กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--ธอมัสไอเดีย
ธอมัสไอเดียเผยผลงานอินเตอร์แอคทีฟไทยคว้า 23 รางวัลทั่วโลกในปีนี้ แนวโน้มดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งปีหน้าเข้มข้น เน้นรูปแบบใหม่การตลาดแบบอินเตอร์แอคทีฟและโซเชียลมีเดียที่นักการตลาดต้องก้าวให้ทัน
ธอมัสไอเดีย อินเตอร์แอคทีฟเอเยนซี่ชั้นนำของไทย เผยหลังคว้า 23 รางวัลจากเวทีประกวดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งระดับโลก ผลงานสร้างสรรค์โดยคนไทย 100% เป็นที่ยอมรับ เตรียมเร่งเครื่องตามนโยบายสู่การเป็นอินเตอร์แอคทีฟเอเยนซี่ระดับอาเซียนในปีหน้า พร้อมชี้แนวโน้มการโฆษณาผ่านอินเตอร์แอคทีฟมีเดียของไทย จะเพิ่มความเข้มข้น ด้วยรูปแบบกลยุทธ์ออนไลน์และฟังก์ชั่นเร่งยอดขายให้การตลาดมากขึ้น และคาดว่าส่วนแบ่งงบประมาณดิจิตัลมาร์เก็ตติ้งจะเพิ่มขึ้นเป็น 2% ได้ในปีหน้า ขึ้นอยู่กับธุรกิจ นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทันกระแสเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟและการตลาดแบบโซเชียลมาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงองค์กรที่ต้องการเสริมภาพลักษณ์และขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด เปิดเผยว่า มาตรฐานงานด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งไทยสามารถพัฒนาถึงขีดระดับสากลแล้ว หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีนี้ เพราะได้รับรางวัลสูงสุดถึง 23 รางวัลจาก 6 เวทีระดับโลกด้านดิจิตอลมีเดียโดยเฉพาะ อาทิ WebAward, W3 Awards, Horizon Interactive Awards, Communicator Awards, Summit Creative Awards และ Interactive Media Awards ซึ่งเป็นเวทีประกวดผลงานสื่ออินเตอร์แอคทีฟระดับสากลที่ได้รับการยอมรับจากเอเจนซี่และนักการตลาดชั้นนำของโลก
“ผลงานที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เกิดจากความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาสื่อดิจิตอล เทคโนโลยีทำนำมาใช้ในการพัฒนา กลยุทธ์การสื่อสารที่เชื่อมโยงด้านแบรนดิ้งและการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกับนักการตลาดที่มีโจทย์ชัดเจน ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมสื่อนิวมีเดียนี้ให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ สิ่งที่เราภาคภูมิใจมากคือผลงานที่ได้รับรางวัลบางชิ้นเป็นภาษาไทย นั่นคือ เราก้าวผ่านอุปสรรคทางภาษาไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงการยอมรับมาตรฐานผลงานของคนไทยในเวทีระดับโลก ทำให้เรามีความมั่นใจในการรุกสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ในฐานะอินเตอร์แอคทีฟเอเยนซี่ชั้นนำที่มีความชำนาญทั้งด้านเทคโนโลยีเชิงลึกและการตลาดออนไลน์ หลังจากที่ชะลอการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมในต้นปีหน้ามีสัญญาณที่ดีขึ้นก็จะเร่งโครงการขยายตลาดในระดับอาเซียนได้ เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนนักการตลาดทั่วโลกมีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี อุปกรณ์สื่อสาร การเข้าถึงและพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ก้าวเข้าสู่ยุคอินเตอร์แอคทีฟมาระยะหนึ่งแล้ว โดยปัจจุบันมีปริมาณผู้ใช้สื่ออินเตอร์เน็ตทั่วโลกมากกว่า 1,700 ล้านคน1 เฉพาะเอเชียสูงถึง 700 ล้านคน หรือ 42%ของคนใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก1”
นอกจากนี้ นางสาวอุไรพรยังได้เปิดเผยข้อมูลแนวโน้มการโฆษณาผ่านสื่ออินเตอร์แอคทีฟมีเดีย หรือ นิวมีเดียของนักการตลาดไทยว่า “การแข่งขันในกลุ่มสินค้าเดียวกันจะเพิ่มความเข้มข้นด้วยรูปแบบกลยุทธ์ออนไลน์และฟังก์ชั่นเร่งยอดขายให้การตลาดมากขึ้น เนื่องจากงบประมาณการซื้อสื่อสำหรับช่องทางดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งของไทย ส่วนใหญ่จะแฝงอยู่กับสื่อโฆษณาโดยรวมหรือผ่านรูปแบบการทำงานของเอเยนซี่ ดังนั้นจึงยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดถึงมูลค่าของสื่อนี้โดยเฉพาะ หากพิจารณาจากมูลค่าจากสื่อโดยรวมที่มีอยู่ราว 9 หมื่นกว่าล้านบาท คาดว่าสัดส่วนของสื่อดิจิตอลนี้น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเป็น 2% หรือ 1,800 ล้านบาทในปีหน้าได้ไม่ยาก เมื่อเทียบกับสัดส่วนของความเคลื่อนไหวของกลุ่มสินค้าหลักที่หันมาเน้นเรื่องกลยุทธ์ออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแอพพลิเคชั่นเว็บไซต์หลักขององค์กร การสร้างแคมเปญไซต์ การพัฒนาโมบายอินเตอร์เน็ต และพฤติกรรมเปิดรับข้อมูลผ่านสื่อดิจิตอลของผู้บริโภคซึ่งใช้เวลาต่อวันกับสื่อออนไลน์สูงมากขึ้น รวมไปถึงสังคมออนไลน์ อย่างเฟสบุ้กที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านคน2และมียอดสมาชิกคนไทยรวมกันสูงถึง 2 ล้านคน3 จากยอดคนไทยที่ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 15 ล้านคน4 ”
ส่วนเทรนด์ใหม่ของดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในต้นปีหน้านั้น นางสาวอุไรพร สรุปประเด็นความเคลื่อนไหวทั้งในและต่างประเทศที่น่าจับตามอง ว่าจะเป็น 7 กลยุทธ์ออนไลน์ที่นักการตลาดต้องพร้อมรับปี 2010 ได้แก่
1. โซเชียลมีเดีย Social Media เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ของผู้บริโภคหลังจากที่รุกคืบเข้ามาในกระแสวงการสื่ออย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Facebook, Twitter และ Blog ต่างๆ ซึ่งได้ผลเร็วและโหมแรงปากต่อปากในกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี มียอดผู้ใช้งานโดยรวมสูงกว่าคนดูโทรทัศน์ทั่วโลก คอนเทนต์ที่ผู้ใช้แชร์บน Facebook มากกว่า 1 พันล้านคอนเทนต์ในหนึ่งสัปดาห์5 อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องระวัง คือ สื่อนี้ยากต่อการควบคุม และแนวโน้มในปีหน้า จะมีจำนวนของ User Generate Content หรือ UGC มากขึ้น ยิ่งทำให้การวางกลยุทธ์สื่อนี้เข้มข้นและต้องมีระบบการรองรับที่ดีด้วย
2. แบรนด์จะให้ความสำคัญในการสร้าง Customer Experience และ Customer Engagement กับผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคสามารถใช้เวลาเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลนานกว่า TVC และเนื่องจากเป็นสื่อที่มีผู้บริโภคสามารถโต้ตอบได้โดยตรง ทำให้สามารถรับรู้พฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูล (Customer Journey) ได้เป็นอย่างดีโดยไม่จำกัดเวลา เราคงจะเห็น Web Video ในรูปแบบ Webisode รวมถึงการออกแบบแคมเปญที่เน้นการรับรู้ของแบรนด์มากขึ้นในปีหน้า แคมเปญไซต์ที่สร้างการรับรู้ในแบรนด์ควรจะสามารถดึงดูด (Engage) ผู้ใช้ไว้ให้ได้อย่างน้อย 3-6 นาที นักการตลาดในอเมริกาถึง 48% มีแนวโน้มให้ความสำคัญในส่วนนี้มากขึ้น6
3. การวัดผลสำเร็จของแคมเปญ (ROI) จะชัดเจนและสนับสนุนการวางกลยุทธ์ของนักการตลาด ซึ่งรวมถึงการวิธีการวัดต่างๆ อาทิ จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น โอกาสในการขาย ยอดขาย การสร้างการรับรู้ในสินค้า และการสร้างความต้องการในการซื้อ ตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการทำดิจิตัลมาร์เก็ตติ้งได้แก่ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ประกาศว่ายอดขาย 15% จากมูลค่าที่ตั้งไว้ในปีนี้ 8,000 ล้านบาทมาจากช่องทางอินเตอร์เน็ต7
4. ยุคใหม่ที่ท้าทายของ Mobile Internet และ Mobile Marketing ด้วยเทคโนโลยี 3G และอินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ขยายตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนตามอย่างรวดเร็ว และการเข้าถึงได้ง่าย เครื่องไอโฟนและแอพพลิเคชั่นของค่ายมือถือต่างๆ จากสถิติ 40% ของผู้ใช้ Mobile Internet ใช้เว็บอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่ออาทิตย์8 จะเห็นว่าในต้นปีหน้าการแข่งขันของตลาดบนสื่อนี้จะทวีความรุนแรงมากกว่าปีนี้แน่นอน รวมทั้งการทำตลาดออนไลน์ผ่านทาง Mobile Internet จะทำให้นักการตลาดหันมาให้ความสำคัญต่อการสร้าง Mobile Internet Site กันมากขึ้น
5. ฐานข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ CRM คลังสมบัติที่มีค่า ข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าการตลาดขององค์กร เพื่อให้การสร้างช่องทางสื่อสารระหว่างลูกค้าและแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการกำหนดกลยุทธ์ในการออกแบบระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยีสนับสนุนที่เชื่อมโยง กิจกรรมทางการตลาดและการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
6. Email Marketing เสริฟข้อมูลด่วนด้วยต้นทุนต่ำ กลยุทธ์ในการชักจูงให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาลงทะเบียนรับข่าวสารทางอีเมล์ เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เพราะเป็นกลยุทย์ทรงพลังที่เข้าถึงผู้บริโภคด้วยงบประมาณต่ำ และยังช่วยให้เกิดการกระจายข่าวในวงกว้างต่อไปได้ จึงต้องมีการวางกลยุทธ์ในการออกแบบ ทดสอบ และการขออนุญาต เพื่อให้การทำ eDM (Electronic Direct Mail) ให้ผลที่ดีและต่อเนื่อง เฉพาะในปี 2552 นี้พบจำนวนอีเมล์ที่ส่งถึงผู้รับที่ลงทะเบียนในสหรัฐและแคนาดาสูงถึง 79%9
7. Search Engine Optimization คอนเทนต์เป็นคีย์หลัก การสร้างเว็บไซต์และเนื้อหา จะต้องคิดถึงกลยุทธ์ของ SEO ควบคู่ไปด้วย ต้องมีการพัฒนาเนื้อหาและระบบสนับสนุนตลอดเวลา เพราะยิ่งการแข่งขันในตลาดสูงจะยิ่งทำให้มีการแย่งช่องทางสื่อสารนี้มากขึ้นไปด้วย
ในฐานะอินเตอร์แอคทีฟเอเยนซี่ชั้นนำของไทยอย่างธอมัสไอเดียชี้ว่า ในปี 2553 ที่จะถึงนี้ ทั้งนวัตกรรมใหม่ๆ จากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์-การสื่อสาร และผู้ให้บริการเครือข่ายจะมีการแข่งขันสูงขึ้น อาทิ เทคโนโลยี 3G และอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ส่งผลให้การใช้สื่อออนไลน์ของผู้บริโภคมีตัวเลขขยับขึ้น เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทันกระแสเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟและโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นความท้าทายและต้องคำนึงถึงข้อจำกัดในการวางกลยุทธ์ออนไลน์ที่เหมาะสมในช่วงเวลาแตกต่างกัน ที่ต้องตอบโจทย์ทางธุรกิจได้ และระบบแอปพลิเคชั่นอินเตอร์แอคทีฟ โซลูชั่นต่างๆ ควรรองรับการนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้งานควบคู่ไปกับการเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรได้ด้วย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงองค์กรที่ต้องการเสริมภาพลักษณ์และขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
นางสาวอุไรพรฝากถึงเจ้าของธุรกิจส่งออกด้วยว่า “ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและต่างประเทศเริ่มสั่งซื้อสินค้า บริษัทที่ดำเนินธุรกิจส่งออกของไทยเองควรปรับตัวและใช้กลยุทธ์พัฒนาระบบเว็บไซต์เชิงดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เพราะช่องทางออนไลน์เปรียบได้กับหน้าร้าน หากเรามีการวางระบบ ออกแบบ เนื้อหาและสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นที่ดีจะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า ปิดการขาย วางแผนการผลิตและระบบขนส่งได้เร็วขึ้น”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด
โทร. 08-3027-9129 หรือ 0-2714-7255
1 ที่มา http://www.internetworldstats.com/stats.htm
2 ที่มา http://www.facebook.com/press/info.php?statistics
3 ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2009/10/30/news_29734672.php?news_id=29734672
4 ที่มา http://www.thaiitwatch.org/autopagev4/show_page.php?topic_id=229&auto_id=4&TopicPk
5 ที่มา http://www.facebook.com/press/info.php?statistics
6 ที่มา http://www.ana.net/news/content/1750
7 ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/property/property/20091105/84872/เพอร์เฟคดึงผู้กำกับหนังผี-5-แพร่งหันสร้างหนังรักปั้นแบรนด์.html
8 ที่มา Azuki Systemsvia eMarketer, September 30, 2008
9 ที่มา http://econsultancy.com/blog/4270-20-of-marketing-emails-missing-inboxes-survey
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit