บทวิเคราะห์ mai จากสถาบันวิจัยนครหลวงไทย 16 ต.ค. 2552

16 Oct 2009

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--SET

TRT - การชะลอส่งมอบงานมูลกว่า 200 ล้านบาท เป็นปัจจัยระยะสั้นที่กระทบให้ผลการดำเนินงานใน Q3/52 ของ TRT มีแนวโน้มปรับลดลง 19% qoq เป็น 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การส่งมอบงานดังกล่าวไปแล้วในเดือนต.ค. 2552 ประกอบกับการรับรู้รายได้จากงานในมือสม่ำเสมอ คาดจะทำให้กำไรใน Q4/52 กลับมาเติบโตโดดเด่น 102% qoq และส่งผลต่อเนื่องให้กำไรสุทธิปี 2553 ขยายตัวตามคาดที่ 260 ล้านบาท สำหรับอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าในอีก 3 ปีข้างหน้าที่ยังเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี ผลักดันให้เกิดกำลังซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทในอีก 3 ปีข้างหน้าไม่ต่ำกว่าปีละ 13% โดยความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินบริษัท ทำให้สภาพคล่องในการดำเนินงานบริษัททรงตัวอยู่ในระดับสูง และ SCRI ประเมิน TRT สามารถจ่ายปันผลในระดับสูงต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 9.2% นอกจากนี้ ความเสี่ยงในการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ โดย SCRI จัดอันดับความเสี่ยงจากการลงทุนที่ระดับ B ทำให้ SCRI ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมีราคาเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานปี 2553 เท่ากับ 9 บาท/หุ้น

ชะลอการส่งมอบงานไปใน Q4/52 ส่งผลให้กำไรสุทธิ Q3/52 ลดลง 19% qoq: การเลื่อนส่งมอบงานให้กับลูกค้ามูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาทไปใน Q4/52 (โดยปัจจุบันได้มีการส่งมอบเรียบร้อยแล้วในเดือนต.ค. 2552) ส่งผลให้แนวโน้มรายได้ใน Q2/52 ปรับลดลง 49% qoq เป็น 305 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทอาจบันทึกมูลค่างานที่ได้รับความเสียหายและมีอัตรากำไรต่ำจำนวน 20 ล้านบาท ทำให้อัตรากำไรขึ้นต้น (GPM) ลดลงเป็น 25% จาก 27.4% ใน Q2/52 อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลงจาก 15% ใน Q2/52 เป็น 11% ประกอบกับการรับเงินค่าประกันคืนจากความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว คาดจะทำให้ผลการดำเนินงานใน Q3/52 ยังทรงตัวในระดับสูงที่ 40 ล้านบาท เปรียบเทียบกับผลขาดทุนสุทธิที่ 12 ล้านบาทใน Q3/51 แต่ลดลง 19% qoq จาก 50 ล้านบาทใน Q2/52

กำไรใน Q4/52 ขยายตัวโดดเด่น 102% qoq ทำให้ SCRI ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2552 ที่ 260 ล้านบาท: การรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 204% qoq เป็น 929 ล้านบาท เนื่องจากการส่งมอบงานที่ค้างมาจากใน Q3/52 และการรับรู้รายได้สม่ำเสมอจากมูลค่างานในมือที่มีกว่า 1,479 ล้านบาท ณ สิ้น 31/07/52 ประกอบกับ 70% ของการส่งมอบเป็นหม้อแปลงกำลังที่มีอัตรากำไรสูง ช่วยหนุนให้ GPM กลับมาสู่ระดับปกติที่ 27% อีกครั้ง กำไรสุทธิใน Q4/52 ที่คาดจะปรับขึ้นโดดเด่น 102% qoq เป็น 81 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิปี 2552 ของ TRT ยังเติบโตตามคาดที่ 260 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 28% yoy

อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าและโรงกลั่นที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้มีการประมูลงานสม่ำเสมอ ช่วยต่อยอดให้กำไรปี 2553-2555 เติบโต 13% CAGR: การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมภายในประเทศ ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศช่วงปี 2553-2555 เติบโตเฉลี่ย 5% เป็น 23,936 25,085 และ 26,572 เมกะวัตต์ ปัจจัยดังกล่าว ทำให้มีงานประมูลเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างการประมูลงานเพิ่มเติมภายในปี 2552 จาก กฟผ และกฟภ มูลค่า 500 และ 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ 3 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ยปีละ 11% ขณะที่การมุ่งเน้นการรักษาส่วนต่างระหว่างหม้อแปลงกำลังต่อหม้อแปลงจำหน่ายให้อยู่สูงกว่า 60:40 คาดจะทำให้ GPM ของบริษัททรงตัวในระดับสูงกว่า 27% และหนุนให้ผลประกอบการของบริษัทใน 2553-2555 ขยายตัวไม่ต่ำกว่าปีละ 13% เป็น 317 362 และ 401 ล้านบาท ตามลำดับ

หุ้น Defensive ที่จ่ายปันผลในระดับสูงกว่า 9.2% ดังนั้น SCRI ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” 9 บาท/หุ้น: ความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลบวกให้ผลการดำเนินงานของ TRT ในอีก 3 ปีข้างหน้าเติบโตมั่นคงเฉลี่ยปีละ 13% CAGR อีกทั้ง โครงสร้างทางการเงินที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดเงินปันผลจ่ายปี 2552 เท่ากับ 0.57 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเท่ากับ 9.2% ดังนั้น SCRI แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2553 เท่ากับ 9 บาท/หุ้น (DDM, Re 11% G 3.5%, Payout Ratio 50%)