กลุ่มบริษัทโกลว์แจ้งผลประกอบการรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ

12 May 2010

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--โกลว์ พลังงาน

-- ผลประกอบการรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ -- ความต้องการกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นและยอดขายใหม่ -- ความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2553

ผลประกอบการรายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ โกลว์แจ้งผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 ดังนี้: - รายได้รวม 9,044 ล้านบาท - ผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (“EBITDA”) 2,580 ล้านบาท และ - กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) สำหรับไตรมาส 1 ของปี 2553 จำนวน 1,361 ล้านบาท บริษัทบันทึกกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (NNP) รายไตรมาสสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2537

ความต้องการกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นและยอดขายใหม่

ผลกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อม (“EBITDA”) ของไตรมาสที่ 1 ปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 และร้อยละ 72 จากไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 ทั้งนี้กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“NNP”) เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 และร้อยละ 128 จากไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 มี โดยมีปัจจัยหลักมาจากความต้องการของลูกค้าอุตสาหกรรมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายใหม่ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น

นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “ผลการประกอบการไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 แสดงให้เห็นถึงผลกำไรและการเจริญเติบโตของกลุ่มบริษัทที่ยังดำเนินต่อไป ทั้งนี้ปัจจัยต่างๆ ทางธุรกิจยังคงเป็นไปในทิศทางบวกสำหรับบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ได้เริ่มเปิดดำเนินการโครงการขยายธุรกิจใหม่ของตน ทั้งนี้อัตรากำไรจากการดำเนินงานทั้งจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างคงที่”

ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินการของโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 115 เมกะวัตต์ทำให้บริษัทต้องลดการจัดส่งไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. เพื่อให้กำลังการผลิตมีเพียงพอสำหรับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ อย่างไรก็ดีรายได้ที่ลดลงจากการลดการจัดส่งไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ส่วนใหญ่จะถูกชดเชยโดยรายได้จากเงินชดเชยความล่าช้าจากการก่อสร้างที่ได้รับจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการ ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะสามารถเปิดให้ดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ (CFB 3) ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 นี้

ความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2553

สำหรับด้านการเงิน นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเราประสบความสำเร็จในการดำเนินการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2553 โดยการออกหุ้นกู้จำนวน 9,000 ล้านบาทเมื่อเดือนที่ผ่านมาด้วยเงื่อนไขของอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการกู้ยืมที่ดีต่อบริษัทมาก นอกจากนี้บริษัทยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ยืมธนาคารอีกจำนวน 4,000 ล้านบาท โดยสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนได้แล้วสำหรับความต้องการเงินทุนของบริษัทในปีหน้า ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้บริษัทสามารถลดความเสี่ยงด้านการจัดหาเงินทุนที่อาจเกิดขึ้นแต่ยังรวมถึงการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนสำหรับโครงการต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เนื่องจากต้นทุนในการจัดหาเงินที่ได้รับมีอัตราต่ำกว่าเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้มาก”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ

นายณัฐพรรษ ตันบุญเอก

บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)

โทร. 02-670-1500-1

Email: [email protected]