สสปน. เผยผลกระทบอุตสาหกรรมไมซ์ จากวิกฤตการณ์ทางการเมือง เร่งหารือภาคเอกชนระดมความเห็น “มาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ไทย”

23 Apr 2010

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--สสปน.

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือสสปน. เผยผลกระทบอุตสาหกรรมไมซ์ จากวิกฤตการณ์ทางการเมือง คาดจำนวนนักเดินทางธุรกิจกลุ่มไมซ์ ปีนี้ลดลงจากปีที่ผ่านมากว่า 68,200 คน สูญเสียรายได้กว่า 13,500 ล้านบาท เร่งหารือระดมความเห็นภาคเอกชนอุตสาหกรรมไมซ์กว่า 36 รายทั่วประเทศ สรุปแนวทางมาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์จากผลกระทบของวิกฤตการณ์ทางการเมืองเสนอต่อครม.

นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือสสปน. กล่าวว่า “จากปัญหาการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อและต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งจากเดิมในปีนี้ สสปน. ตั้งเป้าตัวเลขเติบโตทั้งด้านรายได้และจำนวนนักเดินทางธุรกิจไมซ์กว่า 25 % และยอมรับว่าอุตสาหกรรมไมซ์เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีและเป็นไปตามเป้า แต่จากผลกระทบจากผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองที่เกิดขึ้น ได้มีการประเมินตัวเลขความเสียหาย ณ ปัจจุบัน ซึ่งคาดว่ารายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์จะลดลงกว่า 30 % และจำนวนนักเดินทางธุรกิจไมซ์จะลดลงกว่า 11 % เมื่อเทียบกับในปี 2552 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันสสปน. ปรับเป้าในปีนี้สำหรับจำนวนนักเดินทางธุรกิจไมซ์เป็น 551,800 คน และจำนวนรายได้เป็น 31,500 ล้านบาท” เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งในด้านการยกเลิกและการเลื่อนการจัดประชุมในประเทศไทย ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการที่ต้องทำการส่งเสริมการตลาดเพิ่มขึ้น ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายของอุตสาหกรรมไมซ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราการเติบโตของจำนวนและรายได้ของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่ลดลง สสปน. จึงเร่งระดมความคิดเห็นจากภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์กว่า 36 ราย ร่วมหามาตรการฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ อาทิ กลุ่มสมาคม โรงแรม ศูนย์ประชุม และสายการบิน เป็นต้น

นายอรรคพล กล่าวเสริมว่า “เบื้องต้น สสปน. เร่งปรับแผนการภายใต้งบประมาณปี 2553 จำนวน 200 ล้านบาท โดยเสนอแนวทางต่อที่ประชุมภาคเอกชน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมไมซ์เร่งด่วน การสร้างโอกาสทางการตลาดเพื่อการขาย และการฟื้นฟูภาพลักษณ์อุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย โดยมีโครงการภายใต้แผนงานครอบคลุมทั้งด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย

การสื่อสารและประชาสัมพันธ์ รวมถึงการศึกษาให้ความรู้เพื่อการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันดึงงานและจัดงาน ตลอดจนการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพต่อข้าราชการและผู้ประกอบการ เพื่อรักษาจำนวนและรายได้จากนักเดินทางกลุ่มไมซ์ไม่ให้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา” นอกจากนี้ สสปน. เตรียมของบฉุกเฉินช่วยเหลือผู้ประกอบการและฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์เร่งด่วนเพิ่มเติมอีกกว่า 200 ล้านบาท โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ ด้านกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไมซ์โดยตรง ได้แก่ แผนการให้เงินสนับสนุนชดเชยสำหรับคณะผู้เดินทางเข้ามาประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การออกโรดโชว์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐระดับชาติเพื่อสื่อความสำคัญของการสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์และการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเสนอมาตรการนำค่าใช้จ่ายของการจัดการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือการจัดการฝึกอบรมโดยนำมาหักภาษีรายได้ของบริษัทที่จัดมาหักภาษี 300% จากเดิมที่หักได้ 200% โดยใช้งบประมาณกว่า 110 ล้านบาท

ด้านกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ การออกแถลงการณ์จากรัฐบาลเพื่อยืนยันความเชื่อมั่นต่อการเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายในการจัดประชุมและนิทรรศการ การทำประกันชีวิตและทรัพย์สินสำหรับนักเดินทางธุรกิจกลุ่มไมซ์ และโครงการให้การสนับสนุนเพื่อดึงงานประชุมนานาชาติมาจัดในประเทศไทย ในภาพรวมอีกกว่า 90 ล้านบาท

นายอรรคพลกล่าวทิ้งท้ายว่า “จากความร่วมมือกับภาคเอกชนระดมความคิดเห็น หามาตรการและแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ร่วมกันในการประชุมครั้งนี้ จะนำแนวทางและข้อเสนอจากที่ประชุมมาปรับแผนและเสนอเป็นข้อสรุปมาตรการและแนวทางร่วมกันในการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมไมซ์ ต่อครม. เพื่อการพิจารณาต่อไป”

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ

(องค์การมหาชน)

คุณปาริฉัตร เศวตเศรนี โทร 0-2694-6094

[email protected]

คุณอริสรา ธนูแผลง โทร 0-2694-6095

[email protected]