กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--แอสทีน่า
เครื่องใช้ไฟฟ้าแอสทีน่า นำ 2 นวัตกรรม สู้ศึกไตรมาส 4 ส่ง iSlim Max ใหม่ 5000 วัตต์ เข้าตลาดการแข่งขันเครื่องทำน้ำอุ่น ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในพื้นที่หนาวมากอย่างภาคเหนือและอีสาน พร้อมเข็นพัดลมไอหมอกใหม่ AC 004 จับตลาดประหยัดพลังงานชัดเจน ชูกลยุทธ์การขายกระจายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแอสทีน่า สู่ผู้บริโภคอย่างทั่วถึง แบบ Take it easy ทั่วประเทศกว่า 300 สาขา พร้อมลดกระหน่ำกว่า 80% ในงาน Clearance Sale เชื่อไตรมาสสุดท้าย สวนกระแส กว่าไตรมาส 3 กว่า 20%
นางรัตนา วัฒนกรวิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แอสทีน่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและครัวเรือน และยังเดินหน้าชูนโยบายการผลิตและนำเข้าสินค้าที่มีคุณภาพ แม้การแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีการแข่งขันกันสูง สำหรับแผนงานของแอสทีน่าฯ ยังคงมุ่งไปที่การผลักดันและค้นหาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้คนไทยได้ใช้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายสำหรับคนไทย และเป็นสินค้าคุณภาพและประหยัดพลังงาน และไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าคุณภาพใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาด
สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้าย เข้าสู่ฤดูกาลปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเครื่องทำน้ำอุ่น แอสทีน่าฯ ได้ออกสินค้าใหม่ ไอสลิม แม็ก iSlim Max ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติให้มีความร้อน จาก 4000 วัตต์ เป็น 5000 วัตต์ มี 2 สีให้เลือกคือ สีขาวและดำ ลวดลายสวยงาม หนึ่งเดียวในประเทศไทย คุณสมบัติอื่นๆ ของ iSlim Max ยังคงบางเฉียบเพียง 45 มิลลิเมตร มีนวัตกรรมใหม่ด้วยแผ่นเซรามิคประสิทธิภาพสูงในการแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นความร้อน ด้วยช่องส่งน้ำภายในที่ให้ความร้อนอย่างทั่วถึงและแรงดันน้ำอย่างสม่ำเสมอ มีระบบชุดทำความร้อนหลายชุด การส่งผ่านกระแสความร้อนด้วยระบบผิวแนบสัมผัส มีระบบป้องกันไฟฟ้ารั่วด้วยฉนวนไมก้า ตัดไฟอัตโนมัติภายใน 0.005 วินาที ควบคุมและลดกระแสไฟฟ้าด้วยตัวเองเมื่อความร้อนเกินพิกัด iSlim Max สวยหรู บางเฉียบ ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน
“ ในขณะที่เครื่องทำน้ำอุ่น iSlim ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ในส่วนของพัดลมไอหมอก ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเช่นกัน ในไตรมาส 4 นี้แอสทีน่าฯ ก็มีพัดลมไอหมอกรุ่นใหม่ คือ พัดลมไอหมอก รุ่น AC 004 สีขาวมุกสะอาดตา หลังจากพัดลมไอหมอกสีแดงสดใสได้อวดโฉมไปก่อนหน้านั้น AC 004 ยังคงเป็นพัดลมไอหมอกที่ให้ความเย็น ด้วยระบบพ่นไอน้ำละอียดดุจไอหมอก ด้วยระบบอัลตร้าโซนิค ทำให้โมเลกุลน้ำแตกตัวจนละเอียดขนาด 1-5 ไมคอน ทำให้ละอองน้ำไม่เปียกชื้น รูปทรงทันสมัย เคลื่อนย้ายสะดวก แข็งแรง ทนทาน ควบคุมด้วยระบบหน้าจอดิจิตอล พร้อมรีโมทคอนโทรลควบคุม ใช้ไฟเพียง 50 วัตต์ สำหรับพัดลม และ 30 วัตต์
สำหรับผลิตไอหมอก เติมน้ำเย็นบริสุทธิ์เพื่อลมเย็นสบายได้ถึง 1.5 ลิตร หมุนได้ 90 องศาซ้าย –ขวา ด้วยลมแรง 3 ระดับ มีโหมดการทำงาน 3 แบบ คือแบบปกติ แบบธรรมชาติ และแบบพักผ่อน พร้อมฟังชันก์ปล่อยประจุลบ เพื่อทำให้อากาศบริสุทธิ์และสดชื่น พิเศษในฟังชั่นก์ไล่ยุง ใช้งานง่ายเพียงเสียบแผ่นไล่ยุงด้านหลังตัวเครื่องเท่านั้น สำหรับพัดลมไอหมอก เป็นสินค้าที่ประหยัดพลังงาน และในขั้นตอนต่อไป แอสทีน่าฯ จะจัดกลุ่มพัดลมไอหมอกให้อยู่ในหมวดการประหยัดพลังงานอย่างชัดเจน ในแนวทางที่แอสทีน่า สนับสนุนให้ใช้พัดลมไอหมอกแทนแอร์ และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย โดยแอสทีน่าฯ จะขยายตลาดในกลุ่ม โรงแรม ภัตตาคาร หรือในงานจัดเลี้ยง ต่างๆ และจะมีโซนแสดงให้เห็นการประหยัดพลังงานด้วยพัดลมไอหมอก และจะเปิดตัวครั้งแรกที่ แมคโคร สาธร ในเร็วๆ นี้” นางรัตนา กล่าว
นางรัตนา กล่าวต่ออีกว่า แอสทีน่าฯ จะใช้เครื่องทำน้ำอุ่น และ พัดลมไอหมอก เป็นตัวผลักดันยอดขายในฤดูกาลนี้ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาส 3 กว่า 20% นอกจากนี้ได้เพิ่มช่องทางการตลาด โดยนำกลยุทธ์การขายแบบ Take it easy ด้วยการวางจำหน่ายที่ Hyper Market, Department store ทั่วประเทศ เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมาก การวางการจัดการเรื่องกระจายสินค้า การจัดการพนักงานสินค้า ต้องจัดการได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง วิธีการนี้จึงเหมาะสมในการแข่งขันในปัจจุบัน โดย สินค้าของแอสทีน่าฯ กระจายไปทั่วประเทศ กว่า 300 แห่ง อาทิ เทสโก้ โลตัส 78 สาขา, คาร์ฟู 37 สาขา, บิ๊กซี 67 สาขา, แมคโคร 43 สาขา, เพาเวอร์บาย 30 สาขา, โฮมโปร 15 สาขา, เดอะมอลล์ 4 สาขา, โกบอล เฮาส์ 6 สาขา, ไทยมาร์ท 2 สาขา และดีลเลอร์ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
นอกจากการผลักดันยอดขายโดยตัวสินค้าแล้ว แอสทีน่าฯ ยังจัดงาน Clearance Sale เพื่อคืนกำไรลูกค้า โดยลดกระหน่ำ 20-80% ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยยกขบวนเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอสทีน่ามากกว่า 50 รายการ อาทิ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องทำน้ำอุ่น เตาฝัง เครื่องดูดควัน เตาอบ และ อ่างล้างจาน ในงานนี้ลูกค้าจะได้จับจ่ายแบบสบายกระเป๋า ได้สินค้าที่ทันสมัยและมีคุณภาพ ทั้งนี้ แอสทีน่า Clearance Sale เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม ที่ โฮมโปร พระราม 2 ส่วนที่ แม็กซ์ แวลู สาขานวมินทร์ เริ่มวันที่ 16 - 31 ตุลาคมนี้ คือใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ในงาน Clearance Sale สาขาอื่นๆ จะทยอยจัดงานคืนกำไรลูกค้าตลอดไตรมาส 4 นี้ และยังเชื่อมั่นว่า ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจสินค้าของแอสทีน่า และแอสทีน่าฯ ยังยึดนโยบายที่จะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ประหยัดพลังงาน และรักษ์สิ่งแวดล้อมต่อไป
www.astinathailand.com
ASTINA Room ซอยรามคำแหง 43/1
Call Center 1800-292-882 และ 1800-292-552
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit