กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--เบนซ์อมรรัชดา
เบนซ์อมรรัชดาฉลองครบรอบ 44 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ส่งแคมเปญพิเศษรถยนต์รุ่นใหม่จำหน่ายในราคาต้นทุน 10 วัน ๆ ละ 3 คัน ในเทศกาลอ็อคโทเบอร์เฟสต์ตั้งแต่วันที่ 13 – 22 พฤศจิกายนนี้ หวังกระตุ้นยอดจำหน่ายปลายปี พร้อมปรับเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้ทะลุ 300 คัน
นางสาววรรณภา ตั้งบรรยงค์ กรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์อมรรัชดา จำกัด เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการร่วมฉลองครบรอบ 44 ปี ของเบนซ์อมรรัชดาอย่างยิ่งใหญ่ บริษัทได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อขอบคุณลูกค้าอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการขนรถยนต์รุ่นใหม่มาจำหน่ายในราคาต้นทุน เป็นครั้งแรกของวงการรถยนต์มือสอง ระหว่างงานเทศกาลอ๊อคโทเบอร์เฟสต์ของบริษัทในปีนี้
งานดังกล่าวจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 – 22 พฤศจิกายน 2552 โดยแคมเปญพิเศษ Best Time Great Bonus มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่น C-Class E-Class และ S-Class รุ่นใหม่ในราคาต้นทุน เพียงวันละ 3 คันเท่านั้น ซึ่งลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ดังกล่าวจะยังได้รับสิทธิพิเศษในการดูแลและบำรุงรักษาตามข้อตกลงของเบนซ์อมรรัชดาทุกประการ
สำหรับราคาจำหน่ายรถยนต์ในแคมเปญดังกล่าว C-Class W204 ราคารถใหม่ 2.69 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 2.48 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 2.38 ล้านบาท C-Class W203 ราคารถใหม่ 2.69 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 1.78 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 1.6 ล้านบาท
E-Class W211 NGT ราคารถใหม่ 3.7 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 2.95 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทเป็นเจ้าของได้ในราคา 2.85 ล้านบาท E-Class W211 E240 ราคารถใหม่ 4.0 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 2.55 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทเป็นเจ้าของได้ในราคา 2.4 ล้านบาท ส่วนรุ่น CDI ราคารถใหม่ 3.7 ล้านบาท ราคาในตลาด 1.9 ล้านบาท ลดพิเศษเหลือเพียง 1.7 ล้านบาท
และ S-Class W221 ราคารถใหม่ 7.2 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 6.1 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 5.88 ล้านบาท ขณะที่ S-Class W220 ราคารถใหม่ 6.3 ล้านบาท ราคาซื้อขายในตลาด 3.0 ล้านบาท ลูกค้าของบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 2.7 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นราคาจำหน่ายที่คุ้มค่ามากที่สุดในตลาด
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อรถคันอื่นในงานจะได้รับส่วนลดเงินดาวน์สูงสุด 1 แสนบาท เงินดาวน์ต่ำเพียง 10% ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 3.65% พร้อมรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 1,500 บาทรวมถึงจะรับการซ่อมค่าแรงฟรีตลอดอายุการใช้งาน เปลี่ยนอะไหล่สำคัญฟรีสูงสุด 15,000 กม. หรือ 1 ปี บริการ Amorn Roadside Service ฟรี 1 ปี และพิเศษวางเงินจอง 1 แสนบาท รับทองคำหนัก 1 บาททันที “เราจัดแคมเปญพิเศษขึ้นมาสำหรับลูกค้าของเบนซ์อมรรัชดา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการทำตลาดรถยนต์มือสองระดับหรู ที่นำรถมาจำหน่ายในราคาต้นทุน ซึ่งเราหวังว่าลูกค้าจะให้ความสนใจกับแคมเปญดังกล่าว และเป็นการสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์มือสองระดับหรูในช่วงเวลาที่เหลือของปี”
สำหรับแนวโน้มของตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้ หากดูจากตัวเลขการจดทะเบียนโอนรถยนต์มือสอง รย.1 ทุกยี่ห้อ* จะพบว่าความต้องการรถยนต์มือสองในตลาดโดยรวมเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง และความต้องการหลักจะอยู่ที่รถยนต์ระดับราคาไม่แพงมากนัก ขณะที่กลุ่มรถยนต์มือสองระดับหรูที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงและรวดเร็วกว่ารถยนต์ทั่วไป
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองระดับหรูจะหดตัวมากกว่าการหดตัวของตลาดรถยนต์ใหม่ และอาจจะหดตัวมากถึง 50% เนื่องจากลูกค้าชะลอการซื้อตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการเมืองที่ไม่มั่นคง ประกอบกับกลุ่มรถยนต์หรูหราก็ไม่ถือเป็นสินค้าจำเป็นที่ลูกค้าจะต้องตัดสินใจซื้อ แต่สามารถรอให้เกิดความเชื่อมั่นก่อนได้
สำหรับภาพรวมของเบนซ์อมรรัชดานั้น ในช่วงต้นปีได้ตั้งเป้าหมายการจำหน่ายที่เดือนละ 20 คัน ลดลงประมาณ 20% เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการประเมินตามสถานการณ์ของตลาด และสามารถทำยอดจำหน่ายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้
“หลังจากที่เราตัดสินใจออกแคมเปญในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ก็คาดว่าลูกค้าน่าจะให้การตอบรับที่ดีและทำให้เรามียอดจำหน่ายที่ดีขึ้น ทำให้เราตัดสินใจปรับเป้าหมายการจำหน่ายในปีนี้เพิ่มอีกเล็กน้อยเป็น 300 คัน ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน ในช่วงเวลาที่เหลือของปี และทำให้เราประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมากในปีนี้”
นางสาววรรณภาประเมินภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองระดับหรูหราในปี 2553 ว่าหากการเมืองและเศรษฐกิจมีความมั่นคง ก็คาดว่าตลาดรถยนต์มือสองคงไม่หดตัวจากในปีนี้ ขณะที่บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายให้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากปีนี้ จากโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน สำหรับโครงการใหม่ ๆ ที่จะขยายตามมาในอนาคต จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมด
*หมายเหตุ : ข้อมูลจาก ฝ่ายสถิติกลุ่มวิชาการและวางแผน สำนักจัดระบบการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก ระบุสถิติการโอนรถยนต์มือสองในหมวด รย.1 หรือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่ประกอบด้วย เก๋งตอนเดียว,เก๋งสองตอน,เก๋งสองตอนแวน และนั่งสองตอนท้ายบรรทุกไว้ดังต่อไปนี้ :-
เดือนตุลาคม 2549 – กันยายน 2550 มีจำนวน 324,038 คัน
เดือนตุลาคม 2550 – กันยายน 2551 มีจำนวน 394,839 คัน (เพิ่มจากปีก่อนหน้า 70,801 คัน) และ
เดือนตุลาคม 2551 – กันยายน 2552 มีจำนวน 405,856 คัน (เพิ่มจากปีก่อนหน้า 11,017 คัน)
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit