหารของครัวการบินไทยที่ให้บริการบนเครื่องบิน 2 เมนู นำร่อง ที่ได้รับการรับรองใช้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นเมนอาหารที่ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุด ได้แก่ เมนูแกงมัสมั่นไก่ เสริฟพร้อมข้าวหอมมะลิและผัดผัก สำหรับบริการ ผู้โดยสาร 1 ท่าน ( น้ำหนัก 250 กรัม ) ได้มีการคำนวณปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เท่ากับ 1.36 กิโลกรัมคาร์บอนไดอ๊อกไซต์เทียบเท่า ส่วนเมนูแกงเขียวหวานไก่ เสริฟพร้อม ข้าวหอมมะลิ และผัดผัก ( น้ำหนัก 250 กรัม ) มีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เท่ากับ 1.39 กิโลกรัมคาร์บอนไดอ๊อกไซต์เทียบเท่า
ปัจจุบัน เมนูอาหารไทยทั้ง 2 เมนูที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ให้บริการแก่
ผู้โดยสารของการบินไทย ในเที่ยวบินขาออกจากกรุงเทพฯ สู่ ยุโรป ออสเตรเลีย และ
นิวซีแลนด์ นอกจากนี้ในเมนูอาหารบนเครื่องได้มีการอธิบายเรื่อง คาร์บอนฟุตพริ้นท์ และนโยบายของบริษัท ฯ ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้โดยสารได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการลดก๊าซเรือนกระจก และการลดปัญหาสภาวะโลกร้อนด้วย คาร์บอนฟุตพริ้นท์ ( Cabon Footprint ) จะแสดงถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูก ปลดปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การผลิต การขนส่งจนถึงผู้บริโภค การใช้งาน และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยแสดงผลต่อหน่วย ผลิตภัณฑ์ เพื่อจะนำไปสู่การลดการใช้พลังงาน และใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด นับเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และยังถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และช่วยลดการเกิดภาวะโลกร้อน อีกทั้งในปัจจุบันนี้ ผู้โดยสารมีความตื่นตัวและสนใจรับรู้ในเรื่องสภาวะแวดล้อม ดังนั้นเมนูอาหารไทยที่ได้รับการรับรองฉลากฟุตพริ้นท์จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้โดยสารของการบินไทยให้ใส่ใจกับการลดสภาวะโลกด้วย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit