นักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นให้ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญ

23 Feb 2010

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--ตลท.

วันนี้ (23 ก.พ. 2553) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ เจบิค (The Japan Bank for International Cooperation - JBIC) จัดสัมมนา “The 2009 JBIC Survey Report on Overseas Business Operations by Japanese Manufacturing Companies” เพื่อนำเสนอผลการสำรวจและแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทย และเสวนาในหัวข้อ “Thailand: A Promising Country for Foreign Companies” ซึ่งมีผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการไทย และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร่วมกับนักลงทุนญี่ปุ่น

นายซูสุมุ อุชิดะ เศรษฐกรอาวุโสและหัวหน้าสำนักงานเจบิคประจำประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยสรุปผลการสำรวจประจำปี 2552 ว่า “ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่นในลำดับต้นๆ เป็นลำดับที่ 4 รองจาก จีน อินเดีย และเวียดนาม โดยเป็นการเลื่อนขึ้นจากลำดับที่ 5 ในปี 2551 เพราะมีศักยภาพของตลาดในประเทศ อัตราค่าจ้างต่ำ และการเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญ โดยควรเร่งแก้อุปสรรคบางประการ เช่น สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรในระดับบริหาร และเสถียรภาพการเมือง เป็นต้น”

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า “การร่วมเผยแพร่ผลงานวิจัยคุณภาพและผลการสำรวจที่สำคัญนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการส่งเสริมธุรกรรมการค้าและการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งจะมีส่วนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทย ในการเป็นคู่ค้าและฐานการลงทุนที่สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างประเทศต่อไป”

จากข้อมูลสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย ญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าและผู้ลงทุนที่สำคัญในประเทศไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นสูงเป็นลำดับที่สองรองจากสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าการส่งออกไทยไปญี่ปุ่นในปี 2552 มีมูลค่ารวมสูงถึง 15.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีฐานะการลงทุนโดยตรงในไทยสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2552 มีมูลค่าการลงทุนโดยตรงสุทธิในประเทศไทยสูงกว่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ