กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. กล่าวโทษนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน นายภิรมย์ ปริยวัต (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อและชื่อสกุลเป็น นายศุทธา ปริยวัฒน์) นายสนทยา น้อยเจริญ และนายนพ สัตยาศัย ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการและรับผิดชอบในการดำเนินงานและการจัดการทรัพย์สินของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบันบริษัทนี้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทแคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ CEN) ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2553 เนื่องจากได้ร่วมกันกระทำทุจริตผิดหน้าที่ และยักยอกเงินของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้เพื่อตนเองหรือผู้อื่นในระหว่างปี 2547 – 2548 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ เป็นเงินรวม 580.1 ล้านบาท อันเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 307 มาตรา 311 มาตรา 312 มาตรา 313 และมาตรา 314 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
นายสุริยาได้ร่วมกับนายภิรมย์ และนายสนทยา ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ ยักยอกเงินออกจากบริษัทระยองไวร์ อินดัสตรี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ โดยอำพรางผ่านสัญญาว่าจ้างให้บริษัทยูเนียนแก๊ส แอนด์ เคมิคัลล์ จำกัด จัดหาวัตถุดิบล่วงหน้า จำนวน 80.1 ล้านบาท ในปี 2547 ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้เพื่อตนเองและบุคคลอื่น และก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ อีกทั้งบันทึกบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง หรือลงข้อความเท็จในบัญชีหรือเอกสาร
นอกจากนี้ นายสุริยาได้ร่วมกับนายนพ ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ ยักยอกเงินออกจากบริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ โดยอำพรางผ่านการให้เงินกู้ยืมแก่บริษัทสยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) จำนวน 500 ล้านบาท ในปี 2548 ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้เพื่อตนเองและบุคคลอื่น และทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทอีสเทิร์นไวร์ฯ เช่นกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit