กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานพายุโซนร้อนกิสนาอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว แต่ยังส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ จึงได้ประสานให้ 15 จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือ พร้อมย้ำมั่นใจ ปภ.สามารถรับมือภาวะฝนตกหนักจากพายุกิสนาได้ เนื่องจากประสานหน่วยงานทุกระดับให้เตรียมพร้อมกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือไว้แล้ว รวมทั้งมีแผนปฏิบัติเผชิญเหตุในภาวะฉุกเฉินไว้รองรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีประสิทธิภาพ
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน “กิสนา” ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามและลาวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวผ่านแนวจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ในวันนี้ ซึ่งอิทธิพลของพายุดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีลมแรง โดยเฉพาะพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีปริมาณฝนมากกว่า 100 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ ส่วนภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางจะได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้ แต่ปริมาณฝนน้อยกว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสานให้ 15 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย มุกดาหาร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งที่ราบลุ่ม ริมแม่น้ำ ที่ราบเชิงเขา และใกล้ทางน้ำไหลผ่านให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ หมั่นติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากพบสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ ให้รีบอพยพขึ้นที่สูงไปตามเส้นทางปลอดภัยที่ได้ฝึกซ้อมไว้ พร้อมทั้งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัยอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที หากสถานการณ์รุนแรง และจำเป็นต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดที่ได้ฝึกซ้อมไว้ ตลอดจนสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยประสานการเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และการแจ้งเตือนภัยกับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมั่นใจว่าจะสามารถรับมือพายุกิสนาได้อย่างแน่นอน เนื่องจากได้ประสานหน่วยงานทุกระดับให้เตรียมพร้อมทั้งด้านกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีแผนปฏิบัติการรองรับ แผนการเผชิญเหตุในภาวะฉุกเฉิน และแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีประสิทธิภาพภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนได้กำชับให้เครือข่ายอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) กว่า 1,133,215 คน ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล รวม 67,936 คน อาสาสมัครแจ้งเตือนภัยดินถล่ม จำนวน 9,553 คน ให้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นพิเศษ และจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินไว้แล้ว จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับพายุกิสนา เพราะอิทธิพลของพายุดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักเท่านั้น ไม่มีความรุนแรงจากลมพายุแต่อย่างใด ท้ายนี้ หากประชาชนในพื้นที่ใดได้รับความเดือดร้อนจากพายุกิสนา สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit